ในไม่ช้า ชายหนุ่มที่แต่งตัวสง่าดูดีคนหนึ่ง สาวเท้าก้าวเข้ามา ภายใต้วงล้อมของคนตระกูลซ่ง
ซ่งหรงวี่และพ่อของเขาซ่งเทียนหมิง ตามประกบซ้ายขวาของชายหนุ่มคนนั้นอยู่ตลอด ดูกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัดยิ่ง
ส่วนคุณท่านซ่งและซ่งหวั่นถิงก็ติดตามอยู่ที่ด้านหนึ่ง เพียงแต่ท่าทีของซ่งหวั่นดูค่อนข้างเย็นชาเล็กน้อย
เย่เฉินมองชายหนุ่มคนนั้น อายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด ท่าทางเย่อหยิ่งนัก
เฉินจื๋อข่ายที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเสียงเบา “ผมว่าคุณชายสามคนนี้ ให้เขารู้สึกเหมือนมังกรที่มาเยือนบ่อปลา เขาต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่ามังกรที่แท้จริงอย่างนายน้อย จะแฝงกายอยู่ในบ่อปลาเล็กๆ อย่างเมืองจินหลิงแห่งนี้”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง ไม่ได้แสดงความเห็นต่อคำพูดของเขา
อันที่จริงเย่เฉินไม่ได้ใส่ใจคนที่วางมาดใหญ่โตอยู่ตรงหน้าตนเลย
ต่อให้คนอื่นจะวางมากใหญ่โตแค่ไหน นั่นก็เป็นเรื่องของตัวคนอื่น ขอเพียงไม่ล้ำเส้นมาหาตนคิดจะตลบตะแลงยังไง ตนก็คร้านจะสนใจเขา
ในกลุ่มคนมีเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจเป็นระลอก ใครก็คาดไม่ถึงกันทั้งนั้นว่า คุณชายสามตระกูลขงจะมาจริงๆ
มีตระกูลปลายแถวบางส่วนในบรรดานี้ที่อยากจะสานสัมพันธ์กับตระกูลขง สายตาที่พวกเขามองคุณชายสามตระกูลขง ราวกับแมวตะกละที่เห็นของคาวไม่มีผิด
คนตระกูลซ่งเดินเข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับคุณชายสามตระกูลขง คุณท่านซ่ง พาเขาไปพบเย่เฉินก่อนเป็นอันดับแรก แนะนำต่อเย่เฉินอย่างสุภาพน้อบน้อม เอ่ยว่า “คุณชายสาม ท่านนี้คือปรมาจารย์เย่ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองจินหลิง เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือคนตระกูลซ่งเอาไว้ เช่นเดียวกันกับคุณ ล้วนเป็นคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์ทั้งคู่ เป็นหงส์มังกรในหมูมนุษย์”
สายตาอของคุณชายสามตระกูลขงมองประเมินร่างของเย่เฉินแวบหนึ่ง รู้สึกว่าไอ้หนุ่มนี้ก็ดูไม่มีจุดไหนสะดุดตาเลยสักนิด การแต่งตัวก็ไม่ต่างไปจากคนทั่วไปเลย
ขณะที่คุณชายสามตระกูลขงคิดจะพูดจาเหยียดหยามเย่เฉินสักประโยคสองประโยค แต่ที่คาดไม่ถึงคือ เมื่อเหลือบมองด้านข้าง จะได้เห็นเฉินจื๋อข่ายเข้า
คุณชายสามตระกูลขงย่อมรู้จักเฉินจื๋อข่าย ถึงอย่างไรเฉินจื๋อข่ายก็เป็นคนของตระกูลเย่
และอิทธิพลของตระกูเย่ก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลขงมากมายเหลือเกิน ต่อให้ตระกูลขงก็ยังมีใจอยากประจบประแจงตระกูลเย่เช่นกัน ดังนั้นพอเขาเห็นเฉินจื๋อข่ายอยู่ที่นี่ ก็ประหลาดใจขึ้นมา
จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เฉิน รู้สึกว่าจู่ๆ การที่เฉินจื๋อข่ายมาอยู่ที่นี่ ไอ้หนุ่มนี้ก็แซ่เย่ ถ้างั้นเขาจะใช้นายน้อยของตระกูลเย่หรือเปล่านะ?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ คุณชายสามตระกูลขงก็เอ่ยกับเย่เฉินอย่างมีมารยาทว่า “ไอ้หยา ที่แท้ก็นายน้อยเย่นี่เอง ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว ช่วงก่อนผยังอยากจะไปเยี่ยมเยียนที่ตระกูลเย่อยู่เลย แต่ไม่สมปรารถนามาโดยตลอด ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้พบนายน้อยเย่ที่นี่”
เย่เฉินยิ้มบางๆ แวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “คุณผู้ชายท่านนี้น่าจะจำคนผิดแล้วล่ะครับ ผมไม่ใช่นายน้อยของตระกูลเย่ แค่บังเอิญแซ่เย่เท่านั้น”
คุณชายสามตระกูลขงรีบมองไปที่เฉินจื๋อข่ายทันที เอ่ยถามอย่างแฝงความเคารพนบน้อบไว้หลายส่วน “คุณชายเฉินครับ คุณเป็นคนตระกูลเย่ ท่านนี้ใช่นายน้อยของตระกูลเย่หรือเปล่าครับ?”
เฉินจื๋อข่ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณก็ได้ยินปรมาจารย์เย่พูดแล้วนี่ เขาแค่บังเอิญแซ่เย่เท่านั้น”
คุณชายสามตระกูลขงพยักหน้า ยามที่มองเย่เฉิน แววตาก็เต็มไปด้วยความดูหมิ่นอยู่หลายส่วน
———-