ตอนที่ 1826 : โลภ

กระบี่หิมะบินคือวัตถุเซียนคุณภาพกลาง ส่วนกระบี่สายรุ้งนั้นเป็นแค่วัตถุเซียนคุณภาพสูง พวกมันห่างกันเพียงขั้นเดียวแต่ราคาของมันกลับมากกว่ากันเป็นร้อยเท่า

มันทำให้เจี้ยนเฉินตะลึงอย่างมาก

เจี้ยนเฉินมองไปที่กระบี่ที่มีแสงสีขาวเปล่งประกาย เขาเงียบไปสักพักพร้อมสายตาที่สั่นไหวด้วยความลังเล ชัดเจนแล้วว่าราคากระบี่นี้เกินกว่าที่เจี้ยนเฉินคาดเอาไว้ มันต้องใช้เหรียญผลึกระดับสูงถึง 6 ล้านชิ้น พวกมันเป็นเหรียญผลึกระดับสูงไม่เหมือนกับเหรียญผลึกระดับต่ำหรือระดับกลาง

เขายังมีเหรียญผลึกระดับสูงอยู่ 10 ก้อนใหญ่ซึ่งมากจะซื้อกระบี่นี่ได้

แต่เขาคิดจะแลกมันให้กลายเป็นเหรียญผลึกระดับกลางและระดับต่ำเพื่อที่ซ่างกวนมู่เอ๋อและคนอื่น ๆ จะได้ใช้มันในการบ่มเพาะ เขาไม่คิดจะใช้มันไปที่นี่

เหรียญผลึกระดับสูง 6 ล้านชิ้นเท่ากับเหรียญผลึกระดับกลาง 600 ล้านชิ้น จำนวนนี้มากพอที่จะทำให้ทุกคนบ่มเพาะจนกลายเป็นขั้นเทพได้

แน่นอนว่าหากดูจากความเข้าใจกฎของพวกนั้นตอนนี้แล้วก็สามารถจะพัฒนาถึงขั้นนั้นได้

“คุณชาย กระบี่สายรุ้งจริง ๆ แล้วค่อนข้างถูกในหมู่วัตถุเซียนขั้นสูง มีวัตถุเซียนขั้นสูงหลายอันที่มีราคาเป็นพันล้าน ข้าขอถามได้รึไม่ว่าท่านยังสนใจจะซื้อวัตถุเซียนขั้นสูงอยู่หรือไม่ ? ” เจ้าหน้าที่สาวถามขึ้นมา แม้ว่านางจะพูดออกมาอย่างสุภาพ แต่นางก็เหมือนเร่งเขาให้ซื้อ คำถามนี้ฟังดูเหมือนกับว่านางไล่เจี้ยนเฉินไปด้วย มันราวกับว่าให้เขารีบและซื้อวัตถุเซียนระดับสูงหรือไม่ก็ไปเสีย

นี่เพราะเจี้ยนเฉินได้ล่วงเกินตระกูลหยาง หากเจี้ยนเฉินยังอยู่ที่นี่ นางก็จะมีปัญหาไปด้วย เป็นธรรมดาที่นางจะหวังให้เจี้ยนเฉินออกจากร้านให้เร็วที่สุดเพื่อที่ตระกูลหยางจะได้ไปจัดการเขาที่อื่น

เจี้ยนเฉินมองเห็นความหมายแฝงในคำถามนี้ เขามองไปที่นางและพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “วัตถุเซียนระดับกลางมีค่าแค่หลักแสนคริสตัลขั้นกลาง ทำไมวัตถุเซียนขั้นสูงถึงได้แพงเช่นนี้ ? ”

“ดูเหมือนว่าท่านยังไม่เข้าใจมูลค่าของวัตถุเซียนระดับสูง” ตอนนั้นได้มีเสียงฟังดูอ่อนโยนดังขั้นมา มันเป็นเสียงอันไพเราะและน่าฟัง

