ตอนที่ 1636: รุกเข้าดินแดน (5)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1636: รุกเข้าดินแดน (5)

เพราะเฉียงซ่งเป็นหัวหน้า เขาเป็นผู้นำที่นำจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมกว่า 20 คนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่รวมตัวกันที่จวนเจ้าเมือง มีเพียงบางส่วนของคนที่เหลือในโลกนี้ที่มาเมืองอัคนีเพื่อเจรจา มีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมหลายคนที่อยู่ด้านนอกจวน หากการเจรจาล้มเหลวและเกิดการต่อสู้กัน คนพวกนี้จะสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้

หยางลี่, เฟิงเซียวเทียน, กุยไฮ่ยี่เต่า, ฮุสตัน, เสี่ยวจิน, เสี่ยวหลิง, เสือขาว, เถี่ยต้า, เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและสี่พี่น้องของทวีปเทียนหยวนได้มาถึงแล้ว นอกจากเจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อแล้ว จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งสี่เผ่าพันธุ์ได้มารวมตัวกันที่นี่ ทุกคนเข้าใจว่าโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งไม่เพียงแต่ต้องการดินแดนของทวีปเทียนหยวน พวกเขาต้องการดินแดนของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ทั้งสามเผ่าพันธุ์อีกด้วย ตัวแทนจากร้อยเผ่าพันธุ์ , สัตว์อสูรและเผ่าพันธุ์ทะเลต่างก็มาเพื่อเจรจา

แม้ว่าจะไม่สนใจความจริงที่ว่าดินแดนบางส่วนในทวีปเทียนหยวนจะไม่อาจตอบสนองต่อความต้องการของจอมยุทธจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่อยู่ในทวีปเทียนหยวนก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมหากพวกเขาต้องสละดินแดน ในขณะที่อีกสามเผ่าพันธุ์ยังคงรักษามันไว้ได้

เป็นผลทำให้เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ได้มอบดินแดนบางส่วนจากการตกลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามพวกเขายังจำเป็นต้องเจรจาเกี่ยวกับขนาดของมันเพิ่มเติม

พวกเขาจะไม่ยอมเสียดินแดนนี้เพราะความแข็งแกร่งของคนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง พวกเขาเลือกทางเลือกนี้เนื่องจากการมีส่วนร่วมในการต่อการวิกฤตของโลก มีเพียงการเสียสละของจอมยุทธขอบเขตเซียนหลายหมื่นคนและจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ช่วยเจี้ยนเฉินในการเติมพลังให้กับเกราะไหมบรรพกาลจนมีพลังมากเพียงพอที่ทำให้พ้นวิกฤตและช่วยชีวิตคนอื่น ๆ ในโลก

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งสองโลกอยู่คนละฝั่งในจวนเจ้าเมือง พวกเขาทั้งหมดขึงขังอย่างมาก ความเกลียดชังที่ได้รับการสะสมอย่างต่อเนื่องจากการรุกรานของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งในอดีตทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดกันมากนักเมื่อพบกันในครั้งนี้ บรรยากาศในจวนกลายเป็นอึดอัด

เฉียงซ่งเหลือบมองจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมที่เป็นตัวแทนจากโลกทวีปเทียนหยวน เมื่อเขาเห็นว่าซ่างกวนมู่เอ๋อไม่ได้มาด้วย เขาก็โล่งใจ หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนที่จะเขาจะพูดว่า ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าพวกเจ้ามากันหมดหรือยัง ? เราจะเริ่มเจรจาได้เลยหรือไม่ ?

นอกจากเสี่ยวจินและเสี่ยวหลิง ผู้ที่ทำการสังเกตการณ์คนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองกันและกันอย่างจริงจัง สถานะของจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมในของโลกทวีปเทียนหยวนค่อนข้างแตกต่างจากจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมในโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ภายนอกแม้ว่าจะดูยิ่งใหญ่แต่ก็อยู่ภายใต้จิตวิญญาณราชันย์ที่เป็นดั่งจักรพรรดิของพวกเขาและเป็นผู้คุมกฎในคนคนเดียว จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมคนอื่น ๆ มีสถานะเป็นแค่ผู้อาวุโสหรือผู้พิทักษ์ หากไม่มีจิตวิญญาณราชันย์อยู่ เฉียงซ่งคงเป็นคนเดียวที่จะขึ้นเป็นผู้นำของพวกเขาแทน

ในทางกลับกันจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมได้รับการเครารพอย่างมากจากทั้งสี่เผ่าพันธุ์ แม้ว่าจะมีความแตกต่างจากในด้านความแข็งแกร่ง พวกเขาก็ยังคงมีสถานะคล้าย ๆ กัน ไม่มีใครมีอำนาจในการสั่งการผู้คนอื่น ดังนั้นคำถามแรกที่จะตอบของคำถามของเฉียงซ่งนั้นจึงมีความสำคัญพิเศษ

