ครั้งนี้หากสามารถช่วยชีวิตหนิงหานยู่ออกมาได้ละก็ นางวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังมหาโลกายอดอัมพรพร้อมหลัวซิวแล้ว มิเช่นนั้นพวกนางพี่น้องก็อย่าคิดที่จะมีชีวิตรอดจากการไล่ลาของตระกูลฉีได้เลย

นางมองว่าหลัวซิวเป็นที่พึ่งพิงไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว หากพวกนางพี่น้องทั้งสองสามารถติดตามผู้แข็งแกร่งที่มีศักยภาพไร้ขอบเขตเช่นนี้ บางทีใช้เวลาอีกไม่นาน พวกนางก็จะสามารถล้างแค้นเพื่อพ่อที่เสียชีวิตไปได้แล้ว

แต่ทว่าสภาพจิตใจของฉียู่หรงก็ยังไม่แน่วแน่เล็กน้อยอยู่ดี นางกังวลว่าศิษย์พี่เย่ผู้นี้จะมองว่าผลการฝึกตนศักยภาพของพวกนางต่ำเกินไป ไม่พอใจในตนเอง

ในขณะที่ฉียู่หรงกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น ทั้งสองก็มาถึงบริเวณลานบ้านแห่งหนึ่งในเมืองคุนซาน

“ที่นี่หรือ?”หลัวซิวเอ่ยปากถาม

“ใช่เจ้าค่ะ หานยู่ถูกคนในตระกูลฉีกักขังอยู่ที่นี่”ฉียู่หรงตอบกลับอย่างร้อนรนเล็กน้อย น้องสาวของนางถูกจับกุมตัวมาเป็นเวลานานมาก ๆ แล้ว นางกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหนิงหานยู่

“ภายในเมืองมีพลังออร่าที่แข็งแกร่งมาก ๆ พลังหนึ่ง ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่สูงกว่ามกุฎเทพช่วงกลางแน่นอน เพราะฉะนั้นหากจะลงมือละก็ ข้าจำเป็นต้องเตรียมการก่อน”

หลัวซิวไม่ได้ลงมือบุ่มบ่ามแต่อย่างใด เขาออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากปล่อยให้เรื่องบางอย่างกระทบต่อแผนการทั้งหมดของตัวเอง

หลัวซิวเจอโรงเตี๊ยมร้านหนึ่งในละแวกลานบ้าน หลังจากจัดวางค่ายกลป้องกันออร่าไว้ในห้องพักของโรงเตี๊ยมแล้ว เขาก็เริ่มฝึกเซ่นธงค่ายอยู่ภายในห้องพัก

แดนของวิถีค่าย ดูได้จากวิธีการจัดวางค่ายกล วิธีการที่ด้อยที่สุดก็คือการใช้ธงค่ายจัดวางค่ายกล ถูกเรียกว่าหลอมค่ายเป็นธงต่อมาคือก่อค่ายเป็นเข็มทิศ ก่อค่ายเป็นยันต์

เมื่ออยู่ในแดนนักค่ายเทพระดับ 9 สำหรับค่ายกลธรรมดาทั่วไปหลัวซิวจะใช้วิธีการก่อค่ายเป็นยันต์จัดวางออกมาภายในพริบตา ทว่าหากเป็นค่ายกลที่พลานุภาพค่อนข้างทรงพลัง ก็ต้องใช้วิธีการของธงค่ายหรือผังค่ายแล้ว

ในเมื่อเขาจะลงมือในเมืองคุนซาน ก็ต้องซ่อนตัวจากสำรวจผ่านตัวสำนึกของผู้แข็งแกร่งคนนั้นในเมืองไปให้ได้ ค่ายกลป้องกันระดับ 9 ทั่วไปต้องทำเช่นนั้นไม่ได้อยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องจัดวางค่ายกลที่แข็งแกร่งมากกว่านั้น

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง หลัวซิวก็กลั่นธงค่ายออกมาได้สิบกว่าผืน ธงค่ายทุกผืนล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่สามารถกลั่นราชาแห่งศัสตราวุธชั้นยอดได้ สามารถจัดวางค่ายกลซ่อนและป้องกันออร่าเพื่อซ่อนตัวจากกระแสสัมผัสของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพ

ภายในลานบ้านในเมืองคุนซาน อารมณ์ของเหล่าวัยรุ่นดูไม่ค่อยสงบเล็ก

วัยรุ่นเหล่านี้ล้วนเป็นบุตรผู้ภาคภูมิของสวรรค์ในตระกูลฉี ทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่ผ่านการคัดเลือกจากคนหลายพันคน การปรากฏของดาราแห่งกาลเวลาในครั้งนี้ พวกเขาทุกคนล้วนถูกส่งมาฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่

แต่ทว่าเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ ฉีเตียหลงผู้สืบทอดนายท่านในอนาคตกลับดับสลายสูญสิ้น ฉีเฉียวซานอาจารย์มกุฎเทพที่เป็นผู้นำทีมจึงรีบเร่งเดินทางไป ทว่าผ่านไปอีกไม่นาน อาจารย์ฉีเฉียวซานก็ดับสลายสูญสิ้นไปด้วยคน!

ระดับสูงของตระกูลฉีที่อยู่ฝั่งโลกะอัมพรเทวส่งข่าวมา ให้พวกเขาอยู่ภายในเมืองคุนซานอย่าไปที่ใดมั่วซั่ว บรรยากาศที่กดดันโอบล้อมอยู่ในลานบ้านแห่งนี้ ทุกคนต่างรู้สึกว่ามีเมฆครึ้มปกคลุมอยู่ในใจของตน

ภายในห้องพักหนึ่งในลานบ้าน หญิงสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงสีขาวคนหนึ่งถูกกักขังอยู่ภายในค่ายกล มีตัวต้องห้ามร่ายติดอยู่ภายในร่างกายนาง ผลการฝึกตนทั้งร่างถูกผนึก ทั่วทั้งห้องถูกค่ายกลผนึกไว้ นางไม่สามารถออกไปได้เลยด้วยซ้ำ

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน ถัดจากนั้นประตูห้องพักก็ถูกเปิดออก ก่อนจะมีชายหนุ่มที่ใบหน้าดุร้ายคนหนึ่งเดินเข้ามา

ชายหนุ่มดังกล่าวใส่ชุดแพร มีกลิ่นอายชั่วร้ายลอยวนอยู่ตรงหว่างคิ้ว หลังจากเดินเข้ามาแล้วเขาก็ปิดประตูห้อง พร้อมกับร่ายสีมาหนึ่งออกมาปิดกั้นเสียงในห้องและโลกภายนอกไว้

เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของฝ่ายตรงข้าม สีหน้าของหญิงสาวกระโปรงขาวจึงเปลี่ยนไป ร่างกายถอยหลังกลับไปอย่างควบคุมไม่ได้ “เจ้าจะทำอะไร?”