ตอนที่ 2433 โจทย์น้ำเข้าน้ำออกหมื่นปีไม่เคยเปลี่ยน
เหมยเหมยเดินนำเข้าห้องไปก่อน เหยียนหมิงซุ่นมองผู้เฒ่าทั้งสองด้วยสายตาฉงน
คุณย่าหยางกระซิบเสียงเบา “เรื่องที่หลานพาเล่อเล่อไปล่าสัตว์ย่างหนูกินบนเขาความแตกแล้ว เหมยเหมยโกรธมาก!”
ความจริงเธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรจริง ๆ ใช่ว่าเด็กผู้หญิงต้องเป็นสาวน้อยมากความสามารถกันทุกคนนี่นา เล่อเล่อของเธอสามารถเป็นแม่ทัพหญิงได้อย่างสบาย ๆเลย!
เพียงแต่สิ่งที่เหมยเหมยกังวลก็ไม่ผิดหรอก ในเมื่อสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ในฮวาเซี่ยต้องการให้เด็กผู้หญิงอ่อนโยนสง่างามรู้หนังสือมีมารยาท แม้อดีตถึงปัจจุบันเคยมีหญิงในตำนานที่เก่งกาจไม่ด้อยไปกว่าชายแต่มันช่างน้อยเหลือเกิน หนำซ้ำยังต้องแบกรับความกดดันมากจนเกินไป
หากเป็นไปได้เธอก็ชอบให้เหลนสาวใช้ชีวิตเรียบง่ายสุขสบายไม่มีเรื่องรังควานใจตลอดชีวิต!
เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกอีกที พลางถลึงตาใส่เล่อเล่อที่แอบโผล่ศีรษะออกจากห้องเพื่อสังเกตการณ์เป็นระยะ ๆทีหนึ่ง เดี๋ยวค่อยจัดการยัยเด็กทรยศนี้ทีหลัง
ปากโป้งเสียจริง
เล่อเล่อตัวสะท้านเฮือกแล้วรีบหดตัวกลับไปหลบอยู่หลังประตูทันที
ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย…
เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้าห้องแสร้งทำเป็นยิ้มเอ่ย “ใครทำให้เธอโมโหกัน บอกมาพี่จะสั่งสอนให้”
“พี่ตบหน้าตัวเองสามร้อยทีแล้วกัน!”
เหมยเหมยชี้ไปที่หีบบนพื้นแล้วถลึงตาใส่เขา
เหยียนหมิงซุ่นก่นด่าลูกสาวในใจไปยกหนึ่ง ของแค่นี้ยังซ่อนไว้ไม่ได้ เขายิ้มแก้เก้อแล้วเอ่ยต่อเหมยเหมยว่า “เป็นแค่ของเล่นเล็ก ๆน้อย ๆเอง เล่อเล่อชอบเล่น ลูกขอพี่มาตั้งหลายทีแล้วพี่เลยจำเป็นต้องให้”
ความจริงคือเหยียนหมิงซุ่นเห็นวัน ๆลูกสาวเอาแต่โยนก้อนหินเล่น เขาคิดว่ามันเสียเวลาจึงทำหนังสติ๊กทันสเตนผูกกับยางให้เอง แถมยังไปเอาลูกแก้วทังสเตนจากโรงงานเหล็กกล้ามากองหนึ่ง หลังจากสอนวิธีการใช้งานเบื้องต้นไปก็ปล่อยให้เล่อเล่อเล่นเอง
ส่วนมีดสั้นกับลูกดอกปาเป้าเหยียนหมิงซุ่นก็เป็นคนให้เอง ช่วงนี้เขายังชั่งใจอยู่ว่าจะหามีดบูมเมอแรงมาให้เล่อเล่อเล่นสักหน่อย
แต่ในเมื่อเหมยเหมยโกรธเข้าแล้ว งั้นก็พับความคิดนี้เก็บไว้ก่อนแล้วกัน
“เล่อเล่อยังอยากได้ดวงจันทร์บนฟ้า ทำไมพี่ไม่ไปสอยลงมาให้ล่ะ?” เหมยเหมยโกรธจนจิ้มหน้าอกเหยียนหมิงซุ่นแรง ๆหลายที
“พี่ฝากเพื่อนที่ออกปฏิบัติการบนยานอวกาศแล้วว่าขากลับให้เอาเศษหินอุกกาบาตบนดวงจันทร์มาหลาย ๆชิ้นหน่อย เดือนหน้าก็ถึง”
เหมยเหมย ‘…อยากต่อยคนจังแฮะ’
“พี่จงใจจะต่อกรกับฉันใช่ไหม? ได้ใจมากเหรอ?” เหมยเหมยกรีดร้องออกมา น่าโมโหจริง ๆ
ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างชะเง้อคอยาว ตัวสะท้านเฮือกแล้วหันหน้ามองกันและกัน
“ทะเลาะกันจริง ๆเหรอ?” คุณย่าหยางรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพิ่งเคยเห็นเหมยเหมยโมโหขนาดนี้เป็นครั้งแรก!
