อิโตะนานาโกะเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ “คุณชิจิโร่ คุณเคยมีเรื่องไม่ลงรอยกับหมอเทพท่านนี้หรอคะ?”

“ไม่มีๆครับ” โคบายา ชิจิโร่รีบโบกไม้โบกมือ เอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า “ผมไม่เคยเจอกับหมอเทพท่านนี้มาก่อน เพียงแต่ผมก็ไม่ปิดบังคุณ ตอนที่พี่ชายผมยังมีชีวิตอยู่เคยล่วงเกินหมอเทพท่านนี้ ผมกลัวเขาจะมีความแค้นเคืองต่อตระกูลโคบายาของพวกเรา ดังนัเนเพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบ ที่คุณจะขอร้องให้เขายื่นมือรักษาคุณยามาโมโตะ ดังนั้นอีกสักครู่ยังไงคุณก็อย่าเปิดเผยชื่อสกุลของผม คุณสามารถเรียกผมว่าคุณเถียนจง”

“ก็ได้ค่ะ” อิโตะนานาโกะพยักหน้า ก้าวขาเดินเข้าประตูใหญ่ไปก่อน เคาะประตูเอ่ยถามขึ้นว่า “ขอโทษนะคะ ขอถามหน่อยว่า หมอเทพซืออยู่หรือเปล่า?”

เพื่อนร่วมงานเห็นเป็นหญิงสาวที่สวยล้ำละมุน ก็ตกตะลึงในใจ รีบเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับ หมอเทพซือของเราวันนี้ได้หยุดการรักษาแล้ว หากคุณมีอะไรต้องการล่ะก็ ยังไงก็เชิญมาใหม่พรุ่งนี้”

อิโตะนานาโกะรีบเอ่ยขึ้นว่า “ฝากรบกวนคุณบอกกับหมอเทพซือด้วยค่ะ ว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งอยากขอร้องท่านยื่นมือ หากท่านยินดีรักษา อีกทั้งสามารถรักษาให้หายล่ะก็ ฉันยินดีออกหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นค่ารักษา!”

เฉินเสี่ยวจาวกำลังจัดเคาน์เตอร์ให้เป็นระเบียบอยู่พอดี ได้ยินคำพูดนี้ ก็เอ่ยปากขึ้นมาในทันทีว่า “ขอโทษนะคะ คุณตาของฉันรักษาช่วยชีวิตคนไม่ใช่เพื่อหาเงิน หากคุณคิดว่าจ่ายเงินเยอะก็จะสามารถเชิญท่านไปได้ งั้นยังไงก็เชิญกลับเถอะค่ะ!”

อิโตะนานาโกะรีบเอ่ยขออภัยในทันที “ขอโทษค่ะ!ฉันไม่ใช่ความหมายนี้!ฉันเพียงแค่อยากจะแสดงความจริงใจของฉันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจารย์ของฉันเส้นลมปราณขาดหมดทั่วทั้งร่างกาย ตอนนี้ได้เป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ฉันได้ข่าวมาว่าหมอเทพเคยรักษาผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนบนให้หายขาดได้ ดังนั้นถึงตั้งใจมาขอร้องให้หมอเทพยื่นมือช่วยชีวิตถึงที่!”

“เส้นลมปราณขาดหมดทั่วทั้งร่างกาย?”

เฉินเสี่ยวจาวอ้าปากตาค้างมองดูอิโตะนานาโกะ โพล่งถามออกมาว่า “คุณมั่นใจว่าคือเส้นลมปราณขาดหมด ไม่ใช่อาการป่วยอะไรอย่างอื่น?”

