ตอนที่ 1653 ความคิดจากที่ห่างไกล

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

บรรยากาศของฤดูร้อนมักทำให้คนง่วงนอน ไม่ว่าจะเป็นลมร้อนหรือเสียงร้องของนกบนต้นไม้ ผู้คนอดไม่ได้ที่อยากจะนอนลงข้างหน้าต่างและหลับให้สบาย

ไม่ใช่แค่คนหรอก

บรรยากาศชวนขี้เกียจทำให้แม้แต่เสี่ยวไอเผลอหาวออกมา เธอขดตัวเป็นก้อนกลมที่โซฟาในห้องทำงานและกรนเหมือนลูกแมว

แต่ถึงการงีบหลับเป็นเรื่องน่าสนใจ ไม่ใช่ทุกคนที่ได้หลับฝันหวาน

ยกตัวอย่างเช่น หญิงสาวที่นั่งตรงหน้าต่างไม่มีความเหนื่อยล้าบนใบหน้างาม นัยน์ตางามดั่งเพชรพลอยตั้งใจมองตัวอักษรในภาพโฮโลแกรมที่ฉายต่อหน้าเธอ เธอค่อยๆ เพ่งดูคำและพยายามทำให้พวกมันดูสุภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ระหว่างที่เธอคิดคำนึงความคิดให้ถูกต้อง

“คุณไปดาวอังคารแล้วสามเดือน สงสัยว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง”

“นักเรียนทุกคนคิดถึงคุณมาก…”

“ฉันเองก็ด้วย”

เมื่อมองดูสามคำสุดท้าย เวร่าลังเลอยู่นาน เธอไม่แน่ใจว่าประโยคนี้ซ้ำซ้อนไปหรือไม่

แต่ในท้ายที่สุดแล้วเธอใช้ความกล้าหาญที่มีเพื่อเก็บประโยคนี้ไว้ จากนั้นเธอหลับตาลงและกดส่งจดหมาย จากนั้นเธอรีบปิดหน้าจอโฮโลแกรมเหมือนกับว่าเธอทำอะไรผิดลงไป

“ถ้าคุณคิดถึงเจ้านายก็ไปหาเขา คุณมีร่างกาย ใช้มันเถอะ”

เธอได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง เวร่ารู้สึกตื่นกลัว เธอหันไปมองและเห็นเสี่ยวไอหาวขี้เกียจระหว่างที่ลุกขึ้นจากโซฟา

เธอหลุดออกจากภวังค์และพูดว่า

“ตื่นมาตอนไหนเนี่ย?”

“เสี่ยวไอไม่จำเป็นต้องนอน แต่ไม่รบกวนคุณตอนที่เขียนจดหมายดีกว่า ( ́◔‸◔’)”

“อ่อ จริงเหรอ… การไม่ต้องหลับก็สะดวกดีนะ”

“มันไม่สะดวกเลย” เสี่ยวไอพูดต่อ “เสี่ยวไอดื่มและกินกับเจ้านายไม่ได้ เดินไม่ได้ ไปที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตไม่ได้… ทุกนาทีที่เจ้านายหายไปจากสายตาของเสี่ยวไอ เสี่ยวไอรู้สึกกังวลมาก (⇀‸↼‵‵)”

“อ้อ เข้าใจแล้ว…”

มันฟังดูไม่สะดวกเลย

ถึงแม้ว่าเธออยากพูดปลอบใจเสี่ยวไอ ในฐานะคนที่มาจากศตวรรษที่ 21 เวร่าไม่เข้าใจว่าการมีอยู่ของหุ่นยนต์เป็นอย่างไร และเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มปลอบใจอย่างไรดี

หลังจากลังเลอยู่นาน เธอก็พูดว่า

“เอาจริงแล้ว… ฉันอยากเจอเขาจริงๆ แต่ฉันกังวลว่าจะไปรบกวนเขา”

เสี่ยวไอพูดตอบ “อืม… ถึงเจ้านายจะฉลาดในหลายๆ ครั้ง แต่บางทีเขาก็ทำเรื่องโง่ๆ เหมือนกัน แต่ฉันไม่คิดว่าเจ้านายเป็นคนที่เกลียดคนที่เป็นห่วงเขา… ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะกังวลเรื่องเขาเสมอ”

เวร่ามองเธอด้วยความประหลาดใจ

“หืม? จริงเหรอ?”

