ตอนที่ 1824 : สมาชิกตระกูลหยาง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1824 : สมาชิกตระกูลหยาง

เขาคงไม่คิดอะไรมากหากไอ้บ้านนอกนี่ไม่ได้มีหน้าตาที่โดดเด่น แต่เจี้ยนเฉินนั้นกลับรูปงามกว่าตัวเขาเอง เขารู้สึกไม่พอใจตอนที่รู้สึกได้ถึงความมั่นใจที่ไอ้บ้านนอกแสดงออกมา

หญิงสาวที่ชื่อรั่วรั่วพยักหน้า นางดูสุภาพและมีท่าทีเงียบงันราวกับบุตรสาวของตระกูลใหญ่ นางไม่ได้แสดงท่าทีหยิ่งทะนงออกมา หลังจากที่มองมาที่เจี้ยนเฉินอีกครั้ง นางก็ได้ขึ้นไปชั้นบนกับอีกสองคน

ชายหนุ่มได้เห็นท่าทีของรั่วรั่วก็ทำให้สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวไป เขามองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยความโกรธก่อนจะขึ้นไปที่ชั้นบน

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มมานี้ จิตใจเขาเองก็เติบโตขึ้นไปด้วย ลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่ที่อยู่ในขั้นศักดิ์สิทธิ์ทำตัวเป็นเด็กน้อยในสายตาของเขา ผู้ใหญ่ควรไปเถียงกับเด็กน้อยหลังจากที่โดนดูถูกรึไง ? มันเป็นเรื่องน่าตลก

ยิ่งกว่านั้นเขาก็ทำเกินไปกับการถามถึงวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุดทันทีที่เข้ามาในร้าน

“งั้นเจ้ามีกระบี่บินคุณภาพสูงรึไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมาอีกครั้ง เขาได้เปลี่ยนความต้องการเมื่อเห็นว่าวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุดมีค่ามากแค่ไหน

เจ้าหน้าที่สาวมองไปที่คนที่อยู่ชั้นบน ภูมิหลังของคนเหล่านั้นน่ากลัว ชัดแล้วว่านางหมดความอดทนกับคำถามของเจี้ยนเฉิน แต่นางไม่ได้แสดงมันออกมา นางคิดว่าเจี้ยนเฉินพูดถึงวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุดเพื่อทำให้หญิงสาวที่ชื่อรั่วรั่วสนใจ

เมื่อเขาถามถึงวัตถุเซียนคุณภาพสูง บางทีมันอาจจะเป็นข้อแก้ตัวเพื่อขึ้นไปชั้นบน

“นายน้อย ร้านของเรามีวัตถุเซียนคุณภาพสูงอยู่บ้างแต่มันอยู่ชั้นบนทั้งหมด” เจ้าหน้าที่สาวยังคงยิ้มออกมาและไม่ได้แสดงความคิดของตนที่มีอยู่

“พาข้าขึ้นไปที” เจี้ยนเฉินพูดโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาขาดอาวุธที่เหมาะกับเขาจริง ๆ

“ได้ คุณชาย ตามข้ามาได้เลย” เจ้าหน้าที่สาวนั้นไม่พอใจอย่างมาก แต่นางก็ยังพาเจี้ยนเฉินขึ้นไปยังชั้นบนด้วยความสุภาพ

เจี้ยนเฉินพบว่าสามคนตะกี้ทันทีที่ขึ้นไปถึงชั้นบน พวกนั้นกำลังเลือกกระบี่บินด้วยความสนใจภายใต้การปกป้องของยาม

สามคนนั้นเองก็เห็นเจี้ยนเฉินเช่นกัน สีหน้าของชายหนุ่มหม่นลงและได้ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด “ไอ้หนูนี่ เจ้าตามรังควานเก่งจริง ๆ เจ้าตามเราไปทุกที่ ถ้าเจ้าฉลาดก็จงไปเสีย ไม่งั้นก็อย่าโทษข้าที่ทำตัวไม่สุภาพกับเจ้า ! ” ชายหนุ่มเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเจี้ยนเฉินที่ชั้นล่างเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวหยิ่งทะนงแล้ว เขาก็เริ่มเชื่อว่าการที่เจี้ยนเฉินมาที่ศาลากระบี่แท้จริงนั้นเพื่อทำให้รั่วรั่วสนใจ อันที่จริงเขารีบขึ้นมาที่ชั้นสองกับรั่วรั่ว เพื่อที่เจี้ยนเฉินจะไม่อาจจะทำให้นางสนใจได้มากนัก

แต่เขาไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินจะตามขึ้นมาทันทีที่พวกเขาขึ้นมาที่ชั้นสอง มันยิ่งทำให้เขาเชื่อ เขาเชื่อว่าเจี้ยนเฉินมาเพื่อหารั่วรั่ว

รั่วรั่วนั้นคือเทพธิดาของเขา เขาจะให้คนอื่นที่ดูหล่อเหลากว่าเขามาทำให้นางสนใจได้ยังไง ?