สาเหตุที่เฉินเสี่ยวจาวตกใจ เป็นเพราะว่า เส้นลมปราณความหมายนี้ คนธรรมดาส่วนมากที่สุดไม่มีทางรู้โดยเด็ดขาด

พวกเขาสัมผัสถึงความหมายของเส้นลมปราณ ส่วนมากต่างก็มาจากผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์และนิยายกำลังภายใน ให้พวกเขาพูดหนึ่งสองสามออกมาก่อน พวกเขาคนส่วนมากแม้กระทั่งจุดเริ่มต้นของเส้นลมปราณก็ยังไม่เข้าใจ

อีกทั้งบุคคลจากวิชาศิลปะการต่อสู้ที่เข้าใจเส้นลมปราณรวมไปถึงปรมาจารย์วงการแพทย์ต่างก็น้อยมาก ผู้หญิงนี้แค่เอ่ยปากก็พูดอย่างมั่นใจว่าอาจารย์ตนเองเส้นลมปราณขาดหมดทั่วทั้งร่ายกาย หรือว่าเธอจะเป็นบุคคลจากวิชาศิลปะการต่อสู้?

“ใช่แล้วค่ะ!” อิโตะนานาโกะรีบเอ่ย “คนที่ทำร้ายอาจารย์ของฉัน พูดออกมาจากปากของตัวเองว่าตัดเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายของท่านแล้ว”

เฉินเสี่ยวจาวซักถาม “เขาตัดเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายของอาจารย์คุณทิ้งยังไงคะ? หรือว่าเพิ่มแรงโจมตีทุกจุดลมปราณของอาจารย์ของคุณ?”

อิโตะนานาโกะเอ่ย “คนๆนั้นเพียงแค่โจมตีอาจารย์ฉันฝ่ามือเดียว เส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายของอาจารย์ฉันก็ขาดหมดแล้ว”

เฉินเสี่ยวจาวเอ่ยขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “พลังของคนๆนี้มีความแข็งแกร่งมากขนาดไหนกัน? คิดไม่ถึงว่าสามารถหนึ่งฝ่ามือตัดขาดเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายของอาจารย์คุณได้ พลังที่ปาฏิหาริย์เช่นนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน ต่อให้คือยอดฝีมือของวิชาศิลปะการต่อสู้ อยากจะตัดขาดเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายของคนๆหนึ่ง ก็ต้องตามตัดทำลายทีละช่วงๆ ไม่อาจจะใช้เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ…”

อิโตะนานาโกะเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง “ใช้เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือจริงๆค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ฉันต่างก็เห็นด้วยตาของตัวเอง!”

ในเวลานี้เอง ซือเทียนฉีก็ย่างก้าวเดินออกมาจากห้องที่อยู่ทางด้านหลัง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ดังกังวานและทรงพลัง “ข้ายังไม่เคยได้ยินว่าใครที่มีวิธีการเช่นนี้มาก่อน แม่หนู อาจารย์เจ้าไปมีเรื่องกับใครมากันแน่?”

อิโตะนานาโกะเอ่ย “รายละเอียดว่าเป็นใครฉันก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ รู้แต่ว่าเขาแซ่เย่”

ซือเทียนฉีสีหน้าตกใจ “แซ่เย่? คนๆนี้อายุน้อยมาก หน้าตาหล่อเหลาทั้งยังบุคลิกลักษณะไม่ธรรมดาใช่หรือเปล่า? ระหว่างที่ชูมือยกเท้า มีออร่ามังกรจริงในหมู่คน?”

“อันนี้…” อิโตะนานาโกะคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเก้อเขินว่า “อย่างอื่นฉันกลับไม่มีความรู้สึก แต่ว่าหล่อเหลาถือว่าหล่อเหลามาก อายุค่อนข้างน้อย ดูแล้วประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหกปีค่ะ”

สีหน้าของซือเทียนฉีเยือกเย็นอย่างหาใดเปรียบขึ้นมาในชั่วขณะ อุทานออกมาอย่างประชดประชัน แล้วเอ่ยขึ้นว่า “น่าตลกจริงๆ!อาจารย์เจ้ายั่วยุอาจารย์เย่ ถูกอาจารย์เย่ทำลายเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายทิ้ง คิดไม่ถึงว่ายังจะกล้ามาหาข้าให้รักษาอาจารย์เจ้าอีก?!