นางรู้จักการคว้าโอกาสมาก ๆ ด้วยเหตุนี้ถึงจะไม่พลาดโอกาสและโชคที่ปรากฏข้างกายตน บางทีนี่ก็เป็นสาเหตุที่แม้นางจะมีฐานะที่ธรรมดา แต่ก็สามารถค่อย ๆ เบียดตัวขึ้นไปอยู่ในหมู่อัจฉริยะขั้นสุดยอดของสำนักจักรพรรดิมหาวาลได้

“ศิษย์พี่ ท่าน……”

การกระทำของเสิ่นปิงหยูทำให้เชี่ยนหยุนรู้สึกงงงวยมาก ในฐานะที่เป็นเทพธิดาท้ายแถวของวังมหาวาล ถึงแม้ในอนาคตจะช่วงชิงตำแหน่งเทพธิดาและเจ้าอาจารย์ไม่ได้ อนาคตหากสามารถฝึกตนถึงแดนจ้าวมหาเทพ ก็ต้องได้เป็นผู้มีอำนาจอิทธิพลในสำนักจักรพรรดิมหาวาลอย่างแน่นอน

ศิษย์พี่เสิ่นปิงหยูให้คำสาบานด้วยตัวธรรม ตัดสินใจที่จะติดตามคนดังกล่าว เป็นเพราะนางสามารถได้รับกระบี่ตรีภพและวิชาของร่างตรีภพ แล้วข้าล่ะ? ข้าจะได้รับอะไรบ้าง?

“เชี่ยนหยุน หากเจ้าเชื่อใจศิษย์พี่ละก็ ติดตามองค์ชายเหยียนมีแต่จะเป็นผลดีต่อเจ้า ซึ่งไม่มีทางมีผลร้ายอย่างแน่นอน”

เสิ่นปิงหยูมองไปทางเชี่ยนหยุนพลางพูดโน้มน้าว: “ศิษย์พี่ทราบอยู่ว่าเจ้าดูเป็นคนอุปนิสัยอ่อนโยน แท้จริงแล้วจิตใจเจ้านั้นเข้มแข็งและซื่อตรง เจ้าปล่อยวางศักดิ์ศรีของสตรีผู้ภาคภูมิของสวรรค์ที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจไม่ได้ ทว่าเจ้าต้องเข้าใจด้วยว่าจักรวาลของมหาโลกาพันสามนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด อัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศและสตรีผู้ภาคภูมิของสวรรค์ก็มีมากจนนับไม่ถ้วน ที่สุดแล้วโลกใบนี้ก็ยังเป็นฟ้าดินของนักยุทธ์ผู้แข็งแกร่งอยู่ดี ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า ศักยภาพเป็นอำนาจสูงสุด! หากไม่มีศักยภาพทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อ แล้วศักดิ์ศรีมันจักมีค่าอะไรเล่า?”

“มิหนำซ้ำการติดตามองค์ชายเหยียนนั้น ก็ใช่ว่าจะให้เจ้าปล่อยวางศักดิ์ศรีของเจ้า สักวันหากองค์ชายเหยียนเดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของวิถียุทธ์ กลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานยุคหนึ่งในห้วงดารา เจ้ายังจักคิดว่าการติดตามองค์ชายเหยียนเป็นการทำให้เจ้าเสียศักดิ์ศรีหรือไม่?”

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสิ่นปิงหยูเป็นผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่งเลย คำโน้มน้าวของนางทำให้จิตใจของเชี่ยนหยุนหวั่นไหวได้จริง ๆ

จะสาบานด้วยตัวธรรมได้ก็ต่อเมื่อยินยอมด้วยความสมัครใจ เชี่ยนหยุนก็มีเพียงข้ามผ่านด่านนี้ของหัวใจ ตนถึงจะสามารถตัดสินใจได้

สำหรับหลัวซิวนั้น แท้จริงแล้วพรสวรรค์ของเชี่ยนหยุนผู้นี้ก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน แต่ทว่ากลับไม่ควรค่าแก่การให้เขาทุ่มเทบ่มเพาะ และเป็นเพราะเห็นแก่ไมตรีจิตของเสิ่นปิงหยู เขาถึงได้ให้โอกาสนาง

หากนางไม่ยินดีให้คำสาบานด้วยตัวธรรมละก็ หลัวซิวก็จะไม่ให้นางติดตามตนเองอีก อนาคตนางจะเลือกเส้นทางใด ชะตาชีวิตจะเป็นอย่างไรนั้น ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตาของนางแล้ว

สุดท้ายหลังจากผ่านการทบทวนตรึกตรองอย่างลึกซึ้งด้วยหัวใจ ในที่สุดเชี่ยนหยุนก็ถือว่าพูดโน้มน้าวใจตนได้สักที ให้คำสาบานด้วยตัวธรรมต่อหน้าหลัวซิว

ในเด็กรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน หากถามว่าอนาคตผู้ใดมีโอกาสกลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่เป็นผู้ไร้เทียมทานในห้วงดารามากที่สุดละก็ ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นปิงหยูหรือเชี่ยนหยุน ต่างก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องเป็นผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างแน่นอน

กำเนิดจากวังมหาวาล พวกนางก็ถือว่ามีความรู้และประสบการณ์กว้างขวางอยู่ ทว่ากลับไม่เคยพบเห็นรู้จักอัจฉริยะที่โดดเด่นเช่นนี้มาก่อน ยิ่งกว่านั้นคือออร่าของเขาอยู่เหนือครั้นเมื่อเหล่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ในทุกยุคสมัยยังเป็นวัยรุ่นเสียอีก!

เมื่อให้คำสาบานด้วยตัวธรรมจึงคุ้มแก่การเชื่อใจแล้ว หลัวซิวจึงวางความระแวดระวังที่อยู่ในใจลง

“ปิงหยูเจ้าพูดถูก เหยียนโม่ไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของข้าจริง ๆ”

ในเมื่อเป็นคนของตัวเองแล้ว จึงต้องตรงไปตรงมาและจริงใจหน่อยเช่นกัน ดังนั้นหลัวซิวจึงวางแผนที่จะบอกตัวตนที่แท้จริงของตนให้พวกนางทราบ

“ตำหนักปีศาจหลอมที่เป็นของขลังจ้าวมหาเทพนั่นของเจ้า ได้มาจากดาราแห่งกาลเวลาในโลกามนุษย์ใช่หรือไม่?”หลัวซิวยิ้มพลางถาม

“ท่านทราบได้อย่างไร?”สีหน้าเสิ่นปิงหยูดูตะลึง เมื่อสบตากับแววตาที่แค่อมยิ้มของหลัวซิวแล้ว จิตใจนางก็เข้มงวดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

“หรือว่าท่าน……”เสิ่นปิงหยูเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดมากเพียงใด นางนึกโยงถึงกันได้ทันที เหยียนโม่ก็สามารถเรียกว่าเหยียนโม๋(ปีศาจเพลิง)ได้เช่นกัน และครั้นเมื่ออยู่บนดาราแห่งกาลเวลา ก็มีเพียงผู้ที่พบเห็นในตำหนักปีศาจหลอมเท่านั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับปีศาจเพลิงดึกดำบรรพ์!