ตอนที่ 1594 : 1 ต่อ 7

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เจ้าอ่อนแอกว่าข้าเมื่อ 20 ปีก่อนและมีพลังแค่ขั้นย้อนกลับช่วงปลาย มันเป็นไปไม่ได้ที่ความแข็งแกร่งของเจ้าจะลุดหน้าไปถึงขนาดนี้ในเวลาแค่ 20 ปี” โอวหยางหยิงเว่ยมองไปที่เจี้ยนเฉิน มันมีความตะลึงและกลัวอยู่ในสายตาของเขา

“เจ้าปกปิดความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ไว้งั้นรึ ? ” โอวหยางหยิงเว่ยถาม เขาเครียดอย่างมาก เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนที่เพิ่มความแข็งแกร่งตัวเองได้ขนาดนี้ในเวลาแค่ 20 ปีเมื่อไม่มีพลังงานดั้งเดิม

ความเร็วในการพัฒนานี้น่าตกใจ แม้แต่จิตวิญญาณราชันย์ที่เป็นอัจฉริยะที่น่าประทับใจของประวัติศาสตร์ทั้งหมดก็ไม่อาจจะพัฒนาความแข็งแกร่งได้รวดเร็วแบบนี้

“ฮือ พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ! ข้ารู้ว่าท่านต้องกลับมา คนมากมายบอกว่าท่านทิ้งเราไปและไปยังโลกเซียนแล้ว” เสี่ยวหลิงร้องไห้ออกมาและไปยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน นางเกาะแขนเขาไว้พร้อมกับสะอื้น

คนที่เคยบอกว่าเจี้ยนเฉินได้ทิ้งพวกเขาไปต่างก็แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา พวกเขาต่างก็รู้สึกผิดและอึดอัด พร้อมทั้งกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะถือสาเรื่องนี้ ยังไงซะสิ่งที่พวกเขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นคำดูหมิ่น พวกเขาประนามราชันที่เคยช่วยพวกเขาไว้

เจี้ยนเฉินมองไปที่เสี่ยวหลิงด้วยสายตาเอ็นดูและอดไม่ได้ที่จะแสดงความรักต่อนาง “เสี่ยวหลิง ข้าไม่มีทางทิ้งเจ้า เจ้าอดทนมานานแล้ว ปล่อยให้ข้าจัดการที่เหลือเอง”

เสี่ยวหลิงพยักหน้า นางมองไปที่โอวหยางหยิงเว่ยด้วยความโกรธและไม่พอใจ “พี่ใหย่ เจ้าคนชั่วร้ายนั่น เขาทำให้น้องเสี่ยวจินและคนอื่น ๆ บาดเจ็บรวมถึงต้องการฆ่าพวกเราทุกคน ท่านต้องสั่งสอนบทเรียนเขาแทนพวกเรา”

เจี้ยนเฉินลูบหัวเสี่ยวหลิงและพูดขึ้นมา “ไม่ต้องกังวล เสี่ยวหลิง ข้าไม่มีทางปล่อยโอวหยางหยิงเว่ยหนีไป ข้าจะสั่งสอนบทเรียนเขาเดี๋ยวนี้” เมื่อพูดจบ เจี้ยนเฉินก็ยกมือขึ้นช้า ๆ หันไปหาโอวหยางหยิงเว่ย ความอาฆาตได้แผ่ออกมาจากตัวเขา

โอวหยางหยิงเว่ยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บส่วนมากขึ้นมาหลังจากที่กินยาอันล้ำค่าเข้าไป เนื้อส่วนอกที่หายไปตอนนี้งอกขึ้นมาใหม่ โอวหยางหยิงเว่ยรู้สึกได้ว่าหัวใจนั้นบีบตัวตอนที่เขาเห็นเจี้ยนเฉินจ้องมาที่เขา เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ ของตน “ในเวลาแค่ 20 ปี ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นมาในระดับที่เราเทียบเท่าไม่ได้ เขาต้องใช้พลังที่ไม่ใช่ของเขาก่อนหน้านี้ เราอาจจะไม่รู้ว่าเขาได้รับพลังนี้มาจากไหน แต่เขาไม่อาจจะใช้มันได้นาน และมันคงเป็นเรื่องดีสำหรับเราหากมันหายไปหลังจากที่ใช้มัน ตั้งค่ายกลเจ็ดสังหารเพื่อจัดการกับเขา”

“เพราะพลังนั้นไม่ได้เป็นของเขา งั้นมาใช้ค่ายกลเพื่อเผาผลาญพลังนั่นและทำให้พลังที่ไม่ใช่ของเขานั้นหมดไป” เฉียงซ่งเห็นด้วยกับโอวหยางหยิงเว่ย เขาไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะยกระดับขึ้นมาได้เช่นนี้ในเวลาอันสั้นเพราะมันน่าเหลือเชื่อจนเกินไป

เฉียงซ่งและโอวหยางหยิงเว่ยร่วมมือกันอีกครั้ง พวกเขากระโดดเข้าประจำตำแหน่งค่ายกลเจ็ดสังหารพร้อมผู้อาวุโสทั้งห้าด้านหลัง แม้ว่าทั้งสองจะไร้เทียมทาน แต่ตอนนี้พวกเขาก็กลัวเจี้ยนเฉินและพลังที่เจี้ยนเฉินมี ดังนั้นพวกเขาจึงยุติความบาดหมางไว้ก่อนชั่วคราวและร่วมมือกันแทน

