ตอนที่ 1587 : ร่างบรรพกาลขั้น 7

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1587 : ร่างบรรพกาลขั้น 7

เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อได้มาถึงตรงหน้าศิลาเซียนหยินหยางอีกครั้งและทำการดูดซับพลังงาน การบ่มเพาะของทั้งสองคนได้มาถึงจุดสูงสุดของระดับตัวเองและกำลังจะก้าวขึ้นสู่ขั้นต่อไป ดังนั้นพลังงานที่ดูดซับในครั้งนี้จึงช่วยพวกเขาในการก้าวข้ามคอขวดได้

หลายวันต่อมาเจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อขึ้นถึงขีดจำกัดของพลังงานที่ดูดซับได้จึงพากันกลับไป พวกเขาไปปรับพลังงานครั้งสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนพลังงานที่ดูดซับมาให้เป็นของตัวเอง

มันก็เหมือนกับครั้งก่อน เจี้ยนเฉินเลือกที่จะบ่มเพาะในจุดที่ห่างออกมา 100 กม. เขานั่งอยู่ที่พื้นดินอันแห้งแล้งและหลับตาลงช้า ๆ พลังบรรพกาลในตัวเขาเริ่มโคจรอย่างรวดเร็ว ตอนที่เขาใช้วิธีบ่มเพาะของตัวเอง พลังงานที่เขาเพิ่งจะดูดซับมาก็หลอมรวมเข้ากับพลังบรรพกาลจนทำให้พลังบรรพกาลในตันเถียนนั้นเต็มเปี่ยม

ตอนที่ เจี้ยนเฉิน ปรับพลังงานทั้งหมดเป็นพลังบรรพกาล เม็ดพลังบรรพกาลขนาดเท่ากับกำปั้นก็ก้าวข้ามขีดจำกัดของมันแล้วเกิดระเบิดออกมา พลังบรรพกาลที่ซ่อนอยู่ด้านในได้ไหลออกมาราวกับน้ำท่วม มันเติมเต็มทุกส่วนของร่างกายในทันที เพียงไม่นานร่างของเขาก็เต็มไปด้วยพลังงาน เม็ดพลังบรรพกาลในตันเถียนได้เปลี่ยนเป็นพลังบรรพกาลที่ปะทุออกมา

เจี้ยนเฉินตัวสั่นระริก ใบหน้าของเขาซีดเซียว เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาที่หน้าผากพร้อมกับใบหน้าที่ดูเจ็บปวด ร่างกายของเขาบวมเปล่งอย่างกับลูกโป่งและยังขยายขนาดอย่างต่อเนื่อง เขากลายเป็นยักษ์ที่สูงกว่า 9 เมตรในทันที

ทุกครั้งที่ทะลวงผ่านร่างบรรพกาล เจ้าของร่างจะต้องทนกับความเจ็บปวดมหาศาล ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ก้าวข้ามจากขั้น 6 มาขั้น 7 ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมานั้นเทียบไม่ได้กับการเลื่อนจากขั้น 5 ขึ้นมาขั้น 6 เพราะขั้น 7 นี้เท่ากับการเข้าถึงความสำเร็จบางส่วนของร่างบรรพกาล ขั้น 7 นี้ไม่เหมือนกับ 6 ขั้นแรกซึ่งเป็นความสำเร็จขั้นต้น

ผลก็คือความเจ็บปวดที่เจี้ยนเฉินได้รับในครั้งนี้ก็มากกว่าครั้งก่อน ๆ ตอนที่ทะลวงผ่าน

เจี้ยนเฉินตัวสั่นระริกอย่างหนัก ฟันเขาเริ่มแตกออกเพราะเขากัดมันแน่นเกินไป มือเขาที่บวมได้กำเป็นหมัด ความเจ็บนี้แทบจะทำให้เขาสลบจนทำให้สติเลือนราง

เจี้ยนเฉิน รู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ ดังนั้นเขาจึงต้องกัดปลายลิ้นจนขาดไปหนึ่งในสามส่วน เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่บีบหัวใจแต่เขาก็ไม่ได้สลบ เขากลับได้สติกลับมาช้า ๆ เขาเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการบ่มเพาะในครั้งนี้

