“หืม? เย่หยวนมันทำอะไร?”
“มันถือเลือดของหลงชาไว้ในมือหรือ?”
“หลงชานั้นตายไปแล้ว มันจะเอาเลือดหลงชามาทำไม? หรือจะบอกว่าหลงชามันคืนชีพจากหยดเลือดได้เหมือนเผ่าเลือด?”
…
การกระทำของเย่หยวนนี้มันทำให้คนทั้งหลายมึนงงอย่างมาก
ความตายของหลงชานี้มันย่อมจะมีหยดเลือดกระเด็นไปทั่วทิศทาง
แต่เย่หยวนกลับวิ่งไปเป็นกิโลเพื่อเอาเลือดหยดเดียวกลับมาพร้อมวางค่ายกลปิดผนึกมันไว้
บ้าบอ!
แต่หมี่เจิ้นนั้นกำลังรุ่มร้อนอยู่ในหัวใจ
เพราะท่าทางของเขาก่อนหน้านี้ทั้งหมดแท้จริงแล้วมันเป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น
หลงชานั้นยังไม่ตายใดๆ!
แน่นอนว่าเขานั้นสังหารทำลายร่างหลงชาไปแล้ว
ต่อหน้าเจ้าโลกมากมายมันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้
แต่แท้จริงแล้วหลงชานั้นแค่บาดเจ็บหนักและเสียร่างกายไป ยังไม่ตายลงสนิท
ปราณเทวะ พลังงาน พลังสายเลือดทั้งหลายนั้นมันถูกอัดเข้าไปในหยดเลือดนี้
เขานั้นสังหารหลงชาด้วยการบี้ร่างของหลงชาทิ้งเพื่อที่จะให้เลือดมันกระเด็นไปทั่วทุกทิศ
เพื่อให้คนทั้งหลายไม่ทันเห็นว่าเลือดหยดหนึ่งมันปลิวไปไกลกว่าเพื่อน
หลงชานั้นจะอย่างไรก็เป็นยอดเจ้าโลก
นอกจากนั้นเขายังเรียกได้ว่าเป็นยอดเจ้าโลกที่ก้าวขึ้นถึงอาณาจักรล้ำสวรรค์ไปแล้วด้วย
ลูกน้องเช่นนี้มีหรือที่หมี่เจิ้นจะทิ้งไปได้ง่ายๆ?
เพราะฉะนั้นคนทั้งสองจึงได้ร่วมมือกันเล่นละครเพื่อตบตาทุกคน
ใครจะไปคิดฝันว่าหยดเลือดนั้นมันกลับถูกเย่หยวนจับไว้ได้
ขนาดเจ้าโลกทั้งหลายเต็มฟ้านี้ยังไม่อาจจะสัมผัสถึงได้ แล้วทำไมเย่หยวนถึงมองออก?
หมี่เจิ้นแทบจะคลั่งไป!
เขานั้นได้แต่ต้องมองดูหน้าเย่หยวนด้วยจิตสังหารเต็มอก
ด้วยกำลังของเขานั้นการสังหารเย่หยวนมันย่อมง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
แต่เขาไม่อาจทำได้!
การสังหารเย่หยวนลงไปตอนนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายสงสัยและเข้าใจว่าเขาเป็นคนร้าย…
เป็นคนเบื้องหลังคอยสั่งการเรื่องทั้งหมด!
ทำเช่นนั้นมันย่อมจะเป็นการตัดขาดตัวเองออกจากเผ่ามังกรไป
ก็จริงที่ว่าเขานั้นคือบรรพบุรุษของเผ่ามังกร
แต่การจะทำตามความทะเยอทะยานของเขานั้นก็ต้องมีเผ่ามังกรคอยหนุนให้ด้วย
เขานั้นไม่อาจจะทำมันได้ด้วยตัวเอง!
