“ฮ่าๆ พวกเจ้าทั้งสองไม่ไหวแต่ร่างวิญญาณของข้านั้นกำลังจะบรรลุหกรูปแล้ว!”
ฉินซื่อเถียนนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาจากด้านหน้า
ในตอนนี้พวกเขาทั้งสามนั้นได้เดินมาจนถึงระดับสี่แล้วและช่องว่างระหว่างพวกเขามันก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ฉินซื่อเถียนนั้นทิ้งคนทั้งสองไว้ด้านหลังกว่าร้อยเมตร
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังค่อยๆ ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ด้วย!
นอกจากนี้แล้วร่างวิญญาณของฉินซื่อเถียนนั้นยังค่อยๆ ดูโปร่งใสมากขึ้นดูท่าเหมือนกำลังจะบรรลุ
ร่างวิญญาณนั้นมันคือสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมาก แต่ละอาณาจักรนั้นจะมีการแบ่งร่างวิญญาณเป็นสิบรูป
แต่ว่าระดับนี้มันแตกต่างจากการฝึกฝนกายเนื้อของมนุษย์หรือภูตแท้อย่างมาก
หากสิ่งที่มนุษย์และภูตแท้ฝึกนั้นคือความแข็งแล้ว เผ่าวิญญาณก็จะฝึกฝนความอดทน
ยิ่งทนทานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตายยากเท่านั้น!
หากชาววิญญาณระดับจักรพรรดิเที่ยงมีร่างวิญญาณถึงสิบรูปได้ ถึงจะเป็นมหาจักรพรรดิเองก็คงไม่อาจ
จะสังหารพวกเขาลงได้ง่ายๆ!
แน่นอนว่าสำหรับโถงวิญญาณนิพพานนั้นสิบรูปมันเป็นแค่ตำนาน
ไม่มีใครจะไปถึงสิบรูปได้จริงๆ
ตอนนี้ร่างวิญญาณของฉินซื่อเถียนมันบรรลุหกรูปขึ้นมาได้แค่ระดับนี้ก็ถือเป็นที่น่าตื่นใจแล้ว
จนสุดท้ายฉินซื่อเถียนก็กลายเป็นผู้นำของการคัดเลือกและผ่านไปถึงระดับห้าได้ในที่สุด!
จากนั้นร่างกายของเขามันก็ค่อยๆ ใสขึ้นมากกว่าเก่าจนดูเหมือนเป็นรูปปั้นแก้ว
มหาจักรพรรดิตงหยางนั้นเบิกตากว้างร้องขึ้น “บรรลุ! หกรูป! ต่อให้จะเป็นข้าในสมัยก่อนเองข้าก็ยังไปไม่ถึงหกรูปเช่นกัน!”
“ซีด…”
เสียงสูดหายใจลึกของยอดฝีมือทั้งหลายดังขึ้นจากรอบทิศทันที
หกรูปนั้นมันคือร่างวิญญาณในตำนานแล้วก็ว่าได้!
“เขาช่างแข็งแกร่งดีจริง! หกรูป ต่อให้มันจะยืนเฉยๆ ให้ข้าสังหารข้าก็คงไม่อาจสังหารมันลงได้!”
“แม้ว่ามันจะมีเรื่องน่าตกตะลึงที่ป่าสุวิมลแต่ว่ารอบนี้ฉินซื่อเถียนกู้หน้าคืนมาได้แล้ว!”
“เย่หยวนนั้นสุดท้ายมันก็แค่ได้เปรียบเพราะความพิเศษของป่าสุวิมลเท่านั้น! หากวัดฝีมือกันจริงๆ แล้วเขาย่อมจะไม่มีทางเทียบฉินซื่อเถียนได้!”
…
ภายใต้พลังของเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันมีคนมากมายที่ต้องตายลงไป
ตอนนี้คนหลายคนออกมาได้บ้างนั้นผ่านระดับสองมาแต่ข้าก็ออกมาเพราะไม่อาจทนพลังได้
แต่ฝีมือของฉินซื่อเถียนนั้นได้ลบข้อสงสัยใดๆ สิ้นเชิง
ฉินซื่อเถียนนั้นบรรลุหกรูปและได้บัลลังก์กลับมาครองอีกครั้ง
คนทั้งหลายนั้นหันกลับไปมองเย่หยวนและต้องส่ายหัวอย่างเห็นใจ
เพราะว่าเย่หยวนนั้นยังเดินไปมาในระดับแรกอยู่จนถึงตอนนี้
“หือ? ดูคงพัฒนาไม่ได้แล้ว ข้าคงต้องขึ้นระดับสองแล้ว” เย่หยวนบ่มพึมพำขึ้นมาเพราะเขาสัมผัสได้ว่าตอนนี้พลังโจมตีของระดับหนึ่งนั้นมันไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงร่างวิญญาณของเขาได้อีกแล้ว
ตอนนี้ร่างวิญญาณของเขานั้นมันก็ขึ้นมาถึงสองรูปเช่นกัน!