พลังบรรพกาลจำนวนมหาศาลโคจรอย่างบ้าคลั่งทั่วตัวเจี้ยนเฉินราวกับม้าป่า พวกมันท่องไปทุกส่วนทำลายอวัยวะภายใน, ทำลายเส้นเลือด, และทำลายกระดูกของเขา แม้แต่เนื้อของเขาก็ยังมีแผลจากพลังที่โคจรนี้ เลือดไหลออกมาจากรูขุมขนซึ่งทำให้ดูราวกับผิวเขาทำขึ้นมาจากเลือด มันเป็นสิ่งน่ากลัวเมื่อเห็นมัน

เจี้ยนเฉิน ฝึกวิธีบ่มเพาะของร่างบรรพกาล ดังนั้นเขาจึงเพ่งสมาธิไปกับการฟื้นฟูตัวเอง เขาไม่ได้ใช้พลังงานดั้งเดิมของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง เขาพึ่งความสามารถฟื้นฟูตัวเองของร่างบรรพกาลเท่านั้น

ร่างบรรพกาลฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายเขาต้องถูกทำลายไปก่อนถึงจะฟื้นฟูมันได้อีกครั้ง กระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างบรรพกาลของเขาจะสลับกันไปมาระหว่างการทำลายและการฟื้นฟู แต่ร่างกายของเขานั้นจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา มันไม่ใช่แค่ปรับปรุงกล้ามเนื้อแต่ยังรวมไปถึงอวัยวะภายใน, เส้นเลือดและกระดูกทุกชิ้นในร่างกาย

ตอนที่ร่างกายเขาแข็งแกร่งขึ้นมา ความเจ็บปวดที่ได้รับก็ลดลงช้า ๆ พลังบรรพกาลที่อยู่ในตัวเริ่มที่จะสงบลงและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เขาควบคุมอัดแน่นพลังงานบรรพกาลให้สงบลงในตัวเขาได้

เพราะพลังบรรพกาลในตัวโดนอัดแน่น ร่างกายของเขาก็เริ่มกลับมาขนาดเดิมด้วยเช่นกัน

เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ว่าพลังบรรพกาลนั้นแข็งแกร่งขึ้นและพลังของเขาก็เพิ่มขึ้น เขาเข้าใกล้ขั้น 7 มากกว่าเดิม

แต่เจี้ยนเฉินก็รับรู้ได้ถึงแรงที่ขัดขวางเขาที่อยู่ ๆ ก็โผล่มา ตอนที่มันปรากฏตัวขึ้นมา พลังบรรพกาลในตัวเขาก็หยุดเติบโต เขาหยุดก้าวขึ้นไปยังขั้น 7

” การก้าวข้ามจากขั้น 6 เป็น 7 ต้องการความเข้าใจเส้นทาง ข้าได้เข้าใจเส้นทางหนึ่งแล้วและก้าวหน้ามันได้เล็กน้อย วันนี้ข้าจะใช้เส้นทางแห่งกระบี่เป็นกุญแจเปิดเข้าสู่ขั้น 7″ เจี้ยนเฉินตัดสินใจ เขาเพ่งสมาธิไปยังเส้นทางแห่งกระบี่และใช้ความเข้าใจของเขาในตัวมันในการกำจัดอุปสรรคที่ปรากฏขึ้นมา

“นายท่าน เรากำลังจะถ่ายความเข้าใจในความลึกลับของโลกบนทวีปเทียนหยวนเพื่อที่ท่านจะเพ่งสมาธิไปยังเส้นทางแห่งกระบี่และก้าวข้ามไปขั้น 7 ของร่างบรรพกาล หากความเข้าใจความลึกลับของโลกจากทวีปเทียนหยวนยังอยู่ มันจะส่งผลต่อการบ่มเพาะในอนาคตของท่าน” ตอนนั้นเสียงจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังก้องขึ้นในหัว เจี้ยนเฉิน ไม่นานหลังจากที่พวกนั้นพูด จือหยิงและฉิงโซวก็โผล่มาในหัวของเขา พวกนั้นดูตึงเครียด

