ตอนที่ 3103

War sovereign Soaring The Heavens

เผชิญหน้ากับเจียงหลานที่ดิ่งลงฟ้ามาพร้อมสภาวะพลังดุดันแกร่งกร้าว สองตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลงวูบหนึ่งก่อนจะเบิกกว้างขึ้นในฉับพลัน มองไปในแววตาดั่งจะมีเพลิงขุมหนึ่งปะทุ!

 

ปงงงง!!

 

ซู่มมม!!

 

 

ร่างต้วนหลิงเทียนไหววูบคราหนึ่งก่อนปะทุพลังออกอย่างเกรี้ยวกราดปานจุดระเบิด ส่งตัวคนให้พุ่งทะยานสวนขึ้นใส่เจียงหลานที่เข่นฆ่าสังหารลงมา!

 

หนึ่งดาบสับลงปลดปล่อยคลื่นดาบสีฟ้า หนึ่งกระบี่ตวัดขึ้นซัดรังสีกระบี่สีแดง!

 

เปรี๊ยงงง!! ครืนนนน!!

 

หนึ่งน้ำหนึ่งไฟปะทะกันกลางหาวสนั่นลั่นถ้ำ ดั่งจะบอกว่าน้ำไฟไม่ไม่อาจอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันได้!

 

และในขณะที่ขุมพลังหนึ่งน้ำหนึ่งไฟปะทะต้านทานกันกลางหาว ราวกับยากจะตัดสินผลแพ้ชนะได้ในเวลาอันสั้นนั้นเอง

 

บังเกิดกลิ่นหอมหนึ่งฟุ้งขจรขจายไปทั่วโถงถ้ำอย่างกะทันหัน!

 

ต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆเมื่อสูดได้กลิ่นหอมดังกล่าว ก็เผลอหันไปมองยังแหล่งกำเนิดกลิ่นหอมจรุงดังกล่าวทันที

 

ทันใดนั้นทั้งหมดพลันเห็นว่า…

 

บริเวณปลายยอดต้นไม้เทพสังเวยสวรรค์ ปรากฏผลไม้อมตะสีแดงเลือดนกขนาดเท่าก้ำปั้นผู้ใหญ่ 2 ผล

 

ผลไม่สีแดงเลือดนกห้อยแขวนอยู่ตรงนั้น ห้อมล้อมไปด้วยอัสนีสีแดงปานอสรพิษโลหิตมุดเข้ามุดออก แล่นวาบแปลบปลาบแลดูงดงงามพิกล

 

‘นั่นมัน…ตัวอ่อนผลเทพสังเวยสวรรค์ เติบโตกลายเป็นผลเทพสังเวยสวรรค์ได้สำเร็จแล้ว!?’

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงโดยพลัน จากนั้นเขาก็เร่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับสติอารมณ์ลงได้ในพริบตา!

 

ที่เขามาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…นั่นก็คือผลเทพสังเวยสวรรค์! เขาทราบแล้วว่าผลเทพสังเวยสวรรค์มีโอกาสปรากฏต่ำเตี้ยเรี่ยดิน กระทั่งต่อให้รอดจนถึงท้ายสุดก็ไม่แน่ว่าจะได้รับผลเทพสังเวยสวรรค์!

 

ดั่งคำว่าความพยายามอยู่ที่คน สำเร็จอยู่ที่ฟ้า…ต้องพึ่งโชควาสนาล้วนๆ!

 

ทว่าตอนนี้นับว่าฟ้ามีใจให้แล้วจริงๆ ถึงส่งผลเทพสังเวยสวรรค์มาให้เขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจนัก!

 

“ผลเทพสังเวยสวรรค์!!”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังเต็มไปด้วยความสุขล้นใจ และพยายามสงบสติอารมณ์ ด้านหลิงเจวี๋ยอวิ๋น เจียงหลานและหลินเฟยหยาง ก็ค้นพบเรื่องที่ผลเทพสังเวยสวรรค์ปรากฏขึ้นสำเร็จแล้วเช่นกัน!