เย่หยวนนั้นรู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกว่าการโจมตีของเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันแตกต่างจากการโจมตีทั่วไป
แทนที่จะบอกว่ามันคือการทดสอบเรียกมันว่าเป็นการฝึกฝนจะดีกว่า!
เข้าระดับสองมานั้นพลังของการโจมตีและความรุนแรงมันก็พุ่งทะยานขึ้นอีกหลายเท่า!
เย่หยวนนั้นใช้กำเนิดเทพออกมาป้องกันร่างกายและปล่อยให้การโจมตีแค่เท่าที่รับได้ผ่านมาถึงร่างวิญญาณ
จากนั้นเขาก็บรรลุสามรูปไปได้อย่างไม่ยากเย็น
เพียงแค่ว่าตอนนี้มันไม่มีใครสนใจมาดูแล้วว่าเขาจะบรรลุอะไรหรือไม่
ฉินซื่อเถียนนั้นกลายเป็นจุดสนใจของทุกผู้คนไปแล้ว
คนทั้งหลายนั้นจ้องมองดูทุกก้าวของฉินซื่อเถียนไปอย่างไม่วางตา
หลังจากผ่านระดับห้าไปนั้นความเร็วของฉินซื่อเถียนก็ย่อมจะลดลงอย่างมาก
พวกเขานั้นสัมผัสได้เลยว่าฉินซื่อเถียนนั้นกำลังพบเจอความลำบากกว่าระดับก่อนอย่างมาก
ต่อให้เขาจะมีร่างวิญญาณหกรูปแล้วก็ตาม
แต่ว่าเขานั้นก็ยังคงมุ่งมั่นเดินต่อไป!
เขานั้นเข้าใกล้เส้นแบ่งระดับหกไปเรื่อยๆ จนทำให้คนทั้งหลายต้องลืมหายใจ
“บรรลุ!”
วินาทีที่ฉินซื่อเถียนเหยียบเข้าระดับหกนั้นเองที่มันก็มีเสียงหนึ่งร้องขึ้น
มันช่างเป็นจังหวะที่น่าตกตะลึง
“ฉินซื่อเถียนบรรลุสองรูปในคราเดียว! เจ้าหมอนี่มันบ้าจริงๆ!”
“การสั่งสมจากสนามรบเจาะชาดมันคงปะทุขึ้นแน่นอนแล้ว! เจ้าหมอนี่มีอนาคตที่สดใสอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”
“พวกเจ้าดูสิ! เย่หยวนนั้นมันก็ดื้อด้านจริงๆ! แต่เทียนกับฉินซื่อเถียนในตอนนี้แล้วมันไม่ต่างอะไรจากตัวตลก!”
…
เหล่าคนทั้งหลายนั้นต่างแตกตื่นกันยกใหญ่!
ในตอนนี้สถิติที่เย่หยวนสร้างไว้ในป่าสุวิมลนั้นมันเลือนหายไปจากความทรงจำของคนทั้งหลายสิ้น
เพราะจิตเต๋าที่อยู่กับคนไร้ฝีมือมันจะมีค่าอะไร
ตอนนี้มันจึงกลายเป็นฉินซื่อเถียนที่ทำลายสถิติสองด่านติดต่อกันทำให้คนทั้งหลายแตกตื่น!
เพราะว่าการทำลายสถิติสองด่านนี้มันเกิดขึ้นมาด้วยฝีมือคนผู้เดียว!
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางเองก็แทบลืมหายใจไปเช่นกัน
เขานั้นเดาไว้นานแล้วว่าตัวฉินซื่อเถียนนั้นคงถึงระดับหกได้
แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ตอนนี้เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย โอกาสเช่นนี้มันก็ไม่ได้มีขึ้นง่ายๆ
ตอนนี้ตัวเย่หยวนนั้นผ่านขึ้นมาถึงระดับสองแล้ว
ที่สำคัญเขายังไม่ตายลง!
