ตอนที่ 1764: สตรีชุดแดง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1764: สตรีชุดแดง

เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้นอกจากส่ายหน้าเมื่อเขาเห็นว่าตงเทียนหนีจากไปด้วยความหวาดกลัว เขายิ้มอย่างขมขื่น ความรู็สึกที่ตงเทียนแสดงให้กับเขาราวกับว่าเขาไม่หวาดกลัวอะไรเลย แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนจะพบกับปัญหาของเขาแล้ว หญิงสาวที่กำลังปรี่เข้ามาทำให้เขาตกใจจริง ๆ จนถึงขั้นเขาต้องหนีออกไปโดยที่ไม่ได้กินอาหารใด ๆ และทิ้งโต๊ะที่มีค่าที่ทำจากวัสดุที่หรูหรา

เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากมองดูหญิงสาวที่พุ่งเข้ามา เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับนาง นางเป็นคนแบบไหนที่ทำให้ตงเทียนหวาดกลัวได้อย่างนั้น ?

สตรีที่ราวกับมีไฟลุกท่วมได้เข้ามาในสายตาของเจี้ยนเฉิน นางเข้ามาหาที่ที่เจี้ยนเฉินอยู่พร้อมกับความร้อนที่น่าหวาดกลัว นางไม่ได้ลงมาที่พื้นและมองเขาจากด้านบนแทน

นางเป็นสาวงามและมีเสน่ห์ที่ดูอายุราว 20 ดวงตาที่เย็นชาเข้ากับใบหน้าที่เรียวยาวทำให้นางดูราวกับประติมากรรมที่สร้างขึ้นอย่างปราณีต นางสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มีข้อตำหนิใด ๆ ริมฝีปากที่แดงราวกับลูกอิงเถา นางเป็นคนประเภทที่จะตบกลับคนที่เข้ามาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางมีความงามที่เปล่งประกาย ผมสีแดงเพลิงของนางสยายไปมาท่ามกลางสายลม ขณะที่นางยืนอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่เสื้อคลุมสีแดงที่สวมชุดรัดรูปที่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง นางยังสวมรองเท้าสีแดงคู่หนึ่ง มีเปลวไฟลุกท่วมรอบ ๆ นาง นางดูราวกับเทพธิดาแห่งเพลิง

“เจ้าเป็นใคร ? ” หญิงสาวไม่ได้ติดตามตงเทียน นางถามเจี้ยนเฉินด้วยใบหน้าที่มืดครึ้มอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าที่สวยงามของนาง

เจี้ยนเฉินยืนอยู่บนพื้น เขาไม่ได้คำนึงถึงน้ำเสียงของหญิงสาว เขายิ้มสบาย ๆ และพูดว่า “ข้าคือเจี้ยนเฉิน เป็นคนธรรมดา ขอข้าถามชื่อเจ้าได้หรือไม่ ? ”

ใบหน้าหญิงสาวยังคงเย็นชาเหมือนเมื่อก่อน นางจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจ้าไม่มีสิทธ์รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าเห็นเจ้าอยู่กับไอ้สารเลวตงเทียนก่อนหน้านี้ บอกข้ามาตามความจริง เจ้ามีความสัมพันธ์กับเขาอย่างไร ? ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปหากเจ้าไม่เล่ารายละเอียด”

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม จากคำพูดก่อนหน้านี้ของตงเทียน เขาเข้าใจอยู่แล้วว่าหญิงชุดแดงนั้นอาจจะหมั้นหมายกับตงเทียน แถมตงเทียนยังคงเป็นคนถอนหมั้น ด้วยเหตุนี้หญิงชุดแดงจึงต้องการมาลากคอเขา

“นายน้อยตงเทียนช่วยชีวิตข้า เขาเป็นสหายที่ดีของข้า” เจี้ยนเฉินตอบ

อย่างไรก็ตามหญิงสาวยังจ้องมองอย่างเย็นชา เมื่อนางรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นสหายที่ดีกับตงเทียน นางตะโกนออกมาว่า “ใครก็ตามที่เป็นสหายกับไอ้สารเลวนั่น มันไม่ใช่คนดี ! ” จากนั้นหญิงสาวก็ซัดฝ่ามือเข้าหาเจี้ยนเฉิน เปลวเพลิงรอบ ๆ ตัวของนางพุ่งขึ้นสูงทันทีและควบแน่นกลายเป็นฝ่ามือพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว หญิงสาวชุดแดงช่างเป็นคนไร้เหตุผลยิ่งนัก นางเป็นคนหยาบคาย

เพียงคิด กฎแห่งกระบี่ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ควบแน่นกลายเป็นปราณกระบี่ยักษ์พุ่งเข้าหาฝ่ามือเพลิงทันที

ฝ่ามือเพลิงของหญิงสาวแตกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินยังคงอยู่ มันส่องแสงสีขาวพร่างพราว

“ขั้นเหนือเทพ ! ” หญิงสาวคนนั้นขมวดคิ้วขณะที่จ้องไปที่ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน

“แม่นาง ไม่ใช่ว่าเจ้าทำเกินไปหรอกหรือ ? ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างใจเย็น หญิงสาวในชุดแดงเป็นขั้นเทพช่วงปลาย ดังนั้นนางจึงแข็งแกร่งกว่าตงเทียน