ไม่เช่นนั้นแล้วศิลาโลหิตโกลาหลก็คงไม่สร้างเผ่าเลือดขึ้นมา เพราะการจะปกครองนั้นมันต้องมีคนช่วยดูแลเฝ้าเมืองโจมตีปราสาท
เย่หยวนนั้นก็คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนและจึงเลือกที่จะลงมือ
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงยอมปล่อยหลงชาไปก่อน
เย่หยวนนั้นแตกต่างจากหลงหราน เพราะเขานั้นไม่เคยเชื่อหมี่เจิ้นตั้งแต่ต้น
เพราะฉะนั้นเขาจึงระมัดระวังตัวมาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากหมี่เจิ้น ‘สังหาร’ หลงชา
เป็นตอนนั้นเองที่เย่หยวนสัมผัสได้ถึงพลัง
พลังแห่งคลื่นกำเนิดเลือด!
หลงชานั้นย่อมจะก้าวขึ้นมาจนถึงจุดนี้ได้ด้วยความช่วยเหลือมากมายของเผ่าเลือด
เขานั้นปรับเปลี่ยนเลือดของตัวเองไปมากมายจนทำให้เลือดมังกรของเขานั้นมันมีคลื่นกำเนิดเลือดปะปน
โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นเองก็มีคลื่นกำเนิดเลือดจากศิลาโลหิตโกลาหล!
ต้นกำเนิดของเลือดนี้มันสูงล้ำกว่าของหลงชาไปมาก!
เขาจึงสามารถจับหลงชากลับมาสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้แก่หมี่เจิ้น
ฟุบ!
เย่หยวนกลับมายังเกาะและกลืนโอสถลงคอไปไม่นานอากาศบาดเจ็บของเขามันก็แทบจะหายดี
“เย่หยวน เจ้าทำอะไร?” หลงหรานถามขึ้นอย่างสงสัย
เย่หยวนหยิบเอาหยดเลือดในผนึกนั้นขึ้นมาดูและยิ้มตอบกลับไป “หากข้าบอกว่านี่คือหลงชา พวกท่านก็คงไม่เชื่อข้าหรอก!”
หลงหรานนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “เย่หยวน เจ้าจะกังวลเกินไปแล้ว! บรรพบุรุษท่านนั้นมีสายตาที่เฉียบคมแค่ไหน มีหรือที่หลงชาจะหลบรอดสายตาท่านไปได้? เลือดหยดนี้มันก็แค่เลือดมังกรหยดหนึ่งเท่านั้นแหละ”
ใช่แล้ว เลือดในมือเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ต่างอะไรจากเลือดมังกรปกติทั่วไปเลย
เย่หยวนมองหน้าหมี่เจิ้นและยิ้มราวกับว่าตัวเขานั้นกำลังจะแย่งผลงานคนอื่นก็ไม่ปาน
หมี่เจิ้นที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นต้องกัดฟันขึ้นด้วยความเกลียดชัง
แต่ว่าจะอย่างไรเสียหลงชานั้นก็มีสติที่เข้มแข็งมาก
เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมาทำตัวเหมือนเป็นหยดเลือดทั่วไป!
เลือดนี้มันดูไม่มีชีวิตใดๆ
“เย่หยวน บรรพบุรุษผู้นี้อยู่ในอาณาจักรล้ำสวรรค์ ด้วยฝีมือของหลงชามันแล้วจะหลบรอดจากสายตาของข้าไปได้อย่างไร?! นี่มันก็แค่เลือดมังกรหยดหนึ่ง เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!” หมี่เจิ้นกล่าวขึ้น
เขานั้นไม่เคยคิดกังวลว่าเย่หยวนจะจับได้เพราะระดับของเย่หยวนมันต่ำในสายตาเขา
แน่นอนว่าเขายอมรับเรื่องที่เย่หยวนมากฝีมือ แต่จะอย่างไรมันก็ยังอยู่ระดับต่ำมากนัก
“ไอ้หนู ข้ารู้ว่าวันนี้เจ้าอยากจะเป็นพระเอกให้ได้แต่ตอนนี้เจ้าก็ได้สร้างคุณงามไปมากแล้ว คำพูดที่แค่คิดอยากจะอวดต่อสายตาคนนี้เจ้าอย่าได้กล่าวออกมาจะดีกว่า เพราะนี่เจ้ากำลังตั้งข้อกังขากับบรรพบุรุษของเผ่ามังกรเรา!”
