ตอนที่ 1643: เหล่าพี่น้อง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1643: เหล่าพี่น้อง

จอมยุทธขอบเขตเซียนหลายคนล้อมรอบพี่พักอยู่นานแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้ามาในบ้าน แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้บุกรุกในที่พักจะพุ่งเข้าหาพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิก็ตาม ทหารยามที่เฝ้าอยู่ที่นี่ต่างก็พุ่งเข้าหาเขาพร้อมด้วยจิตสังหาร

ในเวลาเดียวกันตัวตนที่น่าตกใจทั้ง 5 คนก็ได้ปรากฏรอบ ๆ ตระกูลเจียงหยาง ในก่อนหน้านี้ทั้ง 5 มักจะมาที่พักนี้อย่างเงียบๆเท่านั้น ในหมู่พวกเขาทั้ง 5 คนต่างก็เป็นเซียนจักรพรรดิหมดเลยและยังมีเซียนจักรพรรดิอีก 2 คนที่ดูต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับพวกเขา

เซียนจักรพรรดิทั้ง 5 คนนี้มีสถานะไม่ธรรมดาในตระกูลเจียงหยางอย่างมาก จอมยุทธขอบเขตเซียนต่างก็ป้องมืออย่างสุภาพเมื่อเจอพวกเขาทั้ง 5 แม้แต่เซียนจักรพรรดิสองคนก็ป้องมือให้กับเซียนจักรพรรดิทั้ง 5 คนนี้

อย่างไรก็ตามเซียนจักรพรรดิทั้ง 5 คนไม่สนใจการกระทำของพวกเขาแม้แต่น้อย รวมถึงการคำนับของเซียนจักรพรรดิอีก 2 คน พวกเขาเย็นชาและไร้ความรู้สึกและสายตาของพวกเขาก็จ้องเข้าไปยังที่พัก พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะลอบโจมตีได้ทุกเวลาด้วยความรวดเร็วที่สุด

ในสายตาของทุกคนภายในตระกูล ที่พักแห่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจมาลบหลู่หรือดูหมิ่นได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาทั้ง 5 คน มันเป็นดั่งจุดสำคัญที่พวกเขาต้องดูแลด้วยชีวิตของพวกเขา

นี่เป็นเพราะว่าความสำเร็จของทั้ง 5 คนในปัจจุบันนี้มาจากส่วนช่วยเหลือของผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ เขาเป็นเจ้าของที่ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากทหารรับจ้างที่มีศักยภาพจำกัดจนมาถึงการบ่มเพาะในปัจจุบันนี้

พวกเขาทั้ง 5 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีที่ไป๋เหลียนได้เหลือทิ้งไว้ในตระกูลเจียงหยาง

เจี้ยนเฉินทุ่มเทใจอย่างมากเพื่อยกระดับสมาชิกให้กับกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีเพื่อเปลี่ยนพรสวรรค์ของพวกเขา จากคนที่มีศักยภาพที่จำกัดจนเป็นอัจฉริยะอย่างทุกวันนี้ การบ่มเพาะของพวกเขารวดเร็วอย่างมาก บวกกับความจริงที่วิกฤตของโลกได้ทำให้เขาต้องมุ่งความสนใจและศิลาเซียนหยินหยางก็ไม่มีอีกแล้ว กฎของโลกก็ค่อย ๆ มาถึงความสมบูรณ์แบบและแหล่งพลังงานก็เริ่มปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ทำให้การบ่มเพาะของคนทั่ว ๆ ไปง่ายขึ้นและง่ายต่อการยกระดับเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน สมาชิกทั้ง 5 จากกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีที่เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่เซียนราชาต่างก็ประสบความสำเร็จในการทะลวงเป็นเซียนจักรพรรดิ

สาวใช้ซุกตัวอยู่ในมุมหนึ่งขณะที่ต่างก็แอบมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างหวาดกลัว ทุกคนต่างก็อยากเห็นว่าใครกันที่กล้าหาญบุกเข้ามาในที่พักนี้ แม้ว่าจะเป็นเซียนจักรพรรดิชั้นสวรรค์ที่ 9 มาที่นี่ พวกเขาก็ไม่อาจหลบหนีได้ ไม่มีจอมยุทธในตระกูลเจียงหยางที่จะสามารถหยุดเซียนจักรพรรดิชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้ แต่ก็ยังมีผู้เชียวชาญจากเมืองอัคคี หากตระกูลเจียงหยางต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมในเมืองอัคนีก็สามารถปรากฏตัวที่นี่ได้ตลอดเวลา