 

ทันใดนั้นสองตาพวกมันก็ลุกวาวสว่างจ้า ลมหายใจยังถี่รัวขึ้นมาทันที หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงประหนึ่งเครื่องสูบลม!

 

“ฮ่าๆๆๆ….สำเร็จ! ในที่สุดก็สำเร็จ!!”

 

เจียงหลานยังระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดั่งร่าด้วยความดีใจ รอยยิ้มแห่งความสุขความยินดีอันหาดูได้ยากเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า!

 

“ข้าไม่คิดออมมือเพื่อละเล่นกับพวกเจ้าอีกต่อไป!!”

 

“ข้าจักฆ่าพวกเจ้าให้หมด แล้วรับผลเทพสังเวยสวรรค์ทั้ง 2 ไปเสีย!!”

 

ทันใดนั้นเจียงหลานก็ปะทุพลังเกรี้ยวกราดปัดกระบวนท่าของต้วนหลิงเทียน จากสำนึกเทวะของมันก็ระเบิดออกไปเพ่งเล็งผนึกลงบนร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นและหลินเฟยหยางเร็วไว! เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวทั้งคู่ ด้วยกลัวว่าทั้งคู่จะฉวยโอกาสตอนมันประมือกับต้วนหลิงเทียนไปช่วงชิงผลเทพสังเวยสวรรค์!!

 

เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ต่อให้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกับหลินเฟยหยางเลือกที่ฉวยโอกาสไปช่วงชิงผลเทพสังเวยสวรรค์จริงๆ มันมั่นใจว่าต่อให้ประมือกับต้วนหลิงเทียนอยู่ก็สามารถปลดปล่อยกระบวนท่าสังหารทั้งคู่ได้ทันท่วงที!!

 

ต้วนหลิงเทียนนั้นพลังฝีมือไม่ใช่ชั่วจริงๆ แม้จะไม่ถึงขั้นกดดันมันได้ แต่มันคิดจะฆ่าอีกฝ่ายจำต้องใช้เวลาอยู่บ้าง!

 

“ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ธรรมดา ทั้งศาสตราอมตะระดับจักรพรรดิในมือเจ้าก็เลิศล้ำ…น่าเสียดายที่เจ้ายังเข้าใจความลึกซึ้งปะทุได้แค่บางส่วน หาไม่แล้วเจ้าย่อมมีพลังสามารถมากพอเป็นคู่มือข้าได้!”

 

เมื่อสำนึกเทวะเพ่งเล็งไปยังร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกับหลินเฟยหยางได้แล้ว เจียงหลานก็พอได้โล่งใจไปเปราะหนึ่ง จากนั้นมันพุ่งไปปะทะกับต้วนหลิงเทียนอีกรอบ ดาบผลึกแก้วในมือเริ่มเปล่งแสงสีฟ้าเจิดจ้าออกมาอีกครั้ง!

 

อย่างไรก็ตามแสงพลังสีฟ้าที่ส่องสาดออกมาครานี้ หาได้แผ่ซ่านออกมาอ่างดุร้ายถ่ายเดียว พวกมันเริ่มรวมรั้งลงสู่ตัวดาบ บ่งชี้ว่าเจียงหลานคิดอาศัยเชิงดาบสังหารต้วนหลิงเทียนให้จงได้แล้ว!

 

“ตายยย!!”

 

ทันใดนั้นเจียงหลานก็ตะโกนออกมาดังสนั่น! คนทะยานเข่นฆ่าเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทันที!!

 

ต้วนหลิงเทียนที่พบว่าสภาวะพลังอีกฝ่ายกลับกลายเป็นกล้าแข็ง ก็พยายามอาศัยเคล็ดอ่อนสยบแข็งเต็มกำลัง ตวัดกระบี่ออกไปต้านทานรับมือกระบวนท่าดาบของอีกฝ่ายจนมือเป็นระวิง!

