ตอนที่ 2771 ปะทะจ้าวติง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“กั๋วห้วยมันเป็นหมูหรืออย่างไร? ปล่อยให้คนทั้งคนลอบเข้าไปจนถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายได้โดยที่ตัวมันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว!” ภายในโถงใหญ่ของพันธมิตรโอสถนั้นหลี่ฉางเซิงได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก

เพราะเมื่อค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกทำลายลงเช่นนี้พวกเขาย่อมจะไม่มีทางส่งกำลังเสริมไปได้ทัน ไม่ว่าพวกเขานั้นจะรวดเร็วแค่ไหนก็ตาม

กว่าที่พวกเขานั้นจะไปถึงสาขาตะวันเจิดนั้นมันก็เหลือไว้เพียงแค่เศษซากและศพของยอดฝีมือมากมายแล้ว

สาขาตะวันเจิดนั้นถูกทำลายจนราบคาบลงแต่นี่มันมิใช่แค่เรื่องว่าสาขาหนึ่งพังทลายลง

มันเป็นเรื่องสำคัญที่สั่นคลอนการปกครองของพันธมิตรโอสถ!

มันมิใช่ว่าห้ายอดแดนสวรรค์นี้ไม่มีจักรพรรดิเซียนคนอื่นๆ อยู่แต่ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นเกรงพันธมิตรโอสถและไม่มีใครกล้าออกตัวมาลงมือเท่านั้น

แต่เวลานี้การตบหน้าของเย่หยวนมันได้สั่นคลอนการปกครองของพันธมิตรโอสถไปถึงแก่น

หากภัยอันตรายต่างๆ มันปะทุขึ้นรอบด้านแล้วพวกเขาคงควบคุมมันได้ยาก!

เวลานี้เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายต่างได้แต่ต้องเงียบปากลงไม่มีใครกล้าส่งเสียงใดๆ

เพราะพวกเขาแต่ละคนนั้นต่างก็ตกตะลึงสุดใจเช่นกัน!

ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะลอบเข้าไปถึงจุดที่ตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายได้โดยไม่มีใครรู้เรื่องราว

เพราะการจะบุกเข้าไปให้ถึงจุดนั้นเย่หยวนจะต้องเจอกับค่ายกลป้องกันเขา เจอกับยอดฝีมือที่ออกลาดตระเวน เจอกับกับดักมากมายสุดเส้นทาง

พลาดไปไม่ได้แม้แต่น้อย

แต่เย่หยวนนั้นกลับทำมันได้สำเร็จ!

“หาตัวมัน! ต่อให้เจ้าจะต้องพลิกแผ่นดินเจ้าก็ต้องหาไอ้เด็กเวรนี่มาให้เจอ!” หลี่ฉางเซิงร้องลั่นสั่งขึ้นมา

“เรื่องนั้น…ผู้นำพันธมิตรหลัก ไอ้เด็กคนนี้มันตัวคนเดียวทั้งยังมากฝีมือด้านกฎแห่งห้วงมิติ เรา…ไม่อาจจะตามรอยของมันได้แม้แต่น้อย! หลังจากมันทำลายสาขาตะวันเจิดลงแล้วมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เราส่งคนออกไปตามหาเท่าไหร่ก็ไม่มีข่าวคราวเลย!”

คนที่พูดนั้นคือจักรพรรดิเซียนแห่งพันธมิตรหลักที่ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลข่าวสาร เวลานี้ตัวเขาก็สุดจะปวดหัวอยู่เช่นกัน

เย่หยวนทำลายสาขาตะวันเจิดด้วยตัวคนเดียว หากเขาคิดหลบไปในถ้ำหรือภูเขาที่ไหนแล้วมันก็คงหลบซ่อนได้สิ้น มันไม่ต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทร

เว้นเสียแต่ว่าเย่หยวนคิดอยากเผยตัวขึ้นมาเอง ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้หาเท่าไหร่มันก็คงไม่เจอ

หลี่ฉางเซิงนั้นกัดฟันกล่าวขึ้น “เช่นนั้นพวกเจ้าเตรียมตัวไว้ใกล้ๆ ค่ายกลเคลื่อนย้ายเสมอ! หากมันโผล่หน้าขึ้นมาที่ใดพวกเจ้าต้องรีบเป็นกำลังเสริมให้ได้ทันที! หากมันมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีกแล้วพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน!”

หนึ่งเดือนต่อมาร่างของเย่หยวนมันก็ได้ปรากฏขึ้นบนฟ้าของสาขายุทธมั่นอีกครั้ง

เขานั้นลากร่างโทรมๆ ของกั๋วห้วยติดมือมาด้วย

ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้เตรียมตัวที่จะเผชิญเต๋าทุกข์!

