คำพูดประกาศของหยางเฉิน พวกเขาไม่กล้าขัด แต่การจะให้พวกเขาจัดการส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหมดไปอยู่กองยุทธการ สำหรับพวกเขาแล้ว เหมือนกับถูกจับฝังทั้งเป็นไปเลย
แต่ว่า พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขืน ฉะนั้น แต่ละคนจึงต้องเอ่ยปากรับคำกันไปว่า “ท่านคุณหยางโปรดวางใจ พวกเราจะจัดการให้ผู้แข็งแกร่งในตระกูล รีบออกเดินทางกันทันที ให้ไปอยู่กองยุทธการ รับใช้จิ่วโจว!”
หยางเฉินไม่สนใจกับคนทั้งหมดนั้น หันหลังจากไป
ช่วงสั้น ๆ เพียงครึ่งวัน นับตั้งแต่หยางเฉินกลับมาถึงเยี่ยนตู ก็ได้ไปมาหลายที่ ทุกที่ที่ไป ก็มีผู้ที่ต้องหมดหวังไปทุกที่
และข่าวการกลับมาของเขา ก็ได้กระจายไปทั้งเยี่ยนตูจนทั่วหมดทุกมุม
ในขณะที่ กลุ่มอิทธิพลต่างถิ่นที่ได้ยกตระกูลกันเข้ามา เดิมคิดว่าจะหากินในเยี่ยนตู ต่างทยอยกันออกจากไป
“ยอดเยี่ยนมไปเลย มีคุณหยางอยู่ที่เยี่ยนตู ก็เหมือนป้อมปราการ ใครก็ไม่สามารถรุกล้ำได้”
“คุณหยางนี่แหละคือราชาเยี่ยนตูของพวกเรา!”
“คุณหยางจงเจริญ!”
…….
ในขณะนั้นเอง กลุ่มตระกูลดั้งเดิมที่อยู่ในเยี่ยนตู ต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดี
ตั้งแต่ที่มีข่าวหยางเฉินออกจากเยี่ยนตูแพร่ออกไป เหล่าบรรดากลุ่มอิทธิพลระดับสุดยอด เกือบจะเข้ามายึดครองพื้นที่ในเยี่ยนตูไปทั้งหมด
ผลที่เกิดกับกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นของเยี่ยนตู นับเป็นการกระทบกระเทือนที่เลวร้ายใหญ่หลวง
มาตอนนี้ หยางเฉินทุ่มกำลังอันเก่งฉกาจ สยบพวกกลุ่มอิทธิพลสุดยอดทั้งหลาย ทั้งยังขับไล่ออกพ้นไปจากเยี่ยนตู
“หยาง……”
ที่ตระกูลอวี่เหวิน อวี่เหวินเกาหยางพอเห็นหยางเฉินเข้า สีหน้าออกว้าวุ่นใจ ในทันทีนั้นเรียกหยางเฉินไม่ถูก
เขาไม่รู้ว่าควรจะเรียกคุณหยาง หรือจะเรียกหยางเฉินเฉย ๆ ดี
“คุณพ่อครับ กับลูกชายของคุณพ่อเอง ยังต้องวางตัวเกรงใจกันด้วยเหรอ?”
ได้รู้สึกถึงการวางตัวเหมือนอยู่ในกรอบของอวี่เหวินเกาหยางต่อหน้าเขา หยางเฉินให้รู้สึกอาทรใจกับชายกลางคนท่านนี้
พอได้ยินหยางเฉินเรียกตัวเองว่าคุณพ่อ สองตาเอ่อท่วมด้วยน้ำตาขึ้นมาในทันที
“ดีจัง ขอเจ้าให้เป็นลูกชายของข้าอวี่เหวินเกาหยางตลอดไปนะ!”
อวี่เหวินเกาหยางตื้นตันเต็มหน้า ตบที่ไหล่หยางเฉินต่อ ๆ กัน
คนระดับสูงในตระกูลอวี่เหวิน เห็นภาพที่อยู่ข้างหน้า ต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มกันทั่ว
หยางเฉินในเวลานี้ เป็นเจ้าแห่งฟ้าเยี่ยนตูก็ว่าได้ กลับยังคงยอมรับฐานะความเป็นพ่อของอวี่เหวินเกาหยาง สำหรับตระกูลอวี่เหวินแล้ว ย่อมเป็นเรื่องมงคลที่น่าปีติอย่างเป็นที่สุด
ตราบเท่าที่หยางเฉินยังไม่ตาย ฐานะของตระกูลอวี่เหวินในเยี่ยนตู ก็จะอยู่ที่สูงสุดไปตลอด
“หยางเฉิน!”
ขณะนั้นเอง ด้านหลังสุดของฝูงคน เงาร่างชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง สายตาที่มองหยางเฉิน เต็มไปด้วยแววอาฆาต
ให้รู้สึกเหมือนสัมผัสถึงใจมุ่งฆ่าของฝ่ายตรงข้าม หยางเฉินขมวดคิ้วเครียด มองผ่านฝูงคนไปที่ด้านหลังด้วยสัญชาติญาณ ก็ได้เห็นหน้าคนที่คุ้นเคยมาก สีหน้าที่ไม่ได้ซ่อนเร้นความรู้สึกอยากฆ่าเขาเลย
“อวี่เหวินปิง!”