 

เมื่อเห็นสองร่างประมือกันด้วยความรุนแรง หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกับหลินเฟยหยยางก็ไม่คิดเข้าใกล้ อาศัยการซัดคลื่นพลังเข้าใส่เจียงหลานไม่หยุด!

 

อนิจจาด้วยเงาร่างชุดเกราะที่กางกั้นขึ้นมาด้วยเกราะอมตะระดับจอมราชัน สามารถหยุดการจู่โจมของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นและหลินเฟยหยางได้ชะงัด และการปลดปล่อยพลังไม่หยุดเช่นนี้ก็มิใช่ว่าจะทำได้ตลอดเวลา ซึ่งเจียงหลานก็อาศัยวินาทีที่การลงมือของทั้งคู่ขาดห้วง ยักย้ายพลังที่ถ่ายทอดลงสู่ชุดเกราะไปรวมรั้งที่ดาบผลึกแก้วทันที!

 

ทันใดนั้นแสงพลังสีฟ้าปกคลุมทั่วตัวดาบ ก็คล้ายจะทวีความเข้มข้นขึ้น แผ่กลิ่นอายที่ทรงพลังเหนือล้ำกว่าเดิม!

 

ร่างเจียงหลานพุ่งเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนพร้อมออกกระบวนท่าดาบเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างดุดัน ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่เร่งเร้าพลังทั้งหมดต้านทานสุดกำลัง แม้จะสามารถอาศัยเชิงกระบี่และประสบการณ์ต่อสู้ชั่วชีวิตสกัดกั้นเอาไว้ได้ หากแต่ยิ่งมาก็ยิ่งเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด!

 

“ไม่ได้การแล้ว…หากเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราไม่พ้นต้องตายหมดแน่!!”

 

เมื่อเห็นฉากต้วนหลิงเทียนเริ่มตกเป็นรองมากขึ้นทุกขณะ หลินเฟยหยางที่หอบหายใจถี่หลังเร่งเร้าพลังสุดตัวซัดใส่เจียงหลานจนพลังขาดห้วง ก็เริ่มชักสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้มันวิตกกังวลจับใจ!

 

เรื่องผลเทพสังเวยสวรรค์ได้ถูกมันโยนทิ้งไปเป็นการชั่วคราว

 

ถึงแม้ผลเทพสังเวสวรรค์จะเลิศล้ำ หากแต่ชีวิตย่อมสำคัญกว่า!

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ ก็คือหาวิธีรอดพ้นเงื้อมมือเจียงหลานให้ได้ก่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!

 

ครู่ต่อมา หลินเฟยหยางที่ยังไม่ทันได้ฟื้นพลังดี ก็กัดฟันแน่น และเริ่มซัดคลื่นพลังออกไปใส่เจียงหลานอีกครั้ง!

 

เจียงหลานที่สัมผัสได้ว่าพลังของหลินเฟยหยางและหลิงเจวี๋ยอวิ๋นขาดห้วงจากสำนึกเทวะเมื่อครู่ จึงยักย้ายพลังจากชุดเกราะไปรวมรั้งในดาบ พอพบว่าหลินเฟยหยางกลับไม่ฟื้นฟูพลังให้สมบูรณ์พร้อม แต่เลือกจะลงมือจู่โจมออกมาอย่างกะทันหัน ก็ไม่อาจเคลื่อนย้ายพลังกลับไปถ่ายทอดลงเกราะได้ทัน!

 

เช่นนั้นถึงชุดเกราะอมตะจอมราชันของมันจะกางกั้นม่านพลังขึ้นมาปกป้องมันโดยอัตโนมัติ แต่มันก็ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง เลือดลมปั่นป่วนไปเล็กน้อย ทำให้สองตาของมันเริ่มแดงฉานไปด้วยโทสะ!

 

“สวะเจ้า! แส่หาที่ตาย!!”