นี่เป็นเพราะเจี้ยนเฉินเก็บตัวบ่มเพาะ เสี่ยวจินและเสี่ยวหลิงที่ยังเด็กต่างก็มักจะไปเที่ยวเล่นที่นั่น เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนในตระกูลเจียงหยางก็รู้ถึงการกระทำของทั้งสอง

เจี้ยนเฉินยังคงยืนอยู่เหมือนกับรูปปั้น เขายังคงรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมาโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อม

ไม่นานทหารยามก็ล้อมรอบเขา หัวหน้าทหารยามก็มาถึงที่เจี้ยนเฉินอยู่และมองด้วยสายตาเป็นประกาย ท่าน เจ้า… เสียงของเขาหยุดลงอย่างกระทันหัน ในช่วงเวลาต่อมาใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตาของเขาเบิดกว้างและมีความไม่อยากจะเชื่อและตกใจอยู่เต็มใบหน้า

พลั่ก

หัวหน้าทหารยามรับรู้ถึงพลังของเขาและก็มีท่าทีที่สุภาพ เขาก้มหัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น เขาพูดอย่างเกรงกลัว ข้าขอคารวะนายน้อยสี่ ข้าไม่รู้ว่านายน้อยสี่จะกลับมา โปรดลงโทษข้าด้วย

ทหารยามคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของหัวหน้าตัวเอง แต่พวกเขาทั้งหมดก็คุกเข่าในเวลาเดียวกันหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาต่างก็พูดอย่างนอบน้อม ข้าขอคารวะนายน้อยสี่…

นายน้อยสี่ ? สาวใช้ที่หวาดกลัวต่างก็เบิกตากว้างและจ้องมองบุคคลที่ไม่คุ้นเคย สายตาของพวกนางเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

นายน้อยสี่… เสียงของทหารยามดังก้องออกมาและทำให้จอมยุทธขอบเขตเซียนหลายสิบคนต้องตะลึงทันที หลายคนพบว่ามันเป็นชื่อที่แปลก ๆ

อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดรู้ได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในช่วงเวลาสั้น ๆ และคนทั้งห้าจากกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีต่างก็ดีใจ

นายน้อยสี่กลับมาแล้ว คนที่อยู่ในบ้านนั้นเป็นนายน้อยสี่จริง ๆ เร็ว เร็วเข้า รีบไปบอกนายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าว่านายน้อยสี่กลับมาแล้ว ทันใดนั้นจอมยุทธขอบเขตเซียนต่างก็ตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ ในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำไปด้วยความตื่นเต้น นายน้อยสี่ตระกูลเจียงหยาง เป็นราชันของโลกของพวกเขาที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจิตวิญญาณราชันย์ ในสายตาของจอมยุทธขอบเขตเซียนทุกคนในตอนนี้ต่างก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ยืนใกล้ ๆ เขา

เซียงเอ๋อ เซียงเอ๋อกลับมาแล้วหรือ ?

ก่อนที่ข้อความจะถูกส่งออกไปก็มีเสียงกระหึ่มดังขึ้นมา ความตื่นเต้นที่อยู่ในน้ำเสียงอย่างหาไม่ได้ของเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนก็ดังมาจากระยะไกล

น้อมพบนายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่า

เมื่อพวกเขามาถึง จอมยุทธขอบเขตเซียนทั้งหมดต่างก็ป้องมือทักทายพวกขเา พวกเขาต่างก็ดีใจมากและทุกคนต่างก็มีท่าทางเช่นนี้เหมือนกัน

ถ้ามันเป็นเวลาอื่น เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าพวกเขาในตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก พวกเขารีบเข้าไปในบ้านอย่างมีความสุขและหายลับไปในสายตาของทุกคน

