จากนั้นคนทั้งสองก็หยิบเอาโอสถขึ้นมากลืนลงคอไปแทบพร้อมๆ กัน
อาการบาดเจ็บของคนทั้งสองนั้นมันค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ
พันธมิตรโอสถนั้นไม่เคยขาดแคลนโอสถสวรรค์
หลังจากเย่หยวนทลายสาขาตะวันเจิดลงแน่นอนว่าเขาย่อมจะปล้นเอาสมุนไพรสวรรค์และโอสถสวรรค์ทั้งหมดมาสิ้น
ทำให้ตอนนี้กระเป๋าของเขาตุงอีกครั้ง
“จักรพรรดิเซียนขั้นกลางมันก็เท่านี้!” เย่หยวนมองหน้าจ้าวติงก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน
จ้าวติงนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกร้องขึ้น “แค่ยืมพลังภายนอกเท่านั้น! มันจะมีอะไรให้น่าภาคภูมินัก? พลังของสมบัติยอดหมอกนั้นมันดีแต่เจ้าจะใช้มันออกมาได้กี่ครั้งกัน?”
เขานั้นกล่าวเถียงออกไปแต่ว่าในใจนั้นมันสั่นกลัว
เพราะการโจมตีวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันสุดแสนรุนแรง แต่ละครั้งทำให้เขาต้องนิ่งไปชั่วพริบตา
กอปรด้วยพลังกฎแห่งห้วงมิติของเย่หยวนและเขาแดนอนันต์แล้ว มันย่อมจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงล้ำอย่างน่ากลัว
หากก่อนหน้านี้เขาช้าไปแค่เสี้ยววินาทีเขาคงได้กลายเป็นเนื้อบดอยู่ใต้เขาแดนอนันต์ไปแล้ว
“เจ้ามาลองดูเดี๋ยวก็รู้มิใช่หรือ? วันนี้ไม่เจ้าก็ข้าต้องตายลง!”
เย่หยวนหัวเราะลั่นก่อนจะพุ่งตัวออกไปอีกครั้งหนึ่ง
ตูม!
มิติสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง!
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันทำให้หน้าคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปศิษย์ระดับต่ำบางคนนั้นยังสัมผัสได้แม้จะหนีมาไกลลิบแต่เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายที่มาถึงแล้วนั้นกลับซ่อนตัวไม่เผยให้ใครรู้
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องยิ้มเย้ยขึ้นมาในใจระหว่างที่ต่อสู้กับจ้าวติงไป
เย่หยวนนั้นใช้งานเขาแดนอนันต์ออกมาจนทำให้ปราณเทวะในร่างเหือดแห้งไปอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนจะมานั้นเขาได้เตรียมโอสถสวรรค์ไว้มากมาย
การกลืนโอสถสวรรค์มากมายลงไประหว่างต่อสู้มันย่อมจะช่วยทดแทนพลังงานที่เสียไปได้ไม่ยาก
ได้เห็นเย่หยวนกินโอสถสวรรค์ระดับแท้ราวกับเป็นของหวานเช่นนั้นจ้าวติงก็ได้แต่ต้องด่าขึ้นมาในใจ
เปลือง!