 

เจียงหลานหันกลับไปมองหลินเฟยหยางด้วยสายตาอำมหิต แผดคำตะโกนออกมาดังลั่น จากนั้นมันก็เลือกปลดปล่อยพลังที่รวมรั้งไว้ในดาบผลึกแก้วออกมาขุมหนึ่ง ผลักต้วนหลิงเทียนที่พัวพันอยู่ให้ล่าถอยออกไป

 

หลังจากระเบิดพลังจนทำให้ต้วนหลิงเทียนต้องผละถอยออกไปแล้ว เจียงหลานก็ตวัดดาบผลึกแก้วไปทางหลินเฟยหยางทันที!

 

ฟั่ฟฟฟ!!

 

เสียงคลื่นดาบสะบั้นผ่าอากาศไปฉับไวดังขึ้น และหลินเฟยหยางที่กัดฟันปลดปล่อยพลังออกมาสุดตัวเมื่อครู่ บัดนี้ก็สิ้นไร้พลังจะป้องกันอันใด ทำให้ได้แค่มองคลื่นดาบของเจียงหลานพุ่งมาปลิดปลงศีรษะตัวเองไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ…

 

ตัวมันนั้นเป็นดั่งลูกรักสวรรค์ที่มีศักยภาพเลิศล้ำทั้งความเข้าใจในกฏแห่งน้ำสูงส่ง อนาคตเรียกว่ากว้างไกลไร้ขอบเขต…

 

อนิจจาด้วยความวู่วามร้อนใจ และเลือกจะลงมือเข้าใส่เจียงหลานตอนที่ยังไม่พร้อม สุดท้ายก็ถูกเจียงหลานวกกลับมาเล่นงาน จนต้องตกตายไปอย่างไม่ยินยอม!

 

มันไม่ยินยอม ไม่ยินยอมถึงขีดสุด!!

 

“ตอนนี้ล่ะ!!”

 

และในขณะที่ศีรษะหลินเฟยหยางปลิดปลิวออกจากบ่าด้วยคลื่นดาบของเจียงหลานนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งตะโกนดังขึ้นสนั่นลั่นโถง และเป็นเสียงของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่อยู่ลอยร่างอยู่ด้านหลังเจียงหลานนั่นเอง!

 

เวิง! เวิง! เวิง! เวิง! เวิง! เวิง!

 

 

เสียงกระบี่กู่ร้องขึ้นมาดังเวิงๆ ในมือหลิงเจวี๋ยอวิ๋นพลันปรากฏบี่สีเทาหนึ่งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ

 

และเสียงกระบี่กู่ร้องนั่นก็ก่อเกิดมาจากกระบี่สีเทาเล่มดังกล่าว!!

 

อีกทั้งทันทีที่กระบี่สีเทาเล่มนี้ปรากฏขึ้น มันก็สาดแสงสีเทาออกไปย้อมโถงถ้ำประชันกับแสงสีฟ้าและแสงสีรุ้งทันที!!

 

ครืนนน!!

 

และทันใดนั้นเอง อยู่ดีๆทั่วร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ปรากฏไอพลังสีแดงฉานปานหมอกโลหิตขึ้นมาในฉับพลัน! หมอกโลหิตดังกล่าวยังเริ่มผสานหลอมรวมเข้ากับไอพลังสีดำอันแผ่ซ่านกลิ่นอายแห่งความตายออกมาคละคลุ้ง!!

 

ในชั่วพริบตานั้นเอง เคียวมทูต ที่ก่อสร้างขึ้นมาจากพลังความลึกซึ้งเคียวยมทูตแต่เดิมที่มีรูปร่างหยาบๆพร่าเลือนดั่งเงานั้น ก็เริ่มควบแน่นกลับกลายเป็นแจ่มชัด ประหนึ่งกลับกลายเป็นเคียวยมทูตมีสภาพ!!

 

ต้องทราบด้วยว่าเคียวยมทูตแต่เดิมของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ไฉนมีรูปร่างหยาบๆ และพร่าเลือนดั่งเงา…มันเกิดจากการที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นยังเข้าใจความลึกซึ้งเคียวมทูตของกฏแห่งความตายไม่ถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น!!