คุณปู่เหยียนก็กังวลไม่แพ้กัน “หรือว่าคุณเข้าไปเกลี้ยกล่อมหน่อยไหม? ให้คุยกันดี ๆอย่าทะเลาะกันเลย!”
“ทำไมคุณไม่เข้าไปล่ะ? ปกติชอบใช้เหตุผลนักไม่ใช่เหรอ?” คุณย่าหยางไม่พอใจอย่างมาก
“เรื่องของสองสามีภรรยาฉันจะเข้าไปทำไม ไม่เข้าเรื่องเลยจริง ๆ!”
“ฉันเข้าไปแล้วเหมาะสมงั้นสิ…”
……
เล่อเล่อเงยหน้ามองคุณปู่ทวดกับคุณย่าทวดที่ทะเลาะกันไปด้วยอีกคู่ ดวงตากลมโตสองข้างเต็มไปด้วยความงุนงง นี่มันอะไรกัน?
ฉิวฉิวกระโดดมาอยู่บนศีรษะเล่อเล่อแล้วส่งเสียงร้องเรียกเธอหลายที “อย่าไปสนใจพวกเขาเลย เราออกไปเล่นข้างนอกกันเถอะ
เล่อเล่อดวงตาเป็นประกายและคร้านจะสนใจสองคู่ที่กำลังทะเลาะกันแล้ว พลางอุ้มฉิวฉิววิ่งออกไปข้างนอกโดยมีเสวี่ยเอ๋อร์ตามมาติด ๆ
ภายในห้องเหยียนหมิงซุ่นกำลังโน้มน้าวเหมยเหมยอย่างใจเย็น “เล่อเล่อไม่ชอบวาดรูปเลย ต่อให้เธอบีบบังคับยังไงก็เปล่าประโยชน์ ลูกสาวของเราไม่ใช่สาวอัจฉริยะโดยแท้ เธอจะปั้นออกมาได้เหรอ?”
“นั่นก็เพราะพี่จงใจต่อกรกับฉันไง ไม่อย่างนั้นฉันต้องปั้นออกมาได้แน่ ๆ” เหมยเหมยคำรามด้วยความโกรธ
“เมื่อก่อนพี่สอนเธอเรื่องโจทย์น้ำเข้าน้ำออก พูดไปนับครั้งไม่ถ้วนเธอก็ทำไม่ได้เหมือนเดิม” เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากทำร้ายจิตใจภรรยาตัวเองเลยจริง ๆ ทั้งที่ตอนเด็กเหมยเหมยก็เคยผ่านความเจ็บปวดนี้มาแล้วทำไมถึงยังฝืนจะสอนลูกสาวในสิ่งที่เธอไม่ชอบกันล่ะ?
ความสนใจเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเรียนรู้ นี่เป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน
…………………………..
ตอนที่ 2434 คนที่อยากแต่งงานกับเล่อเล่อต่อคิวยาวไปถึงเทียนจิน
เหมยเหมยสะอึกในทันที
ต่อให้เวลาผ่านไปหลายปีเธอก็ยังคงจำโจทย์น้ำเข้าน้ำออกนั่นได้ดี และจำได้ว่าเหยียนหมิงซุ่นสอนเธอไปนับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่เข้าใจเลยสักรอบเดียว
แต่–
“ฉันกับเล่อเล่อไม่เหมือนกัน ฉันมีอุปสรรคทางด้านตรรกะความคิดแต่มุมมองความคิดส่วนตัวก็ยังอยากตั้งใจเรียน แต่เล่อเล่อไม่ได้อยากเรียนหนังสือเลยซึ่งนี่คือความต่าง” เหมยเหมยแย้ง
“แต่ในมุมมองของพี่ต้นเหตุกลับเหมือนกัน เธอมีอุปสรรคด้านการเรียนแต่มีพรสวรรค์ด้านการวาดรูปเต้นรำเลยเรียนได้สบาย ๆ เล่อเล่อก็เหมือนกัน ลูกมีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ ฉะนั้นเราต้องสนับสนุนจุดแข็งหลีกเลี่ยงจุดอ่อน อย่าบังคับให้เล่อเล่อไปเรียนในสิ่งที่ลูกไม่ชอบสิ” เหยียนหมิงซุ่นพยายามโน้มน้าว
“แต่จะไม่เรียนหนังสือได้อย่างไร? หรือว่าอนาคตเล่อเล่อไม่สอบมหาวิทยาลัยแล้วงั้นเหรอ? พี่อยากให้เล่อเล่อไม่รู้หนังสือเหรอ?”
“จะไม่รู้หนังสือได้ยังไง เล่อเล่อแค่ไม่ชอบเรียนหนังสือ ไม่ใช่คนสติปัญญาไม่ดีสักหน่อย วางใจได้เลย อนาคตผลการเรียนของเล่อเล่อมีแต่จะดีกว่าเธอแน่นอน!”
เหยียนหมิงซุ่นมั่นใจมาก เล่อเล่อหน้าตาคล้ายเขา ด้านสติปัญญาก็ต้องคล้ายเขาเช่นกันอย่างแน่นอน ตอนนั้นเขาสอบไม่เคยร่วงจากสามอันดับแรกสักครั้ง เล่อเล่อเองก็ไม่มีทางแย่ไปกว่ากันหรอก
เหมยเหมยแค่นหัวเราะ “นี่พี่พูดเองนะ ถ้าวันหน้าเล่อเล่อสอบได้ศูนย์คะแนน ดูสิว่าพี่จะเอาหน้าไปไว้ไหน!”
“เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เธออย่าคิดมากเลย เราต้องสร้างช่วงวัยเด็กของลูกให้มีความสุขสิ วัน ๆเธอเอาแต่บังคับเล่อเล่อเรียนสิ่งที่ลูกไม่ชอบ ลูกจะมีความสุขได้เหรอ? เธอไม่สงสารลูกเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นใช้ทั้งเหตุผลทั้งอารมณ์หว่านล้อมจนเหมยเหมยใจอ่อนลงมากแต่ก็อดแก้ตัวให้ตัวเองไม่ได้ “ฉันจะไม่สงสารเล่อเล่อได้อย่างไร ฉันร้อนใจแทนลูกต่างหาก ไม่มีกิริยามารยาทแบบผู้หญิงสักนิด โหดกว่าผู้ชายแบบนี้ฉันจะไม่ร้อนใจได้เหรอ!”