หญิงสาวที่ชื่อรั่วรั่วเดินเข้ามา ตาของนางเป็นประกายขณะมองมาที่เจี้ยนเฉินอย่างใจเย็นและได้พูดขึ้นมาว่า “เหตุผลว่าทำไมราคามันถึงได้ต่างกันถึงเพียงนี้นั้นเป็นเพราะวัตถุเซียนระดับสูงนั้นสร้างขึ้นมาได้ยากและวัสดุที่ต้องใช้ก็หายากมากเช่นกัน ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน มันมีหลายคนที่สามารถสร้างวัตถุเซียนระดับกลางได้ พวกเขาต่างก็อยู่ในเมืองหลัก สำหรับความจริงนี้แล้ว มันมีเมืองหลักบางเมืองที่มีวัตถุเซียนแบบนั้นมากมาย แต่แทบจะไม่มีคนที่สร้างวัตถุเซียนระดับสูงอยู่เลย แม้แต่รวมกับอาณาเขตใกล้เคียงแล้ว มันก็มีแค่ 4-5 คนเท่านั้น ในอีกด้านแล้ว มันไม่มีคนแบบนั้นเลยสักคนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนของเรา วัตถุเซียนระดับสูงทั้งหมดล้วนได้มาจากอาณาจักรอื่นซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้มีมูลค่าสูงมากนัก “

หญิงสาวที่ชื่อรั่วรั่วมองมาที่เจี้ยนเฉิน หลังจากที่พูดจบ นางได้พูดต่อ “วัตถุเซียนระดับสูงสุดที่เจ้าต้องการก่อนหน้านี้ยิ่งมีค่ากว่า ไม่ใช่แค่มากกว่ากระบี่สายรุ้งเป็นร้อยเท่า แต่มันอาจจะมีค่ามากกว่าถึงพันเท่า เหตุเพราะไม่ได้มีของแบบนั้นมากนัก”

“ขอบคุณที่ช่วยให้ความกระจ่างแก่ข้า” เจี้ยนเฉินป้องมือให้กับรั่วรั่ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจวัตถุเซียนระดับสูงและระดับสูงสุดจากคำอธิบายของรั่วรั่ว

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพ คุณชาย เป็นเจ้าที่หาเรื่องตระกูลหยางก่อนหน้านี้ ด้วยท่าทีปกติของตระกูลหยางแล้ว พวกนั้นคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป มันจะดีหากเจ้าออกออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แม้ว่าเจ้าจะมีภูมิหลังใหญ่โตและไม่กลัวตระกูลหยาง แต่หยางเทียคงไม่ยอมปล่อยผู้หญิงที่พาเจ้าขึ้นมาที่นี่ไปได้ง่าย ๆ ” รั่วรั่วบอกกับเจี้ยนเฉินด้วยท่าทีเฉยเมย

เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น

เจ้าหน้าที่สาวหน้าซีดด้วยความกลัวเมื่อได้ยินแบบนั้น แม้แต่ตัวก็ยังสั่นเล็กน้อย ตอนนี้นางกลัวอย่างมาก

“ข้าจะซื้อกระบี่” เจี้ยนเฉินบอกกับเจ้าหน้าที่สาว เขาโบกมือและมีเหรียญผลึกระดับสูง 6 ก้อนใหญ่ตกลงไปที่พื้น

เจ้าหน้าที่สาวอึ้ง นางมองไปที่ก้อนผลึกด้วยความสับสนพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ในเวลาเดียวกันนางก็ผงะถอยกลับไป นางไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินจะซื้อวัตถุเซียนระดับสูงจริง ๆ

ยิ่งกว่านั้นเจี้ยนเฉินก็ยังไม่ขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อยตอนที่เอาก้อนผลึกออกมา

แม้แต่รั่วรั่วเองก็แปลกใจไปเล็กน้อย นางไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินจะมีเหรียญผลึกมากมายถึงเพียงนี้

แม้แต่สำหรับขั้นเหนือเทพหลายคน ก้อนผลึกระดับสูง 6 ก้อนใหญ่นี้ก็มีค่ามากมายมหาศาล

“รอสักครู่ คุณชาย ข้าจะเรียกผู้จัดการมาให้” เจ้าหน้าที่สาวรีบตอบกลับ สีหน้านางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