หลงเจี้ยนกล่าวขึ้นมาขัด
“พระเจ้าช่วย ช่างเป็นความผิดใหญ่หลวงนัก! แต่ข้าก็บอกไปแล้วว่าข้านั้นคือผู้บ่มเพาะนอกรีต! แม้แต่สวรรค์ข้ายังกล้าตั้งคำถาม นี่แค่บรรพบุรุษเองมิใช่หรือ? ในโลกใบนี้ข้าเชื่อมั่นแค่ในตัวเองเท่านั้น!” เย่หยวนกล่าวตอบไป
“โอหัง! มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่งก็กล้ามาพูดจาเช่นนี้หรือ?!” หลงเจี้ยนร้องขึ้นมา
เย่หยวนยกมือขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มันมิใช่ว่าข้าโอหังหลงตัวเองใดๆ เพียงแค่ว่าพวกท่านนั้นอ่อนหัดและเชื่อคนง่ายจนเกินไป ลืมไปแล้วหรือว่าพวกท่านโดนหลงชามันหลงมาเป็นแสนปี? กระต่ายที่เจ้าเล่ห์นั้นยังมีรังหลายรัง
ท่านคิดจริงๆ หรือว่ามันจะไม่มีไม้ตายอะไรซ่อนไว้เลย?”
หลงเจี้ยนยิ้มตอบกลับไป “มันก็แค่เลือดมังกรหยดหนึ่งเท่านั้น เจ้าบอกว่ามันคือหลงชามันก็เป็นหลงชาแล้ว?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นเรามาเล่นเกมกันหน่อยดีไหม? หากข้าพิสูจน์ได้ว่ามันคือหลงชาท่านต้องเรียกข้าว่าท่านปู่สามคราดีไหม? หากข้าแพ้แล้วข้าจะก้มหัวคุกเข่าขอขมาและทำลายจิตเต๋าของตัวเองลงตรงนี้เสีย!”
หลงเจี้ยนนั้นต้องผงะไปทันทีที่ได้ยิน
เพราะเจ้าเด็กนี่กล้าเดิมพันด้วยจิตเต๋าของตัวเอง หรือว่าเรื่องมันจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลจริงๆ?
แต่แม้แต่บรรพบุรุษท่านยังไม่อาจมองเรื่องนี้ออกได้!
“เอาสิ!” สุดท้ายแล้วหลงเจี้ยนก็ยังเลือกที่จะเชื่อหมี่เจิ้น
เขานั้นไม่เชื่อว่าหลงชานั้นจะหลุดรอดจากสายหมี่เจิ้นไปได้!
ติดเพียงแค่ว่าเขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าหลงชาและหมี่เจิ้นนั้นร่วมหัวกันมาตั้งแต่แรก!
เขากำลังลงเดิมพันที่ไม่มีวันชนะได้
เย่หยวนยิ้มขึ้นและหันไปหาเฟิ่งชิงซวน “นี่ ขอยืมไฟจุติวิโมกข์ของเจ้าหน่อย! หลังจากเผามันไปสักพักเราก็จะได้รู้ความจริงกัน”
หมี่เจิ้นนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจทันที เจ้าเด็กนี่ช่างมีความสามารถหลากหลาย!
ไฟจุติวิโมกข์นั้นมันสามารถเผ่าทุกสิ่งอย่างในโลกหล้าและเป็นหนึ่งในพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าหงส์แดง
ภายใต้พลังของไฟเช่นนั้นแล้ว หลงชาย่อมจะไม่อาจทนนิ่งเงียบต่อไปได้แน่!