ในการเจรจาระหว่างสองโลก ตัวแทนจะต้องพูดออกมาก่อน

มีสายตาจ้องมองไปที่เถี่ยต้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ซ่างกวนมู่เอ๋อไม่ได้เป็นตัวแทน เถี่ยต้าซึ่งเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในหมู่พวกเขาพูดคุยกันน่าจะเหมาะสมกว่า

เถี่ยต้ารับรู้ความตั้งใจของคนอื่นและเพียงหลับตาเพื่อแสดงความตั้งใจต่อคนอื่น ๆ เขาเข้าใจดีว่าความสามารถของเขาอยู่ที่การต่อสู้ไม่ใช่การเจรจา

น่าเสียดายที่ซ่างกวนมู่เอ๋อไม่อยู่ ฮุสตัน เราจะมอบหน้าที่ให้เจ้าเป็นตัวแทนในการเจรจาครั้งนี้ มีใครขัดข้องหรือไม่ ? เทพเจ้าแห่งท้องทะเลถามทุกคนผ่านทักษะสื่อสาร นางมอบหมายให้ชายชราที่สวมเสื้อผ้าหยาบและยังคงมีดินติดอยู่ให้เป็นตัวแทนพวกเขา

ความแข็งแกร่งของฮุสตันนั้นไม่ธรรมดาและเขาก็มีประสบการณ์มากมายในการเป็นผู้นำนิกายดาบโลหิตที่เคยเขย่าทวีปภายใต้การนำของเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่มีความสามารถ

ทุกคนเห็นด้วยอย่างไม่มีการคัดค้านที่จะให้ฮุสตันเป็นตัวแทนของพวกเขา มันไม่มีใครเอาชนะฮุสตันในด้านการวางแผนได้ นอกจากฮุสตันจะปลีกวิเวกในช่วงพันปีที่ผ่านมาและซ่อนตัวอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่าเขาจะสามารถรับหน้าที่ในการเป็นตัวแทนเจรจากับคนเหล่านั้นแทนพวกเขา

ในที่สุดปริมาณของดินแดนที่โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งต้องการมันก็สามารถตกลงกันได้ผ่านการเจรจาเท่านั้น

ฮุสตันพยักหน้าเบา ๆ ในขณะที่ดวงตาที่หมองหม่นและขมุกขมัวก็พลันกระจ่างใสขึ้น มันมีแสงแว่บผ่านดวงตาและเขาก็พูดกับเฉียงซ่งว่า ถ้าไม่ใช่เพราะวิกฤตของโลกเรา เราจะต้องสู้กันให้ตายกันไปข้างกับโลกของเจ้าที่ต้องการยึดครองดินแดนของเรา มันยากที่จะบอกว่าใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย นอกจากนี้จิตวิญญาณราชันย์ของเจ้าก็ไม่ได้ไร้พ่ายอีกต่อไป

เฉียงซ่งและผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ขมวดคิ้วเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกเขาไม่พอใจเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่อาจตำหนิฮุสตันที่พูดความจริงได้

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนถึงได้มาที่นี่ในวันนี้ เนื่องจากการมีส่วนร่วมหลายหมื่นคนของเจ้าที่ช่วยปกป้องวิกฤตของโลก การเสียสละของพวกเขาจะได้รับการชื่มชมจากเรา ซึ่งเป็นเหตุให้ทั้งสี่เผ่าพันธุ์ของโลกยินดีที่จะมอบดินแดนบางส่วนให้กับโลกของเจ้า อย่างไรก็ตามมันอาจไม่มากนัก ดังนั้นโปรดเตรียมใจเอาไว้ด้วย ฮุสตันพูด

นี่คือแผนที่ที่เราเตรียมเอาไว้ เราได้ทำเครื่องหมายดินแดนที่เราต้องการบนนั้น เชิญดู หากเจ้าไม่มีข้อคัดค้านใด ๆ เราสามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างรวดเร็วที่สุด เฉียงซ่งพูดอย่างไม่สนใจก่อนที่จะนำแผนที่ที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าออกมา เขาควบคุมแผนที่ให้ลอยเข้าหาจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากทั้งสี่เผ่าพันธุ์อย่างเบา ๆ

เมื่อจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมได้กางแผนที่แล้ว พวกเขาทั้งหมดก็ขมวดคิ้ว นอกจากเถี่ยต้า, เสี่ยวจิน, เสี่ยวหลิงและสี่พี่น้อง เฉียงซ่งได้ขอพื้นที่ครึ่งนึงจากแต่ละเผ่าพันธุ์

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ เราเพิ่งเตรียมแผนที่เหมือนกัน นี่คือที่ดินที่เรายินดีมอบให้โลกของเจ้า โปรดดูเช่นกัน ฮุสตันกล่าวก่อนที่จะส่งแผนที่ให้กับเฉียงซ่ง พวกเขาได้เตรียมแผนที่หลายใบและแต่ละใบก็สร้างขึ้นหลังจากที่บรรลุข้อตกลงจากจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งสี่เท่านั้น ดินแดนที่ถูกแบ่งออกไปก็แตกต่างกันในแต่ละใบเช่นกัน