หยางเฉินมองฝ่ายตรงข้ามด้วยสีหน้าเรียบ ๆ พูดเสียงเรียบ ๆ “ข้าไม่อยากถือสาอะไรกับแก แต่ไม่ได้หมายถึงว่าแกจะทำอะไรโดยไม่ให้ความเกรงใจกับข้าได้ เห็นแก่หน้าของพ่อแก ข้ายังพอเปิดทางไว้ชีวิตแกได้”
“แต่ถ้าอยู่ลับหลังหากแกกล้าตุกติกอะไรกับข้า ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจนะ!”
ตามหลังเสียงพูดจบ ในทันทีนั้นก็เกิดมีกระแสบูโดที่น่าสะพรึงกลัว โถมทะลักเข้าใส่ไปที่อวี่เหวินปิง
ชั่วขณะนั้น อวี่เหวินปินให้รู้สึกหนาวเยือกเสียดกระดูกไปทั้งตัว แต่เขาก็ไม่มีวีแววจะถอยหนี นัยน์ตามาดร้ายทั้งคู่ ยังจ้องเขม็งที่หยางเฉิน
“หยางเฉิน อย่าคิดว่าตอนนี้แกเก่งฉกาจมาก ไม่มีใครทำอะไรแกได้ สักวันเถอะ แกจะต้องชดใช้!”
อวี่เหวินปิงพูดด้วยใบหน้าสยดสยอง
หยางเฉินยิ้มเหยียด “ข้าจะรอวันนั้น!”
คราวที่แล้วไปที่ศูนย์หงเฉินนอกแดน ถึงได้รู้ว่า อวี๋เหวินปิงว่าจ้างมือฆ่าหงเฉินตามลอบสังหารเขามาตลอด
ก็เพราะเห็นแก่อวี๋เหวินเกาหยาง เขาจึงเลือกที่จะปล่อยอวี๋เหวินปินครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ดูทีท่าในวันนี้ อวี๋เหวินปิงยังไม่คิดเลิกจองล้างตามผลาญ กลับมองการจำยอมปล่อยของหยางเฉินเป็นว่าไม่กล้าฆ่าเขา
“แกได้เจอวันนั้นแน่!”
อวี๋เหวินปินตอบสวนอย่างไม่ลดละ
“ไอ้เจ้าสาระเลว แกหุบปากเดี๋ยวนี้!”
อวี๋เหวินเกาหยางบันดาลโทสะเต็มที่ พูดใส่ด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าแกยังกล้าหาเรื่องหยางเฉินอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่ได้เห็นแกเป็นลูกแล้ว!”
“เหอ เหอ !”
อวี๋เหวินปิงแค่นหัวเราะเยือก “ในใจของพ่อ ไอ้ลูกแท้ ๆ คนนี้ มันเทียบกับไอ้ลูกปีศาจจิ้งจอกนั่นไม่ได้อยู่แล้วมั้ง?”
“ผัวะ!”
ร่างอวี๋เหวินเกาหยางขยับแวบ ฝ่ามือฟาดใส่อวี๋เหวินกระเด็นไป
เขายืนโกรธตัวสั่น ชี้หน้าอวี๋เหวินปิงตวาดใส่เสียงกร้าว “อวี๋เหวินปิง แกอย่ามาท้าทายความอดกลั้นที่มีต่อแกของข้า!”
ในตาหยางเฉินสาดประกายหนาวเยือก เขารู้ชัดเจน ปีศาจจิ้งจอกจากปากอวี๋เหวินปิงนั้น หมายถึงแม่ของเขานั้นเอง
“นอกเสียจากว่าพ่อฆ่าผมทิ้งไปเสีย ไม่งั้น ขอเพียงผมยังมีลมหายใจอยู่ ก็จะไม่มีวันปล่อยมัน!”
อวี๋เหวินปิงคลานลุกขึ้นจากพื้น เช็ดเลือดที่มุมปากออก พูดด้วยสีหน้าที่บ้าคลั่ง
“แกกำลังรนหาที่ตาย!”
อวี๋เหวินเกาหยางคำรามเสียงในคอ
กับการท้าทายของอวี๋เหวินปิง เขาอยากจะฆ่าไอ้ลูกสาระเลวคนนี้เสียเลยจริง ๆ แต่เขาก็มีเพียงสายเลือดนี้อยู่คนเดียว ถ้าตายไป ตระกูลอวี๋เหวินของเขานี้ก็หมดคนสืบสกุล
“ก็ฆ่าข้าทิ้งเลยสิ!”
อวี๋เหวินปิงคำรามอย่างเคียดแค้น “ตอนนั้น ถ้าไม่ใช่นังปีศาจนั่นเข้ามา สายใยของพ่อกับคุณแม่ จะขาดไปได้ยังไง?”
