ก่อนที่เขาจะได้ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า หลงเจี้ยนในตอนนี้กลับต้องทำหน้าเหยเกยาวเป็นหน้าม้าออกมา
เพราะตัวเขา ยอดเจ้าโลกผู้นี้กลับต้องไปเรียกเย่หยวนว่าเป็นปู่?
‘เจ้านรกฉิบหาย!’
‘หลงชา ไอ้สัตว์นรกชาติสุนัข!’
แม้ว่าตอนนี้หลงชาจะตายลงไปสิ้นเชิงแล้วแต่หลงเจี้ยนนั้นก็ยังด่าและแช่งชักไปถึงต้นตระกูลของหลงชา
“ฮ่าๆๆ…ผู้อาวุโสหลงเจี้ยน ข้าก็แค่ล้อท่านเล่น จะทำหน้าเครียดไปทำไมเล่า?” เย่หยวนหัวเราะขึ้นมา
‘ไอ้เด็กนรกส่งมาเกิด ทำไมไม่พูดให้มันเร็วกว่านี้?’
แต่ได้ยินเช่นนั้นหลงเจี้ยนเองก็โล่งใจขึ้นอย่างมากเช่นกัน
เพราะอย่างน้อยๆ เจ้าเด็กนี่ก็ยังรู้กาลเทศะบ้าง!
“หึ ไอ้หนู ถือว่าเจ้าได้สร้างคุณใหญ่หลวงให้เผ่าเราแล้ว!” หลงเจี้ยนกล่าวขึ้นมากลบเกลื่อน
ส่วนเจ้าโลกคนอื่นๆ นั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้าง!
เพราะสิ่งที่บรรพบุรุษหมี่เจิ้นท่านยังมองไม่ออก ตัวเย่หยวนคนนี้กลับมองเห็นถึงมันได้
เจ้าเด็กนี่มันจะไม่เก่งกาจเกินหน้าเกินตาไปหรือ?
ตอนนี้เย่หยวนที่ก่อนหน้าเป็นแค่เด็กน้อยในสายตาพวกเขามันดูสูงใหญ่ขึ้นมาทันตา
เพราะว่าบรรพบุรุษหมี่เจิ้นนั้นคือหนึ่งในเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดบนสามสิบสามสวรรค์!
แม้แต่เขานั้นยังไม่อาจมองออก เช่นนั้นแล้วเย่หยวนทำไมถึงมองออกกัน?
การที่เย่หยวนสังหารหลงชาลงได้นั้นมันทำให้ความคิดที่คนทั้งแดนตรังค์ตะวันออกเปลี่ยนแปลงไปทันที
เจ้าหมอนี่มีไพ่ตายไม่รู้จักหมดสิ้น!
แต่พวกเขานั้นก็ต้องถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอกเช่นกัน
เพราะหากหลงชาหนีไปได้จริงๆ แล้วผลลัพธ์ที่ตามมามันคงเป็นหายนะ
เย่หยวนมองหน้าหมี่เจิ้นและกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “บรรพบุรุษ ข้าไม่นึกเลยว่ามันจะมีวันที่ท่านมองเรื่องราวผิดพลาดไปได้ด้วย”
มังกรฟ้าตัวยักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นมันต้องดูยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน?
แต่ตอนนี้บรรยากาศรอบๆ ตัวเขานั้นมันกลับหนักอึ้ง
“ฮ่าๆ ทำได้ดีมาก! ไอ้หนู ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีวิชาบางอย่างที่เหนือล้ำกว่าข้าไป” หมี่เจิ้นได้แต่ต้องกล่าวชมเย่หยวนขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ
เย่หยวนยิ้มทำท่าน้อมตัวตอบกลับไป “ไม่เลย บรรพบุรุษท่านกล่าวเกินไปแล้ว การช่วยกำจัดมารร้ายออกจากเผ่านั้นมันเป็นสิ่งที่ชาวเผ่าทุกคนสมควรทำ!”
หมี่เจิ้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นร้องด่าขึ้นในใจ
ตอนนี้เขานั้นปวดหัวใจอย่างมากเพราะว่าหลงชานั้นคือยอดฝีมือที่เท้าอยู่ในอาณาจักรล้ำสวรรค์ไปครึ่งก้าวแล้ว!