เจี้ยนเฉินรู้ได้โดยไม่ต้องพูดอะไร หญิงสาวคนนั้นคงโกรธมากและนางก็ตะโกนออกมาว่า “ข้าทำอะไรเกินไป ? เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าเพราะว่าเจ้าเป็นขั้นเหนือเทพงั้นหรือ ? ” จากนั้นเปลวเพลิงรอบ ๆ ตัวหญิงสาวก็หายไปในทันที วินาทีต่อมาเกิดประกายไฟฟ้ารอบ ๆ ตัวนางและกระบี่ที่เต็มไปด้วยประจุสายฟ้าสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นมาในมือของนาง

“กฎสายฟ้า ! ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจ กฏสายฟ้าเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในกฏที่มีการทำลายล้างที่มากที่สุดเทียบเท่ากับกฏของกระบี่และกฏทำลายล้างและอื่น ๆ

นอกเหนือจากกฎของไฟแล้ว หญิงสาวชุดแดงก็เข้าใจกฏสายฟ้าด้วยเช่นกัน

ในตอนนี้หญิงสาวเหวี่ยงกระบี่เข้าหาเจี้ยนเฉินหลังจากใช้กฏสายฟ้า นางเคลื่อนที่เร็วอย่างเห็นได้ชัด กระบี่ของนางเปล่งประจายประจุไฟฟ้าไปตามทิศทางที่มุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินจีบนิ้วเปล่งปราณกระบี่เข้าต่อสู้กับหญิงสาว เขาเคลื่อนไหวอย่างสงบ แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพบว่าถึงแม้ว่าหญิงสาวจะเป็นเพียงขั้นเทพช่วงปลาย แต่ก็อยู่เหนือคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน

หากกฏแห่งกระบี่ของเขายังไม่ถึงขั้นจิตวิญญาณกระบี่ เขาอาจจะไม่สามารถสู้กับหญิงสาวได้

“สายฟ้า ! ” ในเวลานั้นหญิงสาวก็ตะโกนออกมา นางชี้กระบี่ของนางไปยังท้องฟ้า ขณะที่นางทำก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ราวกับโลกเกิดความวุ่นวายทันที

ในเวลาต่อมาก สายฟ้าก็ปรากฏโดยไม่มีเมฆ มันผ่าเข้าไปที่กระบี่ที่ชี้ขึ้นฟ้าของหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว มันผ่าลงบนกระบี่ก่อนที่จะทำให้กระบี่ส่องสว่างระยิบระยับทันที มันสั่นตลอดเวลา จากนั้นนางก็ชี้กระบี่ไปที่เจี้ยนเฉิน สายฟ้าก็พุ่งจากกระบี่เข้าหาเจี้ยนเฉินทันที

ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่แคบลง เขายืดนิ้วออกไปอย่างสงบและเขาก็ปล่อยปราณกระบี่ออกมาปะทะกับสายฟ้านี้ จากนั้นก็เกิดประกายไฟจากการปะทะระหว่างปราณกระบี่และสายฟ้าและพลังทั้งสองก็แตกกระจายไปโดยที่ไม่มีใครได้เปรียบใคร ในทางกลับกัน ภูเขาที่เจี้ยนเฉินยืนอยู่ราบเป็นหน้ากลอง

“แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ ! ” เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ หญิงสาวคนนั้นแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ เห็นได้จัดว่านางเป็นเพียงขั้นเทพช่วงปลาย แต่พลังต่อสู้ของนางเกินขั้นเทพช่วงปลายไปแล้ว

“เพลิงสายฟ้าฟาด ! ” หญิงสาวตะโกน คราวนี้กฎแห่งไฟและสายฟ้าเข้ามาสนับสนุนกันรอบ ๆ ตัวนาง มันก่อให้เกิดโซ่สายฟ้าและไฟพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินและหมุนรอบ ๆ ตัวของเขา

เจี้ยนเฉินเครียดเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีของขั้นเหนือเทพจากนาง

เพลิงสายฟ้าฟาดของหญิงสาวมีพลังใกล้เคียงกับขั้นเหนือเทพช่วงต้น

เจี้ยนเฉินปล่อยผนึกและกระบี่ปราณทองคำเข้ามาควบแน่น มันพุ่งออกไปเป็นแนวแสงสีทองชนเข้ากับโซ่ที่มาจากกฏของไฟและสายฟ้า

ตูม !

โซ่ทั้งสองเส้นกระจายหายไปในเวลาเดียวกัน ขณะที่ปราณกระบี่สีทองของเจี้ยนเฉินยังคงพุ่งต่อไปเรื่อย ๆ มันพุ่งเข้าหาหญิงสาวเหมือนเดิมเพียงแต่แสงของมันหม่นลงไปเล็กน้อย

ปราณกระบี่ทองเคลื่อนไหวเร็วเกินไป มันมาถึงหญิงสาวแทบจะทันทีหลังจากที่ทำลายโซ่ทั้งสองของนาง

สีหน้าของหญิงสาวยังคงเหมือนเดิม ทันใดนั้นเกราะสีแดงเพลิงก็ปรากฏขึ้นป้องกันนาง

ปราณกระบี่ปะทะเข้ากับเกราะและกระจายออกไป ใบหน้าของนางซีดเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก