บทที่ 1491 เธอชอบคุณ

The king of War

เมื่อมองไปที่ซ่านกวนโหรวที่มีสีหน้าจริงจัง ไม่รู้ทำไมหยางเฉินถึงได้รู้สึกอบอุ่นในใจ

เขาดูออกว่า ซ่านกวนโหรวไม่อยากตกอยู่ในใต้อำนาจของราชวงศ์ซ่านกวนจริงๆ เว้นแต่ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงประเภทที่แสดงละครเก่งคนหนึ่ง

หยางเฉินพูดว่า “ขอบคุณ!”

ซ่านกวนโหรวส่ายหัวไปมาอย่างขมขื่น “ต่อไป ถึงฉันต้องการช่วยคุณ ฉันก็คงช่วยไม่ได้”

หยางเฉินถาม “หมายความว่ายังไง?”

เขารู้สึกเสมอว่า คำพูดของซ่านกวนโหรวนั้นต้องการสื่ออะไรบางอย่าง พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความขมขื่นของเธอ ราวกับว่าเขามีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

“ไม่มีอะไรค่ะ!”

ซ่านกวนโหรวส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า “ฉันพาคุณไปพบท่านปู่ของฉันก็แล้วกันค่ะ!”

เธอไม่ต้องการจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ หยางเฉินเองก็ไม่บังคับเธอ และตามซ่านกวนโหรวไปพบกษัตริย์ซ่านกวน

“คุณหยาง มาแล้วเหรอ!”

เมื่อกษัตริย์ซ่านกวนเห็นหยางเฉิน เขาพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ไม่ว่าเมื่อไหร่ ใบหน้าของกษัตริย์ซ่านกวนเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ ดูไม่ออกถึงความโกรธของเขาเลย

หยางเฉินพยักหน้า “ครั้งนี้ ต้องขอบคุณกษัตริย์ซ่านกวนแล้วครับ ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่รู้ว่าผมจะออกมาจากตระกูลหลี่ได้หรือไม่”

“เอ๊ะ?”

กษัตริย์ซ่านกวนตกตะลึง “คุณหยาง คุณพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”

ซ่านกวนโหรวที่อยู่ข้างๆ รู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอเคยเตือนหยางเฉินแล้วว่าอย่าเปิดเผยเรื่องที่วิถีบู๊ตัวเองถูกทำลายให้กับคนอื่น แต่คำพูดของหยางเฉินในตอนนี้ ไม่ใช่ว่ากำลังเปิดเผยเรื่องที่วิถีบู๊ของตัวเองได้สูญเสียหรอกเหรอ?

หยางเฉินประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่า กษัตริย์ซ่านกวนไม่รู้ว่าวิถีบู๊ของผมถูกทำลาย และถูกตระกูลหลี่กักบริเวณมาสามวันแล้ว?”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดว่า “ฉันไม่รู้เลย!”

หลังจากนั้น เขามองไปที่หยางเฉินด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจและพูดว่า “อะไรนะ? นี่คุณหมายความว่าวิถีบู๊ของคุณถูกทำลายแล้วงั้นเหรอ?”

หยางเฉินพยักหน้าและพูดด้วยท่าทางขมขื่นว่า “ก่อนหน้านี้ผมไปที่ราชวงศ์เย่ และต่อสู้กับผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่ จนได้รู้ว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่โทษตัวเองที่วู่วามเกินไป ไม่ฉะนั้นคงไม่เสียท่าให้กับผู้พิทักษ์ราชวงศ์เย่”

จริงๆ แล้วกษัตริย์ซ่านกวนรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่การที่หยางเฉินพูดออกจากปากตัวเองนั้น ทำให้เขาตกใจอย่างมาก

เขารู้ว่าผู้พิทักษ์ของราชวงศ์นั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าสิ่งที่หยางเฉินพูดนั้นจะจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือเขาเคยต่อสู้กับผู้พิทักษ์ของราชวงศ์

แม้ว่าเรื่องที่วิถีบู๊ของหยางเฉินจะถูกทำลายเป็นเรื่องจริง แต่การที่เขารอดจากน้ำมือของผู้พิทักษ์ราชวงศ์มาได้นั้น เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก?

หากว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินยังไม่ถูกทำลายไปแล้วล่ะก็ เขาแค่ต้องการปิดบังความจริงกับคนนอก?