 

เคียวที่ก่อร่างขึ้นหยาบๆและพร่าเลือนดั่งเงานั้น พลังอำนาจของมันย่อมมิอาจเทียบกับเคียวยมทูตที่ก่อร่างสมบูรณ์ประหนึ่งวัตถุมีสภาพได้เลย!

 

เพราะเคียวยมทูตที่ปรากฏรูปร่างชัดเจนดั่งมีสภาพเช่นนี้ มันจะก่อเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเข้าใจความลึกซึ้งเคีวยมทูตของกฏแห่งความตายถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้วเท่านั้น!

 

‘หลิงเจวี๋ยอวิ๋นผู้นี้มีอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิด้วยหรือ!?’

 

‘นอกจากนั้น…มิใช่มันยังเข้าใจความลึกซึ้งเคียวยมทูตได้แค่ผิวเผินหรือไร ไฉนอยู่ดีๆกลับเข้าใจถึงขั้นตอนเบื้องต้นแล้วเล่า!?’

 

เจียงหลานที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพลังครั้งยิ่งใหญ่ในฉับพลันของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นย่อม รวมทั้งเห็นกระบี่สีเทาที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นในในมือหลิงเจวี๋ยอวิ๋นนั่น หน้ามันก็เปลี่ยนสีไปใหญ่หลวง!!

 

มันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ

 

ว่าไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนเท่านั้นที่ปกปิดความแข็งแกร่งมาโดยตลอด แม้แต่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเองก็ปกปิดพลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้อีกด้วย!!

 

ปงงงงง!!

 

ฟู่มมมม!!

 

 

และในขณะที่เจียงหลานหันไปมองหลิงเจวี๋ยอวิ๋นจนแตกตื่นอยู่นั้น มันก็พลันได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้นจากด้านหลังอีกรอบ!

 

พอมันหันมองกลับไปโดยไม่รู้ตัว มันก็พบว่ากลิ่นอายพลังทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนนั้น อยู่ๆก็ทรงพลังเพิ่มขึ้นในฉับพลัน!!

 

ที่สำคัญเลยก็คือเพลิงพลังที่ลุกโชนทั่วตัวกระบี่ยามนี้ มันปะทุพลังออกมาอ่างรุนแรงผิดกับก่อนหน้าลิบลับ ถึงขั้นทำให้มันสูดได้กลิ่นความตายขึ้นมาในฉับพลัน!

 

‘นั่นมัน…ความลึกซึ้ง ปะทุ?’

 

‘ไม่ใช่! นั่นมิใช่ความลึกซึ้งปะทุ! แล้วมันคืออันใดกันแน่!?’

 

เจียงหลานที่พบเหตุเปลี่ยนแปลงไม่คาดฝันประดังเข้ามาในฉับพลัน จำต้องตะลึงลานไปแล้วจริงๆ

 

นั่นเพราะมันพบว่าพลังที่อัดแน่นในกระบี่ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ มันทรงพลังถึงขั้นครอบงำพลังสูงสุดที่มันจะใช้ออกได้โดยสมบูรณ์!!

 

และห้วงเวลาเสี้ยวพริบตานี้เอง มันก็ตระหนักได้ถึงเรื่องราวประการหนึ่ง…

 

ต้วนหลิงเทียนที่ประมือกับมันมาสักพัก และเริ่มตกเป็นรองจนมันเจียนจะลงมือเผด็จศึกได้อยู่รอมร่อ ที่แท้ยังคงปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้!!

 

‘ให้ตายเถอะ!!’

 

‘ไฉนเป็นเช่นนี้ไปได้!?’

 

เจียงหลานที่ถูกต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกระหนาบ ในห้วงเวลาเสี้ยวพริบตาสีหน้าถึงกับแปรเปลี่ยนสลับกลับกลายไปไม่หยุด แต่มันก็หาได้ตะลึงลานจนนิ่งเฉยไม่ พลังเซียนอมตะที่ผสานไปด้วยพลังธาตุน้ำของมันถูกเร่งเร้าขึ้นมาสุดชีวิต จากนั้นก็เร่งถ่ายทอดลงสู้เกราะอมตะจอมราชัน เพื่อเปิดกางม่านพลังป้องกันต้านทานการจู่โจมของต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นทันที!