ความดื้อด้านนี้มันน่าให้รางวัลจริงๆ
แต่ภายใต้แสงของฉินซื่อเถียนนั้นความดื้อด้านของเย่หยวนมันช่างดูไร้ค่าใด
ตอนนั้นเองที่โจวหยูและเหอเฉินเองก็ไม่อาจทนได้ต้องถอนตัวออกมาในที่สุด
พวกเขานั้นไปถึงได้แค่สุดระดับห้า แน่นอนผลเช่นนี้ย่อมไม่เป็นที่พอใจของพวกเขานัก
ในการทดสอบครั้งนี้ฉินซื่อเถียนเป็นคนแย่งความเด่นไปจนสิ้น!
แต่ว่าการไปถึงสุดระดับห้าได้นั้นมันก็แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขามากฝีมือแค่ไหน
แต่ตัวฉินซื่อเถียนนั้นก็ยังคงก้าวเดินต่อไป!
ในตอนนี้ทั้งเส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันเหลือเพียงแค่ฉินซื่อเถียนและเย่หยวนสองคนเท่านั้น
ที่ด้านหลังนั้นเย่หยวนค่อยๆ ก้าวเดินไปราวกับเต๋าเป็นภาพที่น่าหดหู่อย่างมาก
เมื่อโจวหยูเห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้ “ไอ้เด็กนี่มันดื้อด้านดีจริงๆ ข้าก็คิดว่ามันจะผ่านไปถึงระดับสิบได้แล้ว! ผ่านไปเป็นวันสุดท้ายมันกลับยังอยู่ที่ระดับสอง น่าขัน!”
ความคับแค้นใจนั้นมันย่อมต้องหาที่ระบาย
ดูท่าแล้วเย่หยวนคงเป็นเป้าหมายระบายที่เหมาะสม
เหอเฉินนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความดูถูก “เจ้าเด็กโง่โอหัง! มีฝีมือแค่นี้ก็ยังมีหน้ามาท้าทายเรา! เกือบจะกลัวมันไปจริงๆ แล้วไหมเล่า!”
แต่ว่าตอนนี้สายตาของคนส่วนมากนั้นก็ยังคงจับจ้องที่ฉินซื่อเถียน
เมื่อเข้ามาถึงระดับหกนั้นฉินซื่อเถียนก็ช้าลงอย่างมาก
แต่ละก้าวของเขานั้นมันเหมือนเขาต้องใช้กำลังที่มีทั้งหมดออกมา
แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เดินเข้าใกล้ระดับเจ็ดไปเรื่อยๆ
เท้าแต่ละก้าวที่เข้าใกล้ระดับเจ็ดของเขานั้นมันทำให้หัวใจของผู้คนที่ได้ดูเต้นรัวตามเป็นจังหวะ
ตื่นเต้น!
หรือว่าฉินซื่อเถียนนั้นจะเป็นคนที่ให้กำเนิดปาฏิหาริย์เข้าไปถึงระดับเจ็ดได้?
พันก้าว!
เจ็ดร้อยก้าว!
สามร้อยก้าว!
เขานั้นใกล้ระดับเจ็ดไปเรื่อยๆ
แต่สีหน้าของฉินซื่อเถียนในตอนนี้มันก็น่าเกลียดอย่างถึงที่สุดแล้ว
ร่างกายของเขานั้นบาดเจ็บอย่างสาหัส
การโจมตีวิญญาณของระดับหกนั้นมันน่ากลัวยิ่ง!
ตอนนี้การโจมตีนับร้อยๆ มันพุ่งเข้ามาใส่พร้อมกันไม่ต่างอะไรจากโดนระเบิด
ร่างวิญญาณของฉินซื่อเถียนนั้นมันแทบจะแตกสลายลง
จนสุดท้ายแล้วเขาก็ยอมแพ้หลังจากอยู่ห่างระดับเจ็ดเพียงแค่สองร้อยก้าว
มันทำให้คนทั้งหลายตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่!
“น่าเสียดายนัก อีกแค่สองร้อยก้าวแท้ๆ!”
“เกือบได้สร้างประวัติศาสตร์แล้ว!”
“แค่ไปถึงสุดระดับหกได้เช่นนี้มันก็เหนือล้ำสถิติใดๆ แล้ว! ดูท่าคงไม่มีใครจะทำลายสถิตินี้ลงได้อีกหลายพันปี!”
“สามบุตรเจาะชาดนั้นคงถูกฉินซื่อเถียนทิ้งไว้ไม่เหลือฝุ่นแล้ว!”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างกล่าวชื่นชมเยินยอออกมาเพราะภาพนี้มันน่าตกตะลึงจริงๆ
เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันแตกต่างจากป่าสุวิมลเพราะว่านี่คือการทดสอบฝีมือจริงๆ
ฉินซื่อเถียนนั้นท้าทายการทดสอบนี้จนโถงวิญญาณนิพพานสั่นสะท้าน!