นางเพิ่งจะขายวัตถุเซียนระดับสูงได้ ไม่ใช่แค่จะได้รางวัลจากการขายนี้ได้ แต่มันก็เพียงพอจะทำให้นางเลื่อนขั้น เมื่อนางมีฐานะมากพอในศาลากระบี่แท้จริง มันก็ไม่จำเป็นที่นางต้องกังวลเรื่องปัญหาจากหยางเทีย ไม่นานผู้จัดการก็รีบเข้ามาและเริ่มทำการเจรจากับเจี้ยนเฉิน

ไม่นานเจี้ยนเฉินก็นำกระบี่สายรุ้งที่เพิ่งซื้อออกมาจากร้าน เขาไปหาโรงเตี้ยมหรูและจองห้องที่ดีที่สุด เขาปิดประตูและห้อยป้าย ‘เก็บตัวบ่มเพาะ’ ไว้ที่หน้าประตู หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำการปรับแต่งกระบี่สายรุ้งโดยไม่หยุดพักเลยแม้แต่น้อย

“ ด้วยวัตถุเซียนระดับสูงนี้ ความแข็งแกร่งของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจจะหาวัตถุเซียนระดับสูงสุดได้” เจี้ยนเฉินคิด เขาเสียดาย หลังจากที่คิดดูแล้วเขาก็เปิดค่ายกลป้องกันในห้องทันที

ตอนที่เจี้ยนเฉินปรับแต่งกระบี่สายรุ้งนั้น หยางเทียก็ได้กลับมาที่ศาลากระบี่แท้จริงพร้อมกับคนจากตระกูลหยาง ไม่เพียงแต่มีนักสู้ขั้นศักดิ์สิทธิ์หลายคน แต่มันยังมีผู้อาวุโสที่เป็นขั้นเทพอยู่ด้วยอีกคน

ศาลากระบี่แท้จริงไม่กล้าที่จะทำให้คนจากตระกูลหยางหงุดหงิด ผู้จัดการรีบไปต้อนรับหยางเทียด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยหยาง โชคร้ายที่ท่านมาช้าไปหน่อย คนที่ท่านตามหาเพิ่งออกไปเมื่อตะกี้ เขาไม่ได้อยู่ในศาลากระบี่แท้จริงของเรา”

“ฮึ่ม ข้าจะค้นทั้งเมืองเพื่อหาตัวชายคนนั้น แต่ผู้หญิงที่นำทางเขาไปเมื่อตะกี้ ข้าต้องเอานางไปด้วย” หยางเทียพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาไม่กล้าจะกดดันผู้จัดการนักเมื่ออยู่ต่อหน้าศาลากระบี่แท้จริง

“ขออภัยด้วยนายน้อย นางเพิ่งจะขายวัตถุเซียนระดับสูงไปได้ทำให้มีผลงานกับร้านค้าของเรา ผลก็คือนางได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ท่านพานางไปไม่ได้” ผู้จัดการตอบกลับด้วยความสุภาพ

“อะไรนะ ? นางขายวัตถุเซียนระดับสูงได้งั้นหรือ ? ชายคนนั้นซื้อวัตถุเซียนระดับสูงไปเช่นนั้นหรือ ? ” หยางเทียแปลกใจแต่เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าหลังจากนั้น

“นายน้อย เนื่องจากชายคนนั้นสามารถซื้อวัตถุเซียนระดับสูงไปได้ เขาคงต้องมีภูมิหลังที่น่าประทับใจ เขาอาจจะมาจากตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ ท่านไม่อาจจะประมาทในเรื่องนี้ได้ ท่านไม่อาจจะหาเรื่องตระกูลใหญ่ในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้” ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หยางเทียพูดขึ้นมา

“ไม่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเกียรติของตระกูลหยาง เราจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง ? ข้าต้องหาตัวชายคนนั้น” หยางเทียพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา สายตาเขาเต็มไปด้วยความยินดีและหัวเราะออกมา “ถึงอย่างนั้นหากเขาเต็มใจมอบกระบี่สายรุ้งให้กับข้า ข้าถึงจะมองข้ามเรื่องนี้ไป”