ถ้าเป็นเช่นนั้น แสดงว่าหยางเฉินสามารถเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดงั้นเหรอ?

ยิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ กษัตริย์ซ่านกวนก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น

“คุณหยาง วิถีบู๊ของคุณถูกทำลายแล้วจริงๆ เหรอครับ?” กษัตริย์ซ่านกวนถามอีกครั้ง

หยางเฉินพยักหน้า “เป็นเรื่องจริงครับ!”

กษัตริย์ซ่านกวนเงียบไปครู่หนึ่ง ซ่านกวนโหรวที่อยู่ข้างๆ ก็เป็นกังวลอย่าง ไม่รู้ว่าจะช่วยหยางเฉินอย่างไร

“ไม่ว่าวิถีบู๊ของคุณหยางจะถูกทำลายจริงๆ แต่สำหรับฉันแล้ว คุณหยางจะเป็นเพื่อนของราชวงศ์ซ่านกวนเสมอ จากนี้ไปคุณหยางก็อยู่ในราชวงศ์ซ่านกวนตามสบายได้เลยนะครับ! ฉันจะให้คนในราชวงศ์ปฏิบัติต่อคุณหยางเป็นอย่างดี”

จู่ๆ กษัตริย์ซ่านกวนก็พูดขึ้นมา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดาย ทันใดนั้นเขามองไปที่ซ่านกวนโหรวและพูดว่า “โหรวเอ๋อร์ เธอไปทำธุระของเธอก่อนเลย ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับคุณหยางตามลำพัง”

“ท่านปู่……”

ซ่านกวนโหรวเหลือบมองกษัตริย์ซ่านกวนและเห็นใบหน้าของกษัตริย์ซ่านกวนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ไปเถอะ!”

หยางเฉินเองก็มองไปที่ซ่านกวนโหรวแล้วพยักหน้า จากนั้นซ่านกวนโหรวก็หันหลังและเดินออกไป

และจากนั้น ในห้องก็เหลือแค่หยางเฉินกับกษัตริย์ซ่านกวนสองคนเท่านั้น

หยางเฉินมองไปที่กษัตริย์ซ่านกวนด้วยรอยยิ้มและถามว่า “ไม่ทราบว่ากษัตริย์ซ่านกวน มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”

กษัตริย์ซ่านกวนไม่พูด เอาแต่มองหยางเฉินสักพักแล้วพูดว่า “มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ฉันตั้งใจไว้ว่าจะไม่บอกคุณหยาง แต่ในเมื่อตอนนี้คุณหยางได้สูญเสียวิถีบู๊ไปแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกับคุณหยางแล้วล่ะครับ”

หยางเฉินขมวดคิ้ว “ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะบอกเรื่องอะไรกับผมเหรอครับ?”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “วันนี้ ตระกูลหลี่ส่งคนมาพูดคุยเรื่องการแต่งงาน และต้องการให้โหรวเอ๋อร์แต่งกับตระกูลหลี่ เดิมที ฉันปฏิเสธ แต่โหรวเอ๋อร์ตอบตกลงไป”

หยางเฉินรู้สึกงงเล็กน้อย “ฝ่าบาท นี่เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมฝ่าบาทถึงยังดูเศร้า อีกอย่างการบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้จะมีประโยชน์อะไรเหรอครับ?”

กษัตริย์ซ่านกวนมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “เดิมทีฉันปฏิเสธ แต่ตระกูลหลี่แข็งแกร่งเกินไป ฉันเองก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลง คุณก็รู้ว่าเหล่าจู่ของตระกูลหลี่หลี่จ้งยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ หากผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ซ่านกวนไม่ปรากฏตัว ก็จะไม่มีใครสามารถรับมือตระกูลหลี่ได้”

“อย่างไรก็ตาม โหรวเอ๋อร์ตอบตกลงแล้ว คุณรู้ไหมว่าทำไมตระกูลหลี่ถึงยอมปล่อยตัวคุณออกมา?”

จู่ๆ หยางเฉินก็ถามด้วยท่าทางแปลกๆ ว่า “ทำไมเหรอครับ?”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เพราะโหรวเอ๋อร์ เธอบอกว่า ตระกูลหลี่ต้องปล่อยตัวคุณหยางออกมาก่อน เธอถึงจะตกลงแต่งงานกับตระกูลหลี่ ด้วยเหตุนี้ ตระกูลหลี่จึงยอมประนีประนอมและปล่อยคุณออกมา”

“อะไรนะครับ?”