เขานั้นมั่นใจว่าตนเองจะผ่านมันไปได้ แต่อย่างไรเสียเตรียมการไว้ก่อนมันก็ไม่เสียหาย

“ฮ่าๆๆ ไอ้เวร ดูสิว่าครั้งนี้จะยังไม่ตายได้ยังไง!” กั๋วห้วยได้แต่ต้องกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงแหบๆ พร้อมเลือดที่ยังไหลจากปากไม่หยุด

หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เขาถูกเย่หยวนมัดตัวไว้ตลอด ความรู้สึกสิ้นหวังในสถานที่อันตรายนั้นมันทำให้เขาแทบบ้าไป

ต่อให้จะเป็นคนนอกอย่างเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเต๋าทุกข์ที่เย่หยวนเตรียมตัวเผชิญได้

ตัวเย่หยวนนั้นจะรู้สึกอย่างไรคงไม่ต้องเดา

ตึง!

เย่หยวนโยนร่างของกั๋วห้วยลงพื้นจนฝุ่นตลบ

เย่หยวนนั้นใช้ปราณปิดปากของเขาไว้ ทำให้เขานั้นไม่อาจพูดได้

“จ้าวติง ออกมาเตรียมตัวตาย!” เย่หยวนร้องลั่น

ฟุบ!

จ้าวติงพุ่งตัวออกมาหาเย่หยวนในทันที

ได้เห็นสภาพของกั๋วห้วยนั้นมุมปากของจ้าวติงก็ต้องกระตุกขึ้นทันที

กั๋วห้วยนั้นแข็งแกร่งมาก วันหน้าคงสามารถบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางได้แน่นอน

แต่เวลานี้เขากลับพิการลงไปเสียแล้ว

“เย่หยวน เจ้ายังมีหน้าจะมาอีก!” จ้าวติงร้องลั่น

“ที่ใดในโลกนี้บ้างเล่าที่ข้าไม่กล้าไป? ในเมื่อข้ากล้ามาแล้วข้าก็ย่อมจะกล้ามาอีก คนอย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้?” เย่หยวนยิ้มเย้ย

จ้าวติงนั้นยิ้มตอบกลับไป “ต่อหน้าข้าคนนี้เจ้ามันก็ทำได้แค่หนีหางจุกตูด! ก็แค่ไอ้ขยะตาขาว!”

จ้าวติงนั้นย่อมจะคิดถ่วงเวลาเย่หยวนแน่นอนแล้ว

เพราะระหว่างนี้เขากำลังรอเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายเดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมา

ตอนที่เขาได้ยินเสียงเย่หยวนนั้นเขาก็ส่งข่าวออกไปแล้ว

เวลานี้เหล่าจักรพรรดิเซียนของพันธมิตรโอสถนั้นมันต่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้สิ้น

ตราบเท่าที่เย่หยวนนั้นถูกล้อมไว้แล้วต่อให้เขาจะมีพลังกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางหลบรอดออกไปได้!

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ช่างเป็นฝีปากที่อ่อนหัดนัก เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้ากำลังถ่วงเวลา? หึๆ วันนี้ข้าจะสู้กับเจ้าให้มันจบไป! จักรพรรดิเซียนขั้นกลางแล้วมันทำไม?”

จ้าวติงหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ไอ้หนู เจ้าคิดปะทะกับข้าคนนี้ตรงๆ?! ข้านั้นสังหารเจ้าลงได้ในสิบกระบวนท่าแน่นอน!”

เมื่อต้องปะทะกับเย่หยวนนี้เขาเองก็ไม่กล้าจะมั่นใจเกินไป

เพราะเย่หยวนนั้นมีวิชาการเคลื่อนไหวที่เหนือล้ำต่อให้จะเป็นการปะทะซึ่งๆ หน้าแต่ก็คงต้องเหนื่อยไม่น้อยกว่าจะสังหารเย่หยวนลงได้

การทำให้จ้าวติงกล่าวเช่นนั้นขึ้นมาได้เหล่าคนสาขายุทธมั่นต่างต้องอ้าปากค้างตกตะลึงถึงพลังของเย่หยวน

เพราะจะอย่างไรเสียจักรพรรดิหยกนั้นมันก็เป็นเหมือนแค่ฝุ่นผงเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิเซียนขั้นกลาง!

แต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่คิดหนี แค่เรื่องนี้อย่างเดียวจ้าวติงก็พึงพอใจแล้ว

เจ้าเด็กคนนี้มันไม่รู้จักกลัวตาย!

มันไม่ต้องมีอะไรมากมายตราบเท่าที่มีจักรพรรดิเซียนห้าคนมาล้อมเย่หยวนไว้แล้วตัวเย่หยวนก็คงไม่อาจจะหนีออกไปได้!