เสี่ยวไอพยักหน้าและพูดด้วยความดีใจ “ใช่แล้ว! การเป็นที่ต้องการรู้สึกดี มันอาจจะเป็นหนึ่งในแรงจูงใจให้เจ้านายใช้ชีวิตต่อ”

จู่ๆ เวร่ารู้สึกละอายใจ

ถึงแม้เธอคิดว่าความรู้สึกของเธอเป็นมากกว่าความหลงใหลและการพึ่งพา และมันเป็นความรักมากกว่า… เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้เข้าใจเขาดีเลย เธอรู้สึกท่วมท้นในใจทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจ

เสี่ยวไอนั่งขัดสมาธิที่โซฟา เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นในที่สุด

“ในความเห็นของเธอ เขาเป็นคนแบบไหน?”

เสี่ยวไอตอบในทันทีโดยไม่ต้องคิดด้วยความกระตือรือร้น “เขาเป็นคนหล่อเหลามาก! (๑•̀ᄇ•́)و✧”

เวร่าพูดตอบ “หล่อ หล่อเหรอ…?”

“ใช่!” เสี่ยวไอพยักหน้า เธอพูดต่อด้วยแววตาเป็นประกาย “น่าเสียดาย เจ้านายไม่ใช่เอไอ มิฉะนั้นเจ้านายและเสี่ยวไอสามารถอยู่ด้วยกันได้!”

มันฟังดูประหลาดมาก

แต่เมื่อเวร่ากำลังจะพูดตอบ เสี่ยวไอก็มีสีหน้าจริงจังและพูดต่อ

“จะอธิบายยังไงดีล่ะ? เมื่อนานมาแล้วเสี่ยวไออยู่เคียงข้างเจ้านาย ตอนนั้นเสี่ยวไอไม่ได้เก่งและฉลาดเท่ากับตอนนี้ แต่เจ้านายอดทนและดูแลเสี่ยวไอมาตลอด เสี่ยวไอค่อยๆ เติบโตขึ้นและเป็นแบบในตอนนี้”

เสี่ยวไอยิ้มเขินอาย เธอเกาแก้มและพูดต่อ “เสี่ยวไอรู้สึกมาตลอดว่าใช้เวลากับเขามานานโดยไม่รู้มาก่อน… ถ้าเสี่ยวไอมีชีวิต เจ้านายคงเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเสี่ยวไอ หลังจากเห็นเทลและลิลลี่ เสี่ยวไอก็รู้สึกแจ่มแจ้ง มันอาจจะเป็นความผูกพันและการพึ่งพาเอไอ? ประมาณนั้น

“แต่เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ อย่างน้อยเสี่ยวไอก็คิดแบบนั้น ตราบใดที่เสี่ยวไออยู่กับเจ้านายได้ มันก็เพียงพอแล้ว”

เวร่าพูดขึ้น “ฉันรู้สึกว่า…”

เสี่ยวไอเอียงหัว “รู้สึกอย่างไรเหรอ? (•̀∀•́)”

“เปล่า” เวร่าพูดพร้อมรอยยิ้มในขณะที่ส่ายหัวเบาๆ “เรื่องบางเรื่องน่าอิจฉาน่ะ”

เสี่ยวไอตอบ “แน่นอน! ท้ายที่สุดแล้ว เจ้านายหล่อมาก เสี่ยวไอเลยจะไม่ยกให้กับคุณ (///ω///)”

เวร่ายิ้มให้และไม่พูดอะไรตอบ

นี่ก็แค่เอไอ…

มันไม่น่าจะต้องแข่งขันกันใช่ไหม?

ด้วยเหตุบางประการ เธอรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

เวร่าลุกขึ้นจากโต๊ะ

“ฉันตัดสินใจแล้ว”

เสี่ยวไอถาม “หืม?”