“นายท่าน เนื่องจากเรายังไม่ฟื้นฟูตัวเองดี เราจึงไม่อาจจะถ่ายความเข้าใจของ่านได้เพราะความแข็งแกร่งของวิญญาณท่านในตอนนี้ เราต้องให้ท่านช่วย เราจะทำสำเร็จได้เมื่อมีท่านช่วยเท่านั้น” จือหยิงพูดขึ้น

เจี้ยนเฉินไม่ลังเลที่จะช่วย เขาเริ่มทำหลายอย่างพร้อมกันมุ่งเน้นไปยังการก้าวข้ามไปขั้น 7 พร้อมกับร่วมมือกับจิตวิญญาณกระบี่ เขายอมละทิ้งความเข้าใจของความลึกลับในโลก

ในอดีตนั้นความเข้าใจความลึกลับในโลกโดนหยุดไว้โดยจิตวิญญาณกระบี่ตอนที่เขากำลังจะก้าวขึ้นเป็นเซียนราชา จากนั้นมา เจี้ยนเฉินก็รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงตอนที่เขาต้องละทิ้งความเข้าใจของเขาไป นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงให้ความเข้าใจต่อความลึกลับบนโกลยังคงอยู่ที่ขั้น 9 ของเซียนผู้คุมกฎ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นมาตลอดหลายปี และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ได้มีความสามารถสร้างประตูมิติขึ้นมา ซึ่งทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก เขาต้องให้คนอื่นช่วยในการเดินทางไปยังที่ไกล ๆ มีแค่ตอนที่เขาสร้างกระบี่คู่นี้ขึ้นมาเขาถึงแก้ปัญหาของตัวเองได้

เจี้ยนเฉินแทบเชื่อจะทุกคำพูดของจิตวิญญาณกระบี่ เขารู้ว่าจือหยิงและฉิงโซวไม่ใช่จิตกระบี่ธรรมดา พวกนี้คือคนรับใช้และอาจารย์ของเขา มันมีหลายอย่างที่พวกนี้ส่งต่อให้กับเขาตามเส้นทางการบ่มเพาะของตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยตอนที่จิตกระบี่นั้นต้องการให้เขาถ่ายความเข้าใจต่อความลึกลับบนโลก

ด้วยการสนับสนุนของเจี้ยนเฉินและการชี้แนะของจิตกระบี่ มันก็ชัดแล้วว่ามันไม่ได้ยากที่จะลบความเข้าใจขั้น 9 จากวิญญาณขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายของเขา ไม่นานเจี้ยนเฉินก็รู้สึกว่าเขาลืมบางอย่างไป ความเข้าใจของเขาถูกลบไปจนหมด

เจี้ยนเฉิน ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยที่ความลึกลับของโลกหายไป กลับกันแล้วเขารู้สึกว่าวิญญาณของเขาชัดเจนขึ้นมา เขารู้สึกว่าเส้นทางแห่งกระบี่นั้นง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมาก

ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ใช้เส้นทางแห่งกระบี่เป็นกุญแจสร้างเส้นทางจนสุดท้ายก็เข้าถึงขั้น 7 ของร่างบรรพกาลได้ เขาก้าวหน้าขึ้นมายังความสำเร็จบางส่วนของร่างบรรพกาล

เม็ดพลังบรรพกาลขนาดเท่ากับกำปั้นได้หายไปจากจุดตันเถียนแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยอันที่ขนาดเท่ากับเม็ดถั่วแทน

ร่างกายของเจี้ยนเฉินกลับมามีขนาดเท่าเดิม เลือดที่ไหลออกมาทั้งหมดถูกดูดกลับไปในร่างกาย ร่างบรรพกาลของเขาได้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเขาทนการโมตีจากขั้นรับมอบได้โดยไม่ต้องหลบหรือป้องกันเลยแม้แต่น้อย

อันที่จริงเขารู้สึกว่าการโจมตีเต็มกำลังของขั้นรับมอบนั้นไม่อาจจะทำอันตรายเขาได้เลยแม้แต่น้อย