หยางเฉินดูโกรธขึ้นมาทันที “ทำไมตระกูลหลี่ชั่วช้าขนาดนี้?”

กษัตริย์ซ่านกวนถอนหายใจ “ใครใช้ให้โหรวเอ๋อร์ไปชอบคุณล่ะ?”

คราวนี้หยางเฉินยิ่งประหลาดใจมากขึ้นกว่าเดิม “ฝ่าบาท ผมกับซ่านกวนโหรวนั้นบริสุทธิ์ใจกัน ไม่มีความสัมพันธ์อะไรที่มากไปกว่าเพื่อน ผมมีภรรยาและลูกสาวแล้ว ผมจะไปมีความรู้สึกต่อเธอได้อย่างไรครับ?”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดอย่างหมดหนทางว่า “ผู้หญิงสวยล้วนรักสุภาพบุรุษกันทั้งนั้น เดิมทีแล้วฉันเองก็ไม่ได้ชื่อคำนี้หรอกนะ แต่นึกไม่ถึงว่าความภาคภูมิใจของราชวงศ์ซ่านกวน จะตกหลุมรักคนอย่างคุณ”

“คุณหยาง ที่ฉันบอกเรื่องนี้กับคุณ ไม่ได้เพราะอยากให้คุณรับผิดชอบอะไร แต่ว่าโหรวเอ๋อร์เป็นทายาทคนต่อไปที่จะเป็นกษัตริย์ซ่านกวนของราชวงศ์ซ่านกวน พอมาตอนนี้ เขายอมแต่งกับตระกูลหลี่ก็เพื่อคุณ”

“นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันแค่ไม่ต้องการให้โหรวเอ๋อร์ทำเพื่อคุณขนาดนี้ แต่คุณกลับไม่รู้อะไรเลย”

หลังจากพูดจบ เขาก็ถอนหายใจ “เฮ้อ แค่สงสารโหรวเอ๋อร์ของฉัน แต่ก็ต้องยอมรับมันให้ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วตระกูลหลี่ในตอนนี้ก็ถือว่าแข็งแกร่งมากจริงๆ แม้ว่าโหรวเอ๋อร์จะไม่ชอบตระกูลหลี่ แต่พอเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”

หยางเฉินไม่ได้ตอบอะไร และเงียบไปครู่หนึ่ง และมีความกดดันเล็กน้อยในใจ

“พ่อบ้านจาง คุณช่วยจัดที่พักให้คุณหยาง และจัดทุกอย่างตามมาตรฐานการต้อนรับแขกคนสำคัญของราชวงศ์ซ่านกวนและทำตามสิ่งที่คุณหยางต้องการ”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดกับพ่อบ้านจางที่อยู่ข้างๆ เขา

“เชิญครับ! คุณหยาง”

พ่อบ้านจางเดินไปข้างๆ หยางเฉินแล้วโค้งคำนับตัวเล็กน้อย

หยางเฉินหันไปมองกษัตริย์ซ่านกวน แล้วเดินตามพ่อบ้านจางไป

ขณะที่หยางเฉินเดินตามพ่อบ้านจางไป ก็มีชายชราในชุดธรรมดาคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างหลัง

“เสด็จอา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ท่านเห็นหมดแล้วใช่ไหม? ท่านดูออกไหมว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินได้ถูกทำลายไปแล้วจริงๆ หรือยัง?”

กษัตริย์ซ่านกวนมองไปที่ชายชราในชุดธรรมดาแล้วถาม

ชายชราในชุดธรรมดาคือเสด็จอาของเขา ซ่านกวนฟู่

ใบหน้าของซ่านกวนฟู่เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้น เขาส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า “มีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับเด็กคนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีออร่าของวิถีบู๊แผ่ออกมาจากตัวของเขาเลย แต่พลังในเลือดของเขานั้นกลับยังแข็งแกร่งมาก แม้แต่ฉันเองก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันนั้น”

กษัตริย์ซ่านกวนตกใจขึ้นมาทันที “เสด็จอาหมายความว่าเป็นไปได้ที่วิถีบู๊ของเขาอาจจะถูกทำลายไปแล้วจริงๆ แต่พลังในเลือดของเขายังทรงพลังมากงั้นเหรอ?”