ไม่นานหลังจากนั้น หัวหน้าตระกูลคนปัจจุบัน เจียงหยางเค่อ, ป้าสามของเจี้ยนเฉิน,หลิงหลง, หยูเฟิงหยาน, ไป๋ยู่ซวงและสมาชิกคนอื่น ๆ ต่างก็รีบเข้ามาจากทุกที่ พวกเขาหยุดอยู่ด้านนอกที่พักในตอนท้ายและจ้องมองไปที่มัน

ด้านในที่พัก ไป๋หยุนเทียนสวมชุดสีขาวที่หรูหราขณะที่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุข นางจับเจี้ยนเฉินพร้อมกับน้ำตาคลอหน่วย เซียงเอ๋อ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว

เจียงหยางป้าหัวเราะเบา ๆ เซียงเอ๋อกลายเป็นราชันขอบเขตดั้งเดิมแล้ว แม้ว่าทุกครั้งที่ราชันย์เก็บตัวบ่มเพาะจะผ่านไปทีละ 20-30 ปี จนถึง 1,000 ปี มันค่อนข้างสั้นที่เซียงเอ๋อจะปรากฏตัวหลังจากพึ่งผ่านไป 18 ปี

..

เจี้ยนเฉินไล่ทหารยามและสาวใช้ออกไปทั้งหมด นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะสงบสติอารมณ์ที่เกิดจากบุกรุกเข้ามาในบ้านของเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในตระกูลเจียงหยางพร้อมกับพ่อแม่และผู้อาวุโสของเขาขณะที่กำลังคุยกัน

ภายใต้คำสั่งของเจี้ยนเฉินที่ไม่ให้บอกออกไปว่าเขาได้กลับมา มีเพียงบางส่วนของคนในตระกูลเท่านั้นที่รู้ถึงพลังของเขา

พริบตา เจี้ยนเฉินก็อยู่ในตระกูลเจียงหยางมาได้สองสามวันแล้ว ในช่วงเวลานี้เจี้ยนเฉินไม่ได้ออกนอกตระกูลแม้แต่ก้าวเดียว เขาอยู่ข้างพ่อแม่ของเขาตลอดเวลา เขาเข้าใจว่าวันที่เขาจะจากโลกไปนี้ไปใกล้เข้ามาแล้ว เขาต้องการใช้เวลานี้กับพ่อแม่ของเขาเพิ่มขึ้นก่อนที่เขาจะไป เพราะเขาไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่พวกเขาจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

ปัจจุบันในสวนของตระกูล เจี้ยนเฉินและเจียงหยางเค่อนั่งอยู่ในศาลาด้วยกัน พวกเขาดื่มด้วยกันขณะที่ต่างก็รำลึกความหลังในอดีต

ย้อมกลับไปเมื่อตอนที่เรายังเด็ก ข้ามักจะแกล้งเจ้า แต่ข้าก็มักทำไม่สำเร็จ กลับเป็นข้าที่ต้องรับผลจากความสนุกของตัวเอง บ่อยครั้งที่เจ้ายอมข้าด้วยท่าทีที่น่ากลัว… เจียงหยางเค่อยิ้มเมื่อเขาคิดถึงอดีต เขาคิดถึงความทรงจำเหล่านั้น

เจี้ยนเฉินหัวเราะเสียงดังและยกจอกขึ้นดื่มสุราทั้งหมด เขาพูดอย่างสบายใจ ส่วนที่ข้าประทับใจที่สุดคือตอนที่เราซ้อมกัน เจ้าต้องการรังแกข้า แต่ก็เป็นเจ้าที่บาดเจ็บเสียเอง เพราะเรื่องนั้นป้าสามถึงได้โทษข้าอย่างมาก…

เจียงหยางเค่อหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้น แม่ของข้าไม่คิดเลยว่าคนที่นางโทษก่อนหน้านี้จะกลายเป็นราชันที่ทำให้คนทั้งโลกต้องให้ความเคารพ… มีความภาคภูมิใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเจียงหยางเค่อ หลังจากที่ชนจอกกันแล้ว พวกเขาก็ดื่มมันหมดจอกในทันที