แต่เขากลับต้องมาตายด้วยมือเดียว!
“เจ้าสร้างคุณใหญ่หลวงนักวันนี้ เจ้าต้องการรางวัลใด? บอกมาเถอะ” หมี่เจิ้นถามขึ้น
“ข้าอยากเข้าไปยังคงคานิรันดร์!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดลังเล
“คงคานิรันดร์? ด้วยกำลังของเจ้าในตอนนี้เข้าคงคานิรันดร์ไปมันก็เปล่าประโยชน์” หมี่เจิ้นกล่าวขึ้นมาขัด
“ไอ้หนู เจ้าเจียมเนื้อเจียมตัวและบ่มเพาะไปตามเรื่องตามราวเถอะ อย่าได้เอื้อมไกลเกินกว่าที่ตัวเองจะจับได้!” หลงเจี้ยนกล่าวขึ้นมาเสริม
หลงเจี้ยนนั้นเป็นคนฉลาดความคิดเฉียบคม เขานั้นคิดเสมอว่าเย่หยวนนั้นหลงตัวเองเกินไป
นิสัยเช่นนี้มันไม่เหมาะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นยอดคน
แต่หลังจากเห็นเรื่องหลงชาแล้วเขาเองก็อดไม่ได้ที่ต้องมองดูเย่หยวนด้วยมุมใหม่
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าแค่ได้ยินมาว่าคงคานิรันดร์นั้นมันเป็นต้นกำเนิดเผ่ามังกรเรา ข้าอยากจะเข้าไปดูเสียหน่อย บางทีข้าอาจจะได้ประโยชน์อย่างไม่คาดฝันก็ได้?”
เจ้าโลกทั้งหลายที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องฝืนกลืนคำด่าไว้ในใจ
เจ้าเด็กนี่มันช่างกล้าจนทำให้คนไม่อยากจะด่าว่าเสียด้วยซ้ำ!
คงคานิรันดร์นั้นมันคือแม่น้ำที่ไหลอย่างไม่มีวันเหือดแห้ง
ว่ากันว่าแม่น้ำนี้มันไหลผ่านทุกสวรรค์และเป็นต้นกำเนิดของทุกพิภพ
โลกทั้งหลายในฟ้าดินนี้เดิมทีแล้วมันเกิดขึ้นมาจากคงคานิรันดร์นี้เอง
ไม่มีใครรู้ได้ว่าต้นกำเนิดของแม่น้ำนี้มันมาจากที่ใด
แต่ว่าสามสิบสามสวรรค์นั้นเป็นดั่งกิ่งก้านที่แตกออกมาของคงคานิรันดร์
คงคานิรันดร์นั้นเป็นแม่น้ำแต่ก็มิใช่แม่น้ำ
เหมือนอย่างหมี่เจิ้น หมี่เทียน หลุนฮวยและพวกที่เกิดจากความโกลาหลทั้งหลายนั้นต่างเกิดขึ้นมาจากแม่น้ำนี้
บ้างก็เชื่อว่าต้นกำเนิดของคงคานิรันดร์นั้นมันคือประตูแห่งชีวานิรันดร์
แม่น้ำนี้มันไหลออกมาจากประตูแห่งชีวานิรันดร์และพัฒนาจนกลายเป็นสวรรค์ต่างๆ นานา
นี่เป็นความเชื่อหลักที่คนเชื่อถือกัน
แต่มันก็ไม่มีใครพิสูจน์ความจริงได้
เพราะว่าแม้แต่ยอดฝีมือระดับหมี่เทียนหรือหมี่เจิ้นนั้นเองก็ยังไม่อาจจะตามหาต้นกำเนิดของคงคานิรันดร์นี้ได้
เจ้าโลกทั้งหลายนั้นส่วนมากจะใช้เวลาในคงคานิรันดร์นี้เพื่อหาทางทำความเข้าใจบรรลุอาณาจักรล้ำสวรรค์
ทำไมสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างถึงได้ทรงพลังนัก?