“เพราะนังปีศาจนั่น ถ้าไม่ใช่มัน แม่ของข้าจะตายไปได้ยังไง?”
“ว่าไปก็ไม่แน่ ที่แม่ข้าตายไปก็เพราะนังปีศาจนั่นจ้างวานคนลอบฆ่า!”
อวี๋เหวินปิงคำรามลั่นอย่างฮีสทีเรีย
“ปัง”
อวี๋เหวินเกาหยางสะบัดขาเตะอวี๋เหวินปิงกระเด็นออกไป คำรามสั่งเสียงเกรี้ยว “เด็ก ๆ เอาไอ้สัตว์นรกนี่ไปฟาดให้ขาหักไปทั้งคู่!”
“ห้ามใครรักษา!ข้าจะให้มันใช้ทั้งชีวิตบนรถเข็นนั่นแหละ!”
“ทำลายมันทิ้ง!จัดการทำลายมันทิ้ง!”
ได้ยินคำพูดอวี๋เหวินเกาหยาง สีหน้าของหยางเฉินก็ตื่นตกใจอย่างหนัก
คนตระกูลอวี๋เหวิน ต่างก็ตกใจยืนงง อวี๋เหวินปิงเป็นลูกชายคนเดียวของอวี๋เหวินเกาหยาง อวี๋เหวินเกาหยางกลับกล้าคิดจะหักขาอวี๋เหวินปินทิ้ง
“ท่านผู้นำ ท่านโปรดใคร่ครวญให้ดีด้วย!”
ผู้อาวุโสตระกูลอวี๋เหวินท่านหนึ่ง รีบเข้ามาร้องทัดทาน “ถึงอวี๋เหวินปินจะผิดมหันต์เพียงใด แต่ก็เป็นสายเลือดคนเดียวของท่านนะ!ต่อไปข้างหน้าก็จะต้องเป็นผู้สืบสกุลตระกูลอวี๋เหวิน แล้วท่านจะให้ทำลายขาให้เขาพิการไปได้ยังไง?”
“หุบปาก!”
อวี๋เหวินเกาหยางพูดอย่างเกรี้ยวกราด “ถ้าไม่หักขามันทิ้ง ใครจะไปรู้ว่ามันจะไปก่อความวุ่นวายยังไงอีก ข้ายอมตัดขามันทิ้ง เลี้ยงมันไปทั้งชาติจะดีกว่า!”
และยังมีอีกหลายคนที่จะขอร้องแทนอวี๋เหวินปิน ก็ได้ถูกอวี๋เหวินเกาหยางตะเพิดกลับหมด ย้ำพูดด้วยความโกรธว่า “ใครยังกล้าขอร้องแทนมันอีก ก็ให้รับโทษเดียวพร้อมกับมัน!”
มาคราวนี้ ก็จึงไม่มีใครกล้าขอความเมตตาแทนอวี๋เหวินปินอีก
ตั้งแต่เริ่มมา หยางเฉินไม่สอดแทรกเข้าไปยุ่ง ตัวเขาเองถึงยังไงก็ไม่ใช่เชื้อสายตระกูลอวี๋เหวิน เต็มที่ก็แค่เป็นลูกบุญธรรมในตระกูลอวี๋เหวิน
อีกอย่าง จากที่อวี๋เหวินปิงทำกับเขา ยิ่งเรื่องการเหยียดหยามคุณแม่ของเขา ก็เป็นเหตุผลให้ฆ่าเขาทิ้งได้หลายครั้งแล้ว มีหรือจะไปขอความกรุณาอะไรให้อวี๋เหวินปิงอีก?
พออวี๋เหวินปิงเห็นผู้แข็งแกร่งในตระกูลอวี๋เหวิน เดินตรงเข้ามาหาเขา เขาก็รู้แน่ชัดว่า คราวนี้ อวี๋เหวินเกาหยางเอาจริงแน่แล้วที่จะลงโทษเขาในสถานหนัก
ในขณะนั้น สีหน้าอวี๋เหวินปิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ส่งเสียงวอนร้องขอไป “คุณพ่อ ผมผิดไปแล้ว ผมไม้กล้าอีกแล้ว ผมขอร้องท่านอย่าทำลายขาของผมเลย ผมไม่กล้าอีกแล้ว”
ในใจของอวี๋เหวินเกาหยางก็ทำไม่ลงอยู่ ถึงอวี๋เหวินปิงจะเลวยังไง ก็เป็นสายเลือดหนึ่งเดียวของเขาเอง
แต่เขาก็รู้ดี ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ อวี่เหวินปิงก็ยังต้องหาเรื่องให้เป็นถึงที่สุดเพื่อจัดการกับหยางเฉิน ทำให้สักวันหนึ่ง จะพาเอาความเดือดร้อนมาใส่ตระกูลอวี๋เหวิน
เพราะฉะนั้นแล้ว เขาขอเห็นอวี๋เหวินปิงเป็นคนธรรมดาใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ไม่ต้องไปก่อเรื่องวุ่นวายกับหยางเฉินอีกจะดีกว่า