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างสบาย ๆ ความไม่ลงรอยกันระหว่างเขากับเจียงหยางเค่อต่อครั้งยังเด็กกลายเป็นความทรงจำที่น่ารักแทน มันเป็นความทรงจำที่ฝังแน่นและทำให้เขาหวงแหนความทรงจำเช่นนั้น

แต่เดิมเรามีอยู่กัน 4 พี่น้อง แต่มีเราสองคนที่มาดื่มกันในวันนี้ พี่ใหญ่ได้เข้าใจสถานะในการปล่อยวางและบ่มเพาะอยู่ในอารามจิตพิสุทธิ์หลังจากที่ละอารมณ์และความปรารถนาของเขา ข้าสงสัยว่าเขายังจำพี่น้องเช่นเราได้อยู่อีกไหม พี่รองก็ออกจากโลกนี้ไปผจญภัยในโลกเซียนที่อยู่ห่างไกล แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งในอนาคตหรือไม่ แม้ว่าเราจะพบกันก็ตาม ข้าก็ไม่รู้สึกว่านางจะเหมือนเดิมและยังจำข้าได้หรือไม่ ข้าอยากให้พวกเขามาจริง ๆ ไม่ใช่มีแค่ข้าและเจ้าที่มาดื่มกันอยู่ที่นี่ แต่พี่ใหญ่และพี่รองก็อยู่ที่นี่ น่าเสียดายที่ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงความปรารถนาแล้ว…. เจี้ยนเฉินเศร้าขึ้นมาขณะที่ดื่มไปอีกจอก

พี่รอง… เจียงหยางเค่อพึมพำเบา ๆ ขณะมองท้องฟ้า ความปรารถนาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา แม้ว่าเจียงหยางหู่จะละทิ้งอารมณ์และความต้องการของเขาออกไป แต่เขาก็ยังอยู่ในโลกนี้ ยังมีโอกาสที่เขาจะพบกันอีกในอนาคต แต่พี่รองของเจียงหยางเค่อ มันอาจจะเป็นคำกล่าวอำลาอย่างถาวรสำหรับเขา มันทำให้เขาหัวใจเต้นรัว

เดิมทีพวกเขามีกันอยู่สี่พี่น้อง แต่ตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นและเจี้ยนเฉินก็กำลังจะจากไป

..

สาวใช้ในสวนถูกไล่ออกไปแล้ว ดังนั้นเจี้ยนเฉินและเจียงหยางเค่อก็อยู่ในสวนขนาดใหญ่และดื่มพูดคุยกัน เสียงหัวเราะของพวกเขามักจะดังขึ้นมาเป็นครั้งคราว

พวกเขาพูดคุยกันมากมายในวันนี้และดื่ม ในขณะที่พวกเขาดื่มหนึ่งวันหนึ่งคืน เสียงของพวกเขาก็ยังไม่เคยหยุดดังจากภายในสวน

ในตอนนี้เจียงหยางเค่อก็กลายเป็นจริงจังและใบหน้าแดงกล่ำ เขากล่าวว่า น้องชาย มีบุคคลสำคัญหลายคนในตระกูลแนะนำข้าว่า เราควรจะขยายออกไปข้างนอกในขณะที่เรายังมีชื่อเสียง ท้ายที่สุดความแตกต่างระหว่างอาณาเขตและความแข็งแกร่งและชื่อเสียงของเรานั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก เจ้าคิดว่าอย่างไร ? ถ้าเจ้าเห็นด้วย ข้าจะทำมันทันที

ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลงเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ หลังจากที่เขาเงียบไปชั่วขณะ เขาก็ส่ายหัวเบา ๆ พี่สาม ยิ่งตระกูลใหญ่เท่าไร เรื่องก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ดูพวกอาณาจักรเหล่านั้น มีบ้างหรือไม่ที่องค์ชายไม่แย่งชิงตำแหน่งในการที่จะขึ้นเป็นราชากัน ? เจ้าอยากจะเห็นหรือไม่ พี่สาม ? สิทธิ์ในการสั่งงานเป็นสิ่งชั่วคราว ดังนั้นเจ้าจึงไม่ควรเข้าไปในวังวนนี้ เจ้าควรจะทำอยู่อย่างที่เป็นตอนนี้