มันเป็นเพราะว่าสวรรค์นี้ตั้งอยู่แถบต้นน้ำของคงคานิรันดร์ จึงทำให้พลังโกลาหลที่สวรรค์นี้ได้รับอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
และครั้งแรกที่คนได้เข้าถึงคงคานิรันดร์นั้นคลื่นโกลาหลในคงคานิรันดร์มันก็จะช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้การบ่มเพาะได้อย่างมากล้น
เพราะฉะนั้นสำหรับยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดแล้วมันจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้บรรลุเจ้าโลก
หมี่เจิ้นนั้นหมายถึงเรื่องนี้เอง
เย่หยวนนั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์
และการให้จักรพรรดิเมฆาสวรรค์เข้าไปนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นการเสียโอกาสอย่างมาก
แต่เย่หยวนยืนยันว่าแค่อยากจะเข้าไปดู มันย่อมจะถือเป็นการโยนความหวังดีของผู้คนทิ้งขว้างอย่างไม่ไยดี
แน่นอนว่าเย่หยวนไม่ได้แค่คิดจะเข้าไปดู เพราะที่เขาคิดเข้าไปมันก็เพื่อหมี่เทียน
หากหมี่เทียนคิดอยากคืนชีพแล้วเขาก็มีแต่ต้องเข้าไปในคงคานิรันดร์เท่านั้น
แต่สำหรับเย่หยวนแล้วไม่ว่าจะเข้าคงคานิรันดร์หรือไม่เข้ามันก็ไม่มีความแตกต่างกันมากมายนัก
เพราะเขานั้นคือผู้บ่มเพาะนอกรีต
และเต๋าทุกข์เจ้าโลกของเขานั้นมันจะต้องรุนแรงอย่างไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนแน่นอน
มันไม่สำคัญเลยว่าเขาจะบรรลุที่ใด
“เอาล่ะ เรื่องนั้นถือว่าเจ้าตัดสินใจเองก็แล้วกัน หลงเจี้ยน เจ้าจัดการเรื่องราวต่อด้วย นอกจากนี้แล้วจงไปสืบหาเรื่องของหลงชาให้ชัดเจน ใครที่เกี่ยวข้องกับเผ่าเลือดนั้นจัดการลงโทษมันให้เด็ดขาด!”
“ขอรับ!” หลงเจี้ยนกล่าวขึ้นมา
หมี่เจิ้นหันมามองหน้าเย่หยวนหนึ่งครั้งก่อนจะบินหายเข้าไปในห้วงมิติบนท้องฟ้า
ทุกสิ่งอย่างบนเกาะมังกรสวรรค์กลับคืนสู่ความสงบ
แต่เย่หยวนนั้นต้องหัวเราะขึ้นในใจ
เพราะคำพูดของเขานั้นมันอาจจะดูเด็ดขาดแต่แท้จริงแล้วมันไม่ต่างอะไรจากการผายลม
หลงชานั้นทำเรื่องราวต่างๆ อย่างระมัดระวัง มีหรือที่จะเหลือหลักฐานใดๆ ไว้?
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาทำมากว่าแสนปีมีหรือที่จะไม่มีใครรู้เห็นเรื่องราวของเกาะมังกรเลือดเลย?
แต่ว่าคนเผ่ามังกรนั้นกลับไม่มีใครรับรู้ถึงเรื่องราวนี้ทั้งสิ้น
แน่นอนว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับหมี่เจิ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน
พรรคพวกที่เหลือของหลงชานั้นใครเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องราวมันย่อมจะไม่อาจรู้ได้
หรือว่าจะเอาเจ้าโลกทั้งหลายนั้นเข้าห้องสอบสวนกัน?