ต่อให้จะเป็นในพันธมิตรโอสถเองโอสถสวรรค์ระดับสี่ระดับแท้นั้นมันก็ยังเป็นอะไรที่ล้ำค่า
ในพันธมิตรโอสถนั้นคนที่หลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ได้มันก็มีอยู่ไม่มาก ที่สำคัญโอกาสสำเร็จมันยังต่ำตม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอสถสวรรค์ประเภทฟื้นคืนพลังเช่นนี้มันย่อมจะยิ่งหาได้ยาก
ไม่มีใครจะใช้สมุนไพรสวรรค์ได้คุ้มค่าเท่าเย่หยวนและยังไม่มีใครจะใช้มันได้เปลืองเท่าเย่หยวนด้วย
ตัวจ้าวติงนั้นเขาเป็นจักรพรรดิเซียนย่อมจะต้องใช้โอสถสวรรค์ระดับห้า
ระดับแท้นั้นมันเกินมือเขาไปมาก
ต่อให้จะเป็นตัวผู้นำพันธมิตรหลักอย่างหลี่ฉางเซิงเองก็ยังไม่อาจหลอมมันได้
สิ่งที่ทำให้โอสถสวรรค์ระดับห้ามันเป็นของหายากก็ย่อมเพราะว่าสมุนไพรสวรรค์ระดับห้านั้นหาได้ยากยิ่ง
ต่อให้จะเป็นตัวจ้าวติงเองก็ยังมีโอสถสวรรค์ระดับห้าติดตัวไม่มาก
คนทั้งสองนั้นปะทะกันไปกว่าสิบครั้งจนทำให้สาขายุทธมั่นนั้นแทบพังทลายลง
เย่หยวนนั้นอาบเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่จ้าวติงเองก็มีสภาพไม่ต่างกันพลังของเขาแดนอนันต์นั้นมันรุนแรงล้ำ ต่อให้เขาจะโดนแค่แรงกระแทกผ่านห้วงมิติมันก็ยังทำอันตรายเขาได้มาก
เขานั้นไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเย่หยวนที่จะเอาโอสถสวรรค์ระดับแท้มากินเล่นได้เหมือนขนม เขาจึงได้แต่ต้องใช้พลังของตัวเองทนรับไป
แต่ผ่านมาได้หลายอึดใจนี้เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งสิบสามของพันธมิตรมันก็ได้มารวมตัวกันที่สาขายุทธมั่นแล้ว
นอกจากสาขาตะวันเจิดที่ล่มสลายลงไป ผู้นำพันธมิตรโอสถสาขาอื่นนั้นได้มากันครบสิ้น
แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นการต่อสู้ระหว่างคนทั้งสองนี้
“เจ้าบ้านี่…หากมันสู้เช่นนี้ต่อไปมันคงทำจ้าวติงเหนื่อยตายได้ก่อนแน่!”
“โอสถสวรรค์ระดับแท้มันหลอมได้ง่ายปานนั้นหรือ?”
“ท่านผู้นำพันธมิตรหลักคิดถูกจริงๆ ที่สั่งทำลายศาลาโอสถลงไปตอนนั้น! ไม่เช่นนั้นแล้วเวลานี้พันธมิตรโอสถเราคงไม่อาจลืมตาอ้าปากได้อีก! ไอ้เจ้าเด็กคนนี้มันมีเต๋าโอสถที่เหนือล้ำกว่าท่านผู้นำพันธมิตรหลักไปด้วยซ้ำ!”
…
เหล่าจักรพรรดิเซียนของพันธมิตรโอสถนั้นส่วนมากย่อมจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์
พวกเขานั้นย่อมเข้าใจว่าโอสถสวรรค์ระดับสี่ระดับแท้นั้นมันมิใช่ขนมที่เอามากินเล่นได้เช่นนี้
ต่อให้จะมีสมุนไพรสวรรค์เป็นกอง แต่กว่าจะหลอมได้ถึงระดับแท้แต่ละครั้งมันก็ต้องเสียสมุนไพรสวรรค์ไปมาก
เหตุผลที่เย่หยวนสามารถหยิบโอสถสวรรค์ระดับแท้ออกมากินเล่นได้อย่างขนมนี้มันย่อมจะหมายความว่าเย่หยวนนั้นใช้สมุนไพรสวรรค์ได้คุ้มค่ามาก!
พวกเขาเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าทั้งหลายนั้นหรือแม้แต่ตัวผู้นำพันธมิตรหลักหลี่ฉางเซิงเองก็ยังไม่อาจจะเทียบเย่หยวนคนนี้ได้
พูดไปจักรพรรดิเซียนทั้งสิบสามก็ได้แยกย้ายกันออกไปล้อมวงเย่หยวนไว้
ตูม!