ผลก็คือเขาตัดสินแล้วว่าจะไม่ให้เจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่ต่อ

หญิงสาวหยิ่งทะนงได้แสดงท่าทีหมดความอดทนตอนที่เห็นเจี้ยนเฉินขึ้นมาที่ชั้นสอง แต่นางเหมือนกับคิดถึงบางอย่าง สายตานางสั่นไหว “ คนที่หยางเทียชอบนั้นคือรั่วรั่วจริง ๆ ตราบใดที่รั่วรั่วยังไม่แสดงท่าทีอะไร หยางเทียก็จะไม่ยอมแพ้ ชายคนนี้ดูมีความสามารถ หากเขาทำให้รั่วรั่วชอบพอได้ มันก็เป็นเรื่องดีต่อข้า อย่างน้อย ๆ หยางเทียจะได้ยอมแพ้ในตัวรั่วรั่ว”

ทันทีที่คิดแบบนั้น ไม่ใช่แค่นางจะหยุดรู้สึกรำคาญเจี้ยนเฉิน แต่นางกลับดูอยากให้เจี้ยนเฉินทำให้รั่วรั่วชอบพอได้

“หยางเทียต้องการจัดการกับเขา ด้วยภูมิหลังของหยางเทียแล้ว ชายคนนี้ตกอยู่ในปัญหาใหญ่แล้ว ข้าต้องช่วยเขา” หญิงสาวหยิ่งทะนงคิด ตอนที่นางคิดจะช่วยเจี้ยนเฉินให้หลุดออกจากสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนนี้ นางก็ได้ยินเสียงของเจี้ยนเฉินดังขึ้นมา

“เจ้าไม่คิดว่าตัวเองสูงส่งไปหน่อยรึไง ? ข้ามาที่นี่เพื่อซื้อกระบี่และมันเป็นเรื่องบังเอิญที่เราเจอกันทีนี่ เจ้าจะบอกว่าข้าตามเจ้ามาได้ยังไงกัน ? ยิ่งกว่านั้นข้าว่าเจ้าควรระวังปากไว้ด้วย ไม่งั้นแล้วเจ้าจะมีปัญหา” เจี้ยนเฉินพูดออกมาอย่างใจเย็นโดยเผยท่าทีเย็นชาออกมาเล็กน้อย

ทันทีที่พูดจบ แม้แต่คนที่ใจดีที่สุดก็ไม่พอใจได้ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะลดตัวให้มีฐานะเท่าเทียมกับอีกฝ่าย แต่เขาก็คงต้องสั่งสอนบทเรียนอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายยังล้ำเส้นเช่นนี้

คำขู่ของเจี้ยนเฉินทำให้คนที่ชั้นสองต้องอึ้ง พวกนั้นต่างก็มองมาที่เขาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

เจ้าหน้าที่สาวที่พาเจี้ยนเฉินมายังชั้นสองนั้นหน้าซีดไปเล็กน้อย นางรู้ว่าชายหนุ่มนี้มีภูมิหลังยังไง มันคือหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง มีน้อยคนนักที่กล้าจะหาเรื่องพวกนี้

“ชายคนนี้บ้าจนไม่กลัวเลยรึไงกัน ? เขาไม่รู้ว่าเขาขู่ใครอยู่รึไง ? มันคือนายน้อยตระกูลหยาง” เจ้าหน้าที่สาวคิดกับตัวเอง นางไม่รู้ว่าการพาเจี้ยนเฉินขึ้นมายังชั้นสองนี้เป็นเรื่องผิดรึไม่ ผลลัพธ์ของการคุกคามตระกูลหยางนั้นไม่มีทางออกมาดีได้เลย

สักพักแม้แต่ชายหนุ่มก็ยังต้องตะลึง เขามองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยความสับสนโดยไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขู่เขา

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจท่าทีแปลกใจของทุกคน เขาได้เดินไปตรงหน้าชั้นวางกระบี่และเริ่มทำการตรวจสอบมัน

เขาบอกได้ทันทีที่มองว่ามีกระบี่บินคุณภาพสูงอยู่ 4 เล่มบนชั้นนี้ แม้ว่ามันจะมีกระบี่อื่น ๆ อยู่บ้าง แต่มันก็เป็นคุณภาพกลางหมด

ในเวลาเดียวกันกระบี่กระบี่บินคุณภาพสูง 2 ใน 4 เล่มนี้ก็มีคุณสมบัติของตัวมันเอง พวกมันเปล่งแสงสีแดงไฟและสีเหลืองดินออกมา

แสงสีขาวส่องประกายออกมาจากกระบี่อีกสองเล่ม จากภายนอกแล้วมันดูเหมือนกับลูกบอลแสงสีขาวซึ่งทำให้ยากที่จะเห็นตัวกระบี่ได้

เจี้ยนเฉินตาเป็นประกายขึ้นมา เขาได้ตรวจสอบกระบี่ทั้งสองเล่มโดยไม่กระพริบตา เขามองทะลุแสงที่ส่องออกมาและทำการตรวจสอบภายในกระบี่อย่างตั้งใจ

“กระบี่นี่ราคาเท่าไหร่ ? ” เจี้ยนเฉินชี้ไปที่กระบี่เล่มหนึ่งและถามเจ้าหน้าที่สาว

ตอนนั้นเองที่หยางเทียได้สติ สีหน้าเขาหม่นลงและเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา เขาชี้ไปที่เจี้ยนเฉินและตะโกนออกมา “เจ้ากล้าดียังไงมาขู่ข้า ! เจ้ารู้รึไม่ว่าข้าเป็นใคร ? ” ทันทีที่หยางเทียนตะโกนออกมา ยามที่เขานำมาด้วยก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน พวกนั้นได้ไปล้อมเจี้ยนเฉินและมองเขาด้วยสีหน้าโกรธแค้น

แม้ว่าพวกนี้จะเป็นขั้นแลกเปลี่ยนช่วงสูงสุดแต่แม้แต่ขั้นศักดิ์สิทธิ์หรือขั้นเทพก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องพวกนี้ในเมืองหลวง

นี่เพราะการแตะต้องพวกนี้เท่ากับการหาเรื่องตระกูลหยาง

และตระกูลหยางก็คือตระกูลที่พอจะมีเกียรติอยู่บ้าง