“เธอใจร้อนเกินไปแล้วเหมยเหมย” เหยียนหมิงซุ่นชี้ให้เห็นจุดปัญหา
เหมยเหมยเถียงไม่ออก ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงตอบกลับ “คงจะอย่างนั้น ฉันแค่ห่วงว่าเล่อเล่อจะพึ่งตัวเองเกินไปแล้วจะถูกขับออกจากกลุ่ม และไม่มีผู้ชายชอบลูก…ฉันห่วงมากเกินไป เฮ้อ พี่ไม่เข้าใจหัวอกฉันหรอก”
ผู้ชายที่ไม่สนใจคำพูดของคนอื่นแล้วทำแต่ในสิ่งที่ตนเองชอบไม่มีใครว่าอะไรหรอก แถมยังชมเชยว่าผู้ชายคนนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความคิดเป็นของตัวเองและพูดยกยอปอปั้นอีกยาวเหยียด
แต่หากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใช้ชีวิตต่างไปจากเด็กผู้หญิงทั่วไป รักอิสระพึ่งตัวเอง ใจกล้าไม่กลัวสิ่งใด พุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ…สิ่งที่นำพามาสู่ตัวเธออาจไม่ใช่คำชื่นชมแต่เป็นคำติเตียน!
เพราะนี่เป็นสังคมชายเป็นใหญ่ ผู้ชายไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเก่งกว่าพวกเขา ซึ่งจะนำพาปัญหามากมายมาสร้างความลำบากใจให้แก่ผู้หญิง
เหมยเหมยไม่อยากให้ลูกสาวต้องเผชิญกับเรื่องราวเหล่านี้เลยจริง ๆ เธอแค่อยากให้เล่อเล่อเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมีความสุขไม่ต้องกังวลอะไรตลอดไป
“เธอกังวลไปเรื่อยเปื่อยน่า มีฉันอยู่ใครจะกล้ารังแกเล่อเล่อ?” เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าเหมยเหมยคิดเหลวไหลทั้งเพ เล่อเล่อเพิ่งจะอายุสามขวบก็คิดไปถึงเรื่องความรักแล้ว ความคิดของนักศิลปินนี่มีความก้าวกระโดดตามคาดเลย
“แล้วถ้าเล่อเล่อตัวแกร่งเหมือนคิงคองผู้ชายคนไหนจะกล้าแต่งงานกับเธอ?” เหมยเหมยย้อนถาม
หากฝึกตามวิธีของเหยียนหมิงซุ่น เล่อเล่อของเธอต้องกลายเป็นหญิงร่างบึกบึนในสักวันแน่
“ฉันมีลูกน้องผู้ชายตั้งเยอะ ไม่ว่าเล่อเล่อจะถูกใจใครก็สามารถส่งเข้าเรือนหอได้ในคืนวันนั้นเลย!” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างมั่นใจ
เหมยเหมยใสซื่อเกินไป สถานะของเขาในทุกวันนี้เป็นไปได้อย่างไรที่ลูกสาวของเขาจะไม่มีคนมาขอแต่งงาน?
เกรงว่าคนที่อยากแต่งงานด้วยคงต่อแถวยาวไปถึงเทียนจินแล้วมั้ง!
เล่อเล่อที่ออกไปเล่นกลับมารอบหนึ่งได้ยินเข้าก็มึนงง กะพริบตาปริบ ๆถามเสียงเบา “คุณย่าทวด เรือนหอคืออะไรเหรอ?”
คุณย่าหยางลอบด่าหลานชายพูดจาไม่ระวัง คิดอยู่นานถึงพูดกลบเกลื่อนไปว่า “ก็คือถ้าวันหน้าเล่อเล่อโตขึ้นก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ดีกับหนูไง”
“กล้าไม่ดีกับหนู จะซ้อมเลย!”
เล่อเล่อพูดเสียงใสดังก้อง
คุณย่าหยางเหงื่อแตกพลั่ก…
คิดจากใจจริงว่าความกังวลของเหมยเหมยไม่ถือว่าเกินไปเลย
……………….