จ้าวติงนั้นได้แต่ยิ้มเย้ยขึ้นในใจแต่ตัวกั๋วห้วยที่นอนอยู่กับพื้นนั้นได้แต่ต้องขยับร่างแสดงมือไม้อย่างสุดแรง

เขานั้นอยากจะบอกให้จ้าวติงรีบหนีไปแต่เขานั้นพยายามจนหน้าดำหน้าแดงแล้วแต่ก็ไม่อาจจะกล่าวพูดเสียงใดๆ ออกมาได้

ในเวลานี้เขาพิการไปแล้วคนฝั่งพันธมิตรโอสถเองก็ไม่มีใครหันมาสนใจเขา ตัวเขานั้นจึงได้แต่ต้องร้อนใจอยู่อย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไร

“หึๆ เช่นนั้นหรือ? จ้าวติง เจ้าและข้านั้นมีความแค้นที่ลึกล้ำดั่งทะเล วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าลงหน้าทางขึ้นเขายุทธมั่นนี้เพื่อเซ่นวิญญาณของคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่น!”

เย่หยวนนั้นยื่นมือออกไปพร้อมเขาแดนอนันต์ที่ปรากฏขึ้น

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังรุนแรงของเขาแดนอนันต์ตัวจ้าวติงก็ต้องทำหน้าเหยเกออกมาทันที

ฟุบ!

เย่หยวนนั้นไม่ลังเลใดๆ พุ่งตัวเข้ามาใส่จ้าวติงทันทีด้วยความเร็วที่เหนือล้ำกว่าครั้งไหนๆ!

“ระเบิดวิญญาณแท้!”

เย่หยวนร้องลั่นขึ้นมาพร้อมโจมตีกระแทกเข้าวิญญาณดั่งเดิม

ฟู!

จ้าวติงนั้นเตรียมตัวใช้กายวัชรธารามาตั้งแต่แรกแล้ว

แต่ถึงจะใช้มันแล้ววิญญาณดั่งเดิมของเขาก็ยังถูกแรงระเบิดรุนแรงล้ำนี้เข้าโจมตีจนต้องยืนนิ่งไปชั่ววินาที

และเย่หยวนแค่ต้องการเวลาแค่ชั่วพริบตานี้!

พร้อมๆ กับการโจมตีนั้นเย่หยวนก็ได้ดันเขาแดนอนันต์ออกมาอย่างรุนแรง

วินาที่ที่การโจมตีวิญญาณได้ผล เขาแดนอนันต์มันก็พุ่งเข้ามาประชิดจ้าวติงแล้ว

หลังผ่านเวลาไปแค่เสี้ยววินาทีนั้นจ้าวติงก็ต้องได้สติขึ้นมาพร้อมสั่นสะท้านไปทั้งใจ

พริบตาเดียวกันนั้นเขาก็มุดตัวหนีเข้าห้วงมิติไป

ตูม!

จุดที่จ้าวติงยืนอยู่นั้นมิติมันระเบิดออกทันที!

แรงปะทะนี้มันทำให้ศิษย์ของสาขายุทธมั่นนั้นต่างล้มตัวลงอย่างหวาดกลัว

พร้อมกันนั้นเย่หยวนก็ต้องหน้าซีดลงเพราะสัมผัสได้ถึงพลังรุนแรงพุ่งเข้าใส่จากด้านหลัง

เขานั้นพุ่งตัวเข้าห้วงมิติอย่างไม่คิดหันกลับไปมอง

ปัง!

จุดที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นเองมิติมันก็พังทลายลงเช่นกัน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงรสหวานในลำคอก่อนจะกระอักเลือดขึ้นมาทันที ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เครื่องประดับหยกนั้นมันพุ่งกลับไปยังมือของจ้าวติง

เครื่องประดับหยกนี้มันคือสมบัติยอดหมอก!

จ้าวติงนั้นซ่อนเครื่องประดับหยกไว้เตรียมรับมือเย่หยวนตั้งแต่แรก

หลังจากเย่หยวนออกมาแล้วเขาจึงได้โจมตีไปทันที

โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นรวดเร็วพอที่จะหลบได้ ไม่เช่นนั้นการโจมตีนี้คงปลิดชีวิตของเขาลงไปแล้ว!

แต่จ้าวติงเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน

คลื่นพลังของเขามันปั่นป่วนทั้งร่าง ตัวเขาเองก็บาดเจ็บเช่นกัน

ต่อให้เขาจะหลบการกระแทกของเขาแห่งถงเทียนได้แต่ว่าพลังของสมบัติยอดหมอกระดับสองนั้นมันย่อมจะทำอันตรายจ้าวติงได้ไม่ยาก

นี่มันก็เพราะว่าพลังบ่มเพาะของทั้งสองนั้นห่างชั้นกันมาก ทำให้พลังที่แสดงออกมามันแตกต่างกันได้เช่นนี้

พริบตาเดียวนี้คนทั้งสองได้โจมตีแลกกันไปอย่างรุนแรง

และต่างฝ่ายนั้นก็ต่างบาดเจ็บไป!

……………………….