คนที่จะทำเช่นนั้นได้มันคงมีแต่หมี่เจิ้น บรรพบุรุษผู้นี้เท่านั้น
แม้ว่าหลงเจี้ยนนั้นจะเป็นยอดเจ้าโลกแต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งทรงอำนาจจนถึงขั้นนั้น
แต่ตัวหมี่เจิ้นนั้นกลับหนีไปทิ้งเรื่องราวไว้ให้หลงเจี้ยน มันก็ไม่ต่างอะไรจากการจบเรื่องราวลงแค่เท่านี้แล้ว
หลังจากผ่านเรื่องราวใหญ่หลวงแล้ว
หลงเจี้ยนก็ได้จัดการเรื่องที่พักบนเกาะมังกรสวรรค์ให้เย่หยวนและคนจากแดนตรังค์ตะวันออก
เว้นเสียแต่ว่าคนทั้งหลายนั้นถูกรีดแก่นเลือดออกไปอย่างมากมายจนเรียกได้ว่าไม่อาจจะบ่มเพาะฝึกตัวต่อไปได้
เพื่อที่จะชดใช้ให้คนทั้งหลายนั้นหลงเจี้ยนจึงได้เตรียมการให้พวกเขาเข้าคงคานิรันดร์ไปพร้อมๆ เย่หยวน
ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเขานั้นจะกลับมาบ่มเพาะได้หรือไม่นั้นมันก็คงได้แต่ต้องพึ่งความสามารถของตัวเองเท่านั้น
…
ในค่ำคืนเงียบงันหลังเรื่องราวจบลง เย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงตัวหมี่เทียนอีกครั้ง
“ผู้อาวุโส ช่างเป็นวิชาที่เหนือล้ำ!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
ตอนนี้เวลาผ่านไปหลายแสนปี กำลังของหมี่เจิ้นย่อมจะพัฒนาไปอย่างไม่อาจเอาเทียบกับเมื่อก่อน
แต่ว่าเขากลับไม่อาจจะสัมผัสถึงหมี่เทียนได้ แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าหมี่เทียนนั้นเก่งกาจแค่ไหน
“เฮอะ หลายปีที่ผ่านมานี้เฒ่าคนนี้ก็ไม่ได้นั่งเล่นเฉยๆ เสียหน่อย” หมี่เทียนตอบกลับไป
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสคิดว่าอย่างไร?”
หมี่เทียนร้องตอบกลับไป “ไอ้เด็กนี่ เจ้ายังต้องมาถามข้า? เรื่องของเผ่ามังกรนั้นเจ้ามองออกหมดแล้วมิใช่หรือ?”
เย่หยวนได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้น “หึๆ ข้ามองออกแล้วทำไมเล่า? ข้านั้นก็เป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ และอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้น…แข็งแกร่งจนเกินไป!”
วันนี้เขานั้นได้เห็นพลังของหมี่เจิ้นกับตาตัวเอง
อาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันยังเป็นเจ้าโลกแต่ว่ากำลังของพวกเขานั้นมันคนละชั้นกันราวฟ้ากับดิน!
ต่อหน้ายอดฝีมืออาณาจักรล้ำสวรรค์แล้วเย่หยวนนั้นรู้สึกถึงความไร้พลังของตนอย่างชัดเจน
หมี่เทียนยิ้มตอบกลับไป “ไอ้หนู การเดินทางครั้งนี้มันลำบากเจ้ามากแล้ว เรื่องที่เหลือเฒ่าคนนี้จัดการต่อเอง!
เรานั้นมาถึงจุดนี้แล้วหากข้ายังต้องให้เจ้ามาช่วยดูแลอีก ยอดฝีมืออาณาจักรล้ำสวรรค์คนนี้ก็คงไร้ค่าเกินกว่าจะคืนชีพขึ้นมาแล้ว!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนี้เผ่าเลือดมันซ่อนตัวอย่างมิดชิดนัก! เรื่องในครั้งนี้มันคงไม่จบลงง่ายๆ แค่นี้ ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในทุกสวรรค์และดูท่าร่างแยกนี้มันจะวางแผนการมานานนับแสนๆ ปี พลังของมันนั้นคงเหนือล้ำจินตนาการไปมาก!”
หมี่เทียนส่ายหัวตอบกลับไป “มันไม่ง่ายหรอก! เว้นเสียแต่ว่ามันจะได้สายเลือดระดับโกลาหลไป
หากไม่เช่นนั้นแล้วมันก็ยังเป็นความพยายามที่ไร้ค่า เรื่องพวกนี้ค่อยมาคุยกันต่อหลังเข้าคงคานิรันดร์ไปแล้วเถอะ!”