คนทั้งสองนั้นปะทะกันไปได้สิบกว่ากระบวนท่าแต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายจ้าวติงที่ทนรับไว้ไม่ไหวต้องกระอักเลือด
จ้าวติงในตอนนี้มีสภาพที่ย่ำแย่มาก พลังของเขามันปั่นป่วนถึงที่สุด
เย่หยวนนั้นกลืนโอสถลงคอไปอีกครั้งก่อนจะมองหน้าจ้าวติงด้วยรอยยิ้ม “นี่ก็ผ่านมาสิบห้ากระบวนท่าแล้ว นอกจากเจ้าจะสังหารข้าลงไม่ได้เจ้ายังโดยทำร้ายจนสาหัสแทน! หึๆ คำโม้ก่อนหน้าของเจ้ามันหายไปไหนแล้ว?”
จ้าวติงหัวเราะลั่นตอบกลับมา “ไอ้เด็กเวร เจ้ามันเก่ง! แต่เจ้าคิดหรือว่าข้าจะคิดสู้ตัวต่อตัวกับเจ้า? ออกมาเถอะพวกเรา”
มิติสั่นไหวพร้อมๆ กับการปรากฏขึ้นของคลื่นพลังรุนแรงนับสิบ
หลังจากที่คนทั้งหลายปรากฏตัวแล้วพวกเขาก็ย่อมจะจ้องเย่หยวนไม่วางตา
หากเย่หยวนคิดขยับ พวกเขาก็จะเข้าโจมตีทันที!
เย่หยวนหรี่ตาลงมองเพราะว่าในกลุ่มคนที่มานี้มันมีคนหน้าคุ้นๆ อยู่
หวงฟู่หยุนซือ!
ก่อนนั้นตอนที่นิกายสวรรค์ยุทธมั่นถูกโจมตีคนที่สังหารเจ้านิกายเฟิงซวนยี่ลงนั้นมันก็คือหวงฟู่หยุนซือคนนี้
เขานั้นไม่นึกฝันว่าผ่านไปแค่ร้อยกว่าปีหวงฟู่หยุนซือนั้นกลับจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้เช่นกัน
แต่ลองคิดดูอีกครั้งมันก็ไม่ได้แปลก
เพราะสิ่งที่พันธมิตรโอสถมีมากที่สุดนั้นมันคือโอสถสวรรค์
จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวบรรลุขึ้นเป็นจักรพรรดิเซียนเต็มตัวนั้นมันย่อมจะไม่แปลกอะไรเลย
เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมานั้นหวงฟู่หยุนซือก็ต้องยิ้มขึ้น “ไม่ได้เจอกันเสียนาน เย่หยวน! ข้าไม่นึกเลยว่าไม่เจอกันแค่ร้อยกว่าปีเจ้านั้นกลับจะมีพลังแข็งแกร่งจนสามารถสังหารจักรพรรดิเซียนได้แล้ว! แต่มันเปล่าประโยชน์! เพราะพันธมิตรโอสถนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าคิดไปมาก! เจ้านั้นออกมาคนเดียวไม่มีใครช่วยเหลือ มีเพียงแค่ความกล้าอันโง่เง่า เจ้าคิดว่าจะล้างแค้นอะไรได้?”
ดูท่าแล้วหวงฟู่หยุนซือย่อมจะคิดว่าตอนนี้เย่หยวนเป็นได้แค่หมูบนเขียงที่รอถูกเชือดเท่านั้น แต่เขานั้นไม่ได้เห็นเลยว่าที่ด้านล่างของยอดเขานี้มันมีเงาร่างหนึ่งกำลังขยับมือไม้ไปมาอย่างสุดกำลังจนฝุ่นตลบ
เขานั้นอยากจะพูดแต่มันพูดไม่ได้เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นตกอยู่ในห้วงวิกฤตอย่างไม่มีใครรู้ตัวแล้ว!