ปกติแล้วพลังฝีมือระดับเฟิ่งชิงซวนนั้นย่อมจะไม่อาจทำอันตรายใดๆ เขาได้
แต่ตอนนี้หลงชาเหลือสภาพเป็นแค่หยดเลือดและอ่อนแออย่างถึงที่สุด
ไม่เช่นนั้นเย่หยวนก็คงไม่มีทางไปจับเขามาได้
มันต้องขอบคุณหมี่เจิ้นทั้งสิ้น
หมี่เจิ้นนั้นได้แต่ต้องด่าตัวเองในตอนนี้ หากเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้แต่แรกเขาคงออมมือไว้หน่อย
ปล่อยให้หลงชามีพลังเหลือไปบ้าง จะได้หนีจากตัวเย่หยวนได้
แต่เพื่อจะทำให้เรื่องราวมันดูสมจริงเขาจึงโจมตีลงไปสุดแรงเช่นกัน
เฟิ่งชิงซวนนั้นหรี่ตาลงมองและตอบกลับไป
“ข้าไม่ได้ชื่อว่า ‘นี่’! แล้วท่าทางเวลาขอร้องให้คนช่วยคือท่าทางเช่นนี้หรือ?”
แต่พอได้เห็นเย่หยวนหันหน้าหนีไปไม่สนใจคำพูดของนาง
เฟิ่งชิงซวนก็รีบกล่าวขึ้น “ส่งมา! เจ้านี่มันขี้น้อยใจจริงๆ!”
ตูม!
ไฟจุติวิโมกข์ปะทุขึ้นทันที
หลงชานั้นทนทานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนนี้ผ่านไปกว่าสิบห้านาทีแล้วแต่ว่าเลือดของหลงชานั้นมันก็ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมา
หลงเจี้ยนนั้นยิ้มขึ้นกล่าว “นี่หรือคือหลงชาที่เจ้าบอก? ไอ้หนู เดิมพันกันแล้วก็ต้องทำตาม เจ้าคุกเข่ากราบขอโทษบรรพบุรุษท่านเดี๋ยวนี้!”
“พอได้แล้วไอ้เด็กเวร! เรื่องมันจบแล้ว! ในโลกหล้านี้มันมีสิ่งใดที่หลุดพ้นสายตาข้าไปได้หรอก!”
หมี่เจิ้นนั้นหลุดปากพูดขึ้นมาคิดหยุดเย่หยวนไว้
แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่มันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น!
ปุปุปุ…
มันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากไฟจุติวิโมกข์
ท่ามกลางเสียงนั้นมันก็มีเสียงโหยหวนดังขึ้นมา “อ้ากกก! ไอ้เด็กนรก! เย่หยวน ข้าจะไม่ขออยู่ร่วมฟ้าเดียวกับเจ้า! บรร…”
โปะ!
คลื่นพลังพุ่งออกมาทำลายแก่นเลือดนั้นลงไปทันที
วิญญาณสุดท้ายของหลงชานั้นถูกดัชนีนี้ของเย่หยวนทำลายลงสิ้น!
ในวินาทีสุดท้ายนั้นเขากำลังจะร้องขอให้หมี่เจิ้นช่วยเหลือแต่เย่หยวนย่อมจะไม่ปล่อยให้เขาได้พูด
เพราะหากหมี่เจิ้นถูกเปิดโปงแล้ว มันคงกลายเป็นหายนะ
เพราะฉะนั้นเขาจึงฆ่าปิดปากหลงชาลงเสีย!
จากนั้นเขาก็หันไปมองหน้าหลงเจี้ยนและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ว่าไงเล่าท่าน? ต้องยอมรับความพ่ายแพ้
และเรียกข้าว่าท่านปู่สามครั้งหรือไม่?”