 

วู้มมมม!!

 

เงาร่างชุดเกราะปรากฏขึ้นห้อมล้อมร่างเจียงหลานในฉับพลันปานภูตผี!

 

แต่กระนั้น เจียงหลานก็ไม่ได้รู้สึกว่าปลอดภัยแม้แต่น้อย

 

ด้วยสีหน้าที่ฉายชัดถึงความกังวล สองมือมันก็เริ่มขยับแปลงสัญลักษณ์อาคมเร็วรี่! ลื่นไหลราวกับซักซ้อมมาแล้วชั่วชีวิต!!

 

เห็นได้ชัดว่าชาติที่แล้ว เจียงหลานสมควรเชี่ยวชาญเรื่องแปลงสัญลักษณ์มือดุจการหายใจเข้าออก!

 

อย่างไรก็ตาม เจียงหลานที่เชี่ยวชาญการแปลงสัญลักษณ์มือจนคล่องประหนึ่งหายใจเขาออก บัดนี้กลับรู้สึกว่ามือตัวเองขยับได้เชื่องช้าเหลือเกิน เชื่องช้าเสียจนรู้สึกว่าต้องใช้เวลาอีกเป็นปีกว่าจะทำเสร็จ!

 

แต่ทว่าบัดนี้มันไม่มีเวลาเหลือแล้ว!!

 

เพราะมันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่แท้จะมีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้ พลังของทั้งคู่อยู่ๆก็ปะทุขึ้นมาอย่างน่ากลัว ถึงขั้นครอบงำพลังของมันโดยสมบูรณ์!!

 

พลังของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นนั้นหาได้ด้อยไปกว่ามันไม่ และที่น่ากลัวก็คือบัดนี้พลังของต้วนหลิงเทียนกลับเหนือกว่ามันทุกด้าน!!

 

‘พวกมันซุกซ่อนได้ลึกยิ่ง…พวกมันซุกซ่อนได้ลึกเกินไป!!’

 

เจียงหลานที่ร้อนรนใจแทบเป็นบ้า เร่งขยับสองมือด้วยความเร็วชั่วชีวิต! มันแตกตื่นกับพลังของต้วนหลิงเทียนและหลิงเจวี๋ยอวิ๋นจนเสียขวัญแล้ว!!

 

“จัดการมันเสีย!!”

 

เมื่อเห็นเจียงหลานทุ่มพลังทั้งหมดเข้าสู่เกราะป้องกัน และเริ่มขยับมือว่องไวทำสัญลักษณ์บางอย่าง จนความว่างเปล่ารอบๆเริ่มสั่นสะเทือน สีหน้าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็เปลี่ยนไปทันที เร่งตะโกนบอกต้วนหลิงเทียน ขณะเดียวกันมันก็รีดเค้นพลังทั้งหมด เพื่อลงมือให้เร็วขึ้นอีกสักเสี้ยวก็ยังดี!

 

เปรี๊ยงงงง!!

 

เคียวยมทูตอันเปี่ยมล้นไปด้วยความตายและ กระบี่ที่เปล่งแสงพลังสีเทาเจิดจ้า ของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นฟาดเข้าใส่เงาร่างชุดเกราะของเจียงหลานอย่างแรง จนเกราะพลังของมันสั่นไหวไปอย่างรุนแรง ก่อนจะแตกออกดั่งกระจกแก้ว!!

 

“ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำอะไรอยู่ ก็สายไปแล้ว!”

 

ร่างต้วนหลิงเทียนที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง พอรวมรั้งพลังทั้งหมดถ่ายทอดพลังลงกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนแล้วเสร็จ ก็จี้กระบี้ออกฉับไว ปลดปล่อยลำแสงกระบี่สายหนึ่งพุ่งทะยานเข้าใส่เจียงหลานทันที! ลำแสงกระบี่พุ่งทะยานแหวกฟ้าเข้าใส่เจียงหลานฉับไวประหนึ่งดาวตก!