“ฉันจะไปดาวอังคาร” เวร่าพูดอย่างจริงจังระหว่างที่มองเสี่ยวไอ “เธอพูดถูก ถ้าฉันคิดถึงเขามาก ฉันน่าจะไปหาเขาในทันที ถ้าฉันรออยู่แบบนี้… มันก็ไม่ต่างอะไรจากหนึ่งร้อยปีก่อนหรอก”

ชีวิตมันสั้นเกินไปที่จะรอคอย

รอมาแล้วหนึ่งร้อยปี เธอไม่อยากจะรออีกแล้ว

เสี่ยวไอถาม “หืม? หืม? (•̀∀•́)”

หลังจากนั้น ทั้งสองหยุดคุยกัน…

เวร่าออกจากห้องทำงานตอนเวลาพักกลางวัน และเดินลงบันไดไปร้านอาหารด้านล่าง

เธอเดินผ่านทีวี และกดปุ่มทีวีโฮโลแกรมก่อนที่จะไปนั่งลงที่โต๊ะรับประทานอาหาร เธอรอให้หุ่นยนต์นำอาหารมาที่โต๊ะ

เธอฟื้นขึ้นมาแล้วนานกว่าครึ่งปี

เธอยังจำได้ว่าในช่วงแรก ทีวีโฮโลแกรมยังทำให้เธอตื่นเต้นได้ แต่ตอนนี้เธอแทบปรับตัวกับไลฟ์สไตล์ใหม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้เอื้อมมือผ่านจอโฮโลแกรมอีกแล้ว

เสี่ยวไอนั่งตรงข้ามเวร่า เธอวางมือไว้ที่แก้มและพูดว่า

“ถ้าคุณไปดาวอังคาร เสี่ยวไอคงจะถูกทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวสินะ ( ́◔‸◔`)”

เวร่าตอบ “ไปด้วยกันสิ”

“เฮ้อ เสี่ยวไออยากจะ… อิจฉาคุณจริงๆ คุณจะไปไหนมาไหนก็ได้” เสี่ยวไอถอนหายใจ เธอวางหัวไว้บนโต๊ะและเป่าหน้าม้าของเธอ “สำหรับเสี่ยวไอ การไปดวงจันทร์เป็นเรื่องยาก ╮(╯_╰)╭”

“เซิร์ฟเวอร์ของเธอใหญ่ไปเหรอ?”

“ใช่!” เสี่ยวไอพยักหน้า เธอทำไม้ทำมือและพูดว่า “ใหญ่แบบมโหฬาร”

หลังจากกินเสร็จ เวร่าก็วางช้อนส้อมบนจานและขอบคุณเสี่ยวไอที่จัดการจานให้

ความคิดที่จะไปดวงจันทร์เกิดขึ้น

เธอยื่นนิ้วชี้ไปแตะเทอร์มินัลส่วนตัวบนข้อมือและปัดหน้าจอโฮโลแกรมที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอล็อกอินเข้าหน้าเพจซื้อตั๋ว

เนื่องจากมีอุบัติเหตุร้ายแรงที่ดาวอังคารมาก่อน และระยะทางสัมพัทธ์ระหว่างดาวอังคารและโลกค่อนข้างไกล ค่าเดินทางไปกลับนั้นถูกมาก

หลังจากคิดถึงระยะเวลาเดินทางอย่างจริงจัง เวร่ากำลังจะซื้อตั๋ว แต่อยู่ดีๆ เธอเห็นใบหน้าคุ้นเคยบนหน้าจอโฮโลแกรม

“ศาสตราจารย์…”

ลู่โจวอยู่บนหน้าจอโฮโลแกรม เขายืนอยู่หน้ากล้องและถูกนักข่าวสัมภาษณ์ เสียงจากทีวีมาจากผู้ประกาศข่าว

“เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากสตาร์สกายเทคโนโลยีได้ลงทุนจำนวนมากในการเข้าซื้อบริษัทฟูซิ่งมายนิ่ง พวกเขาได้ทำสิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขาใช้เงินเพื่อซื้อพื้นที่อวกาศระหว่างวงโคจรพ้องคาบโลกกับวงโคจรดาวอังคารและใช้มันเพื่อสร้างศูนย์อวกาศ”

“ถึงแม้ว่าลู่โจวเองไม่ได้บ่งบอกว่าศูนย์อวกาศจะเป็นอย่างไร จากคำพูดของคนที่คุ้นเคยเรื่องนี้ ศูนย์แห่งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการขยายของเทคโนโลยีความเร็วกว่าแสง…”

………………………………………………………….