เย่หยวนมองหน้าหวงฟู่หยุนซือก่อนจะยิ้มตอบกลับไป “หึๆ เจ้ามาได้ถูกเวลาจริงๆ! วันนี้ข้าจะได้ถอนรากถอนโคนไปในครั้งเดียวเลย!”
หวงฟู่หยุนซือส่ายหัวตอบกลับไปเมื่อได้ยิน “เย่หยวน เจ้ามันแข็งแกร่งจริง มากพรสวรรค์จริง! แต่เจ้านั้นบ้าล้างแค้นจนเกินไป! หากเจ้าบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นกลางเสียก่อนค่อยกลับมาพันธมิตรโอสถเราคงแตกสลายลงสิ้นแน่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้าถูกจักรพรรดิเซียนมากมายล้อมไว้เช่นนี้ เจ้าจะยังเอาอะไรมาชนะพวกเราในคราเดียวอีก?”
ผู้นำพันธมิตรอีกสาขาหนึ่งกล่าวขึ้นเสริม “หึๆ ไอ้โง่ที่ไม่ประเมินตนเอง! แค่จักรพรรดิหยกคนหนึ่งมันก็คิดว่าตัวเองล้ำฟ้าเพราะมีสมบัติยอดหมอกระดับสองอยู่ในมือ คิดว่ามันจะได้ล้างแค้นแล้ว?”
“ผู้นำพันธมิตรหลักก็กำลังมาด้วย ฝีมือของเขานั้นมันเหนือล้ำความเข้าใจของเจ้าไปนัก! ผู้นำพันธมิตรหลักท่านบอกมาแล้วว่าเรื่องของเจ้าท่านจะมาจัดการเอง! เจ้าเตรียมตัวรับความพิโรธของท่านผู้นำพันธมิตรหลักไว้ให้ดีเถอะ”
…
ในความคิดของเหล่าผู้นำพันธมิตรสาขาทั้งหลายนั้นคำพูดของเย่หยวนมันย่อมจะไร้สาระใดๆ
แค่จักรพรรดิหยกมันก็กล้ามาขู่จักรพรรดิเซียนนับสิบๆ เช่นนี้
ต่อให้จะมีสมบัติยอดหมอกระดับสองแล้วทำไม?
ต่อให้จะสู้ข้ามระดับได้แล้วทำไม?
เพราะพันธมิตรโอสถนั้นไม่ได้มีจักรพรรดิเซียนแค่คนเดียว!
ไหนจะยังมีตัวตนที่ล้ำฟ้าอย่างหลี่ฉางเซิงนั้นอีก!
“ฮ่าๆๆ…”
เย่หยวนมองหน้าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายที่วางท่าเหมือนผู้มีชัยนั้นและอดหัวเราะขึ้นไม่ได้
“จะตายอยู่แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะ!” จ้าวติงร้องลั่นขึ้น
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “จะตาย? ฮ่าๆ ใช่ พวกเจ้าจะตายกันอยู่แล้วแต่ยังมีหน้ามาวางท่าใหญ่โต ข้าอดขำไม่ได้เสียจริง! กั๋วห้วย เจ้าลองบอกพวกมันสิว่าพวกมันกำลังจะตายหรือไม่?”
พูดไปเย่หยวนก็ยิงปราณเทวะออกมาคลายผนึกที่คอของกั๋วห้วยออก
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายต่างต้องหันไปมองตาม
เพราะพวกเขาไม่มีใครทันสังเกตกั๋วห้วยจริงๆ
หลังจากผนึกของกั๋วห้วยคลายออกแล้วเขาก็ร้องลั่นขึ้นมา “หนีไป! รีบหนีไป! มันคิดจะเรียกเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียนลงมา…”