 

เพียงชั่วเวลาเสี้ยวพริบตาดุจฟ้าแลบ ลำแสงกระบี่สีรุ้งทั้งเต็มไปด้วยเพลิงไฟและมีแสงพลังสีเทากับทองจางๆแฝงมาอย่างยากจะมองเห็น จนเปี่ยมล้นไปด้วยสภาวะพลังประหนึ่งจะทะลวงได้ทุกสิ่งทุกอย่าง! ก็เสมือนตัดผ่านความว่างเปล่า มาผุดโผล่เบื้องหน้าเจียงหลานในชั่วพริบตา ยังเล็งจี้มาที่หว่างคิ้วของมันเขม็ง!!

 

“ไม่—-!!”

 

“ข้าไม่เต็มใจ! ข้าไม่เต็มใจยอมรับ!!!”

 

เสียงหวีดร้องโหยหวนดังลั่นออกจากปากเจียงหลานก้องกังวลไปทั่วโถงถ้ำอันสุดไพศาล แฝงไว้ด้วยความคับแค้นและไม่ยินยอมจับใจ!

 

ในวินาทีที่ลำแสงพลังกระบี่สีรุ้งอันแฝงไปด้วยแสงพลังสีแดงเพลิงทั้งทองกับเทาเสือกทะลวงหว่างคิ้วเจียงหลานจนทะลุออกหลังหัวของมันนั้น มือที่แปลงสัญลักษณ์อาคมของมัน ก็หยุดค้างลงที่สัญลักษณ์สุดท้ายพอดี….

 

ตราบใดที่ให้เวลามันอีกเสี้ยวของเสี้ยวลมหายใจล่ะก็ มันก็สามารถแปลงสัญลักษณ์มือได้ครบกระบวนแล้วเสร็จ ถึงตอนนั้นมันก็จะสามารถเปิดใช้ค่ายกลป้องกันที่จัดตั้งไว้ในโถงถ้ำ และค่ายกลดังกล่าวก็จะป้องกันมันกับผลเทพสังเวยสวรรค์เอาไว้ได้สมบูรณ์ ดั่งจะตัดขาดพวกมันกับสิ่งอื่น…

 

ค่ายกลป้องกันดังกล่าวที่มันจัดตั้งไว้เมื่อชาติที่แล้ว แม้จะผ่านวันเวลามาร้อยปี แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ระดับพลังของต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นในตอนนี้จะสั่นคลอนได้เลย…

 

ถึงตอนนั้นเมื่อค่ายกลป้องกันสำแดงพลังแล้ว ตัวมันก็จะรับผลเทพสังเวยสวรรค์และจากไปได้ง่ายดาย…ส่วนชะตาชีวิตของต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็จะตกอยู่ในมือมันสมบูรณ์!

 

หากวันนี้ผลเทพสังเวยสวรรค์ไม่อาจก่อตัวขึ้นมาได้สำเร็จแม้มันจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นคับแค้นและไม่ยินยอมจับใจขนาดนี้แน่!

 

แผนการของมันที่วางไว้ตั้งแต่ชาติก่อน มาชาตินี้เรียกว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี! ผลเทพสังงเวยสวรรค์ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แค่มันเอื้อมมือไปคว้าก็ได้มาง่ายดาย แต่ตอนนี้ทุกอย่างช่างห่างไกลเหลือเกิน…

 

ห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เจียงหลานไม่เพียงแต่จะคับแค้นทั้งไม่ยินยอมจับใจ กระทั่งยังเสียใจอย่างสุดซึ้ง…

 

เสียใจที่ไฉนไม่เลือกจะกางม่านพลังป้องกันผลเทพสังเวยสวรรค์กับตัวมันเอาไว้แต่แรก ปิดกั้นมันจากพวกต้วนหลิงเทียน จากนั้นก็เก็บผลเทพสังเวยสวรรค์แล้วจากไปอย่างไร้เรื่องราว…