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้ง 7 คนจากต่างโลกได้รวมพลังกันด้วยการใช้ค่ายกลเจ็ดสังหาร พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นมา แค่พลังจากค่ายกลก็ทำให้มิติแตกออกและพื้นดินยุบตัวลง ตอนนั้นทั้งโลกเหมือนจะสั่นไหวด้วยความกลัว

พลังที่แผ่ออกมามันทรงพลังเกินกว่าขั้นแลกเปลี่ยนช่วงต้นจนถึงช่วงกลาง มันเกินกว่าขีดจำกัดที่สภาพแวดล้อมโดยรอบจะรับไหว

” 7 เป็น 1 กระบี่เจ็ดสังหาร ! ”

จอมยุทธทั้งเจ็ดตะโกนออกมา ทุกคนต่างก็เครียดและปล่อยพลังงานดั้งเดิมที่มีในตัวออกมาโดยไม่ยั้ง ปราณกระบี่สีแดงเลือดกว้าง 30 เมตรอัดแน่นขึ้นมาเหนือหัวพวกเขา มันเปล่งแสงสีแดงและแผ่พลังงานที่ทำให้เกิดคลื่นฉีกกระชากมิติและทำให้เกิดรอยแตกขึ้นมาโดยรอบ

ตอนนั้นทั้งโลกเหมือนกับมืดลงไป ดวงอาทิตย์ได้สูญเสียสีสันของมัน ดวงดาวนั้นหยุดกระพริบ ทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยรอยแตกมิติซึ่งทำให้คนรู้สึกกลัวและตกใจเมื่อเห็นมัน

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากทวีปเทียนหยวนทุกคนต่างก็เครียด พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในปราณกระบี่สีแดง มันสามารถทำลายโลกได้จริง ถ้าพลังงานในกระบี่ระเบิดอกมา มันก็ไม่มีอะไรเหลือในทวีปแห่งนี้

“มู่เอ๋อ ปกป้องดินแดน” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น ตาของเขาแสดงความเย็นชาออกมาพร้อมกับความอาฆาตที่มีต่อศัตรูที่เพิ่มขึ้น

ทวีปเทียนหยวนนั้นเปราะบาง แค่การต่อสู้ระหว่างเซียนจักรพรรดิก็ทำให้ทวีปเสียหายหนักแล้ว นี่ไม่ต้องนับการรวมพลังของจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม 7 คน ถ้าปราณกระบี่ระเบิดออกมา ทวีปเทียนหยวนคงต้องพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่

ซ่างกวนมู่เอ๋อเองก็เข้าใจสถานการณ์นี้ นางไม่ลังเลและนั่งลงไปก่อนจะเริ่มเล่นพิณ นางไม่ได้ใช้เพลงควบคุมวิญญาณของจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงขั้นแลกเปลี่ยนช่วงกลาง แต่คนที่นางเผชิญหน้านั้นไม่ได้อ่อนแอ มันมีขั้นย้อนกลับ 5 คนและขั้นแลกเปลี่ยน 2 คน มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะควบคุมทั้ง 7 คนไว้ได้ด้วยเสียงเพลงแต่ใช่ว่าจะควบคุมสักช่วงเวลาหนึ่งไม่ได้ นางต้องรวมพลังงานซึ่งชัดแล้วว่าตอนนี้มีเวลาไม่พอ ดังนั้นนางจึงเลือกใช้วิธีอื่น

ตอนที่นางเล่นพิณ คลื่นขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นในมิติ แต่ละคลื่นนั้นหนาหลายสิบเมตรและแผ่ออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา หากมองจากไกล ๆ มันดูคล้ายเอ็นของพิณที่ขยายขนาดขึ้นหลายเท่าตัว

ตอนที่คลื่นนั้นแผ่ออกมา พวกมันก็ก่อตัวเป็นแหวนขนาดใหญ่ห่อหุ้มทั้งเขตที่ห่างไปกว่าหมื่นกิโลเมตรเอาไว้ ซ่างกวนมู่เอ๋อเหมือนจะสร้างถ้ำที่ตัดเขตนี้ออกไปทำให้เหมือนกับแยกมันเป็นคนละโลก

ในเวลาเดียวกันจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้ง 7 ก็ได้ใช้ค่ายกล ปราณกระบี่สีแดงได้พุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสง มันมีพลังทำลายล้าง แรงกดดันอันน่ากลัวทำให้เซียนของทวีปเทียนหยวนหลายคนต้องกระอักเลือดออกมาจากปาก แม้แต่เซียนราชาก็ยังต้องยากจะปกป้องตัวเองจากแรงกดดันอันน่ากลัวนี้ได้

เจี้ยนเฉินเย้ยหยันออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับสายตาที่ดูเยือกเย็นขึ้น เขาใช้นิ้วเป็นกระบี่ แสงได้ไปรวมตัวกันจากรอบข้างอัดแน่นเป็นปราณกระบี่ในทันที เขาก้าวออกไปก่อนจะหายตัวไป ตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งเขาก็อยู่ตรงหน้าปราณกระบี่สีแดง เขาแทงไปที่ปราณกระบี่นั้นด้วยปราณกระบี่สีขาวในมือ