จากนั้น งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เย่เฉินถูกนับถือเป็นแขกกิตติมศักดิ์ อยู่ด้วยกันกับต่งรั่งหลินและกู้เหว่ยเลี่ยง นั่งอยู่ข้างกายนายหญิงใหญ่
หลังเริ่มงานเลี้ยง คนจากตระกูลต่งก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดื่มเหล้าให้กับเขา โดยสีหน้า น้ำเสียง การกระทำล้วนเต็มไปด้วยการประจบประแจงทั้งสิ้น
เย่เฉินกลับไม่ได้วางมาดอะไร มีคนมาดื่มเหล้าให้ก็ดื่ม ต่อให้ขงเต๋อหลงมาดื่มให้เพราะเห็นคนอื่นทำกัน เขาก็ดื่มลงไปอย่างเบิกบานใจ
ในขณะที่กู้เหว่ยเลี่ยงดื่มเหล้าให้เย่เฉินด้วยความระมัดระวัง ก็เอ่ยด้วยสีหน้าหมองเศร้าว่า “คุณเย่ น้องชายยังมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ…”
เย่เฉินรู้ว่าเขาอยากพูดอะไร ก็แค่อยากฟื้นฟูความสามารถทางด้านนั้นเท่านั้นเอง
แต่เนื่องจากพวกเขาสี่คนสองตระกูล กระทำไม่ดีต่อกู้เย้นจงสามคนครอบครัว ตอนนี้เย่เฉินไม่มีทางให้พวกเขาฟื้นคืนกลับมาดังเดิมอย่างแน่นอน
คนเป็นผู้ใหญ่ ต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการกระทำของตนเอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นบทเรียนและจดจำไปอีกนานได้อย่างไร
ดังนั้นเขาไม่รอให้กู้เหว่ยเลี่ยงพูดจบ ก็เอ่ยตัดบทเสียงเรียบว่า “กู้เหว่ยเลี่ยง เรื่องในวันนี้นายได้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบ นายคงจะรู้ว่าทำไมฉันถึงต้องให้ขงเต๋อหลงไปปรับปรุงตัวที่จินหลิงเป็นเวลาหนึ่งปีสินะ?”
“ใช่ๆๆ!” กู้เหว่ยเลี่ยงพยักหน้าติดๆ กัน แล้วพูดว่า “คุณเย่ คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ยุติธรรม เป็นธรรมดาที่ผมจะเชื่อถือ เพียงแต่เรื่องนี้…คุณสามารถจัดการเหมือนอย่างขงเต๋อหลงได้หรือไม่ กำหนดเวลาให้พวกเรา? และมันจะดีกว่าไหมถ้าทำให้ในใจพวกเรามีความหวัง คุณว่าไง?”
เย่เฉินพยักหน้า พลางกล่าวว่า “นายเองก็รู้ว่าขงเต๋อหลงไม่ได้ทำชั่วบ่อยครั้ง ก็แค่ปากพล่อยไปหน่อยเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงให้ขงเต๋อหลงปรับปรุงตัวหนึ่งปี แต่พวกนายสี่คน ทำเกินกว่าเหตุ ก่อนหน้านี้ถึงขั้นคิดจะเอาชีวิตคนมาข่มขู่ พฤติกรรมเช่นนี้ ชั่วช้ามากกว่าขงเต๋อหลงเสียอีก!”
กู้เหว่ยเลี่ยงหลั่งเหงื่อเย็นเต็มใบหน้า
เขารู้ความหมายของเย่เฉิน
ขงเต๋อหลงตีฝีปากกับเขา เมื่อพ่ายแพ้ก็ต้องปรับปรุงตัวหนึ่งปี
ตนกับบิดา อาสามและยังมีญาติผู้น้อง สี่คนบีบลุงใหญ่ให้มอบทรัพย์สินมหาศาลออกมา ถึงขั้นยังขู่ว่าหลังเขาตายจะจัดการป้าสะใภ้ใหญ่และลูกพี่ลูกน้องหญิง ความผิดนี่ มันร้ายแรงกว่าขงเต๋อหลงมากมายจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ลุงใหญ่ยังเป็นพี่น้องที่ดีของเย่ฉางอิงบิดาแท้ๆ ของเย่เฉิน ป้าสะใภ้เป็นพี่น้องที่ดีของมารดาเย่เฉิน ลูกพี่ลูกน้องก็เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเย่เฉินมาตั้งแต่เด็ก มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขนาดนี้ เย่เฉินจะต้องเกลียดพวกตนสี่คนเข้ากระดูกอย่างแน่นอน!
ว่ากันถึงขงเต๋อหลง ขงเต๋อหลงแค่ตีฝีปากก็ต้องปรับปรุงตัวหนึ่งปี ส่วนตนเองสี่คนไม่ต้องปรับปรุงตัวสิบปียี่สิบปีหรอกหรือ?!
พอคิดถึงอนาคตสิบปียี่สิบปีข้างหน้าอาจไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ และไม่มีสิทธิ์ได้เสพสุขความสะดวกสบาย กู้เหว่ยเลี่ยงก็อยากจะถอดใจแล้ว
เขาทำหน้าขมฝาด ก่อนจะอ้อนวอนว่า “คุณเย่ คุณก็เห็นแก่ลุงใหญ่ของผม ปล่อยพวกเราไปสักครั้งเถอะ…หรือคุณช่วยย่นระยะเวลาการปรับปรุงตัวให้สั้นลงหน่อยเถอะ…”
เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบว่า “อันนี้ก็ต้องดูที่การแสดงออกของพวกนาย ทำตัวดี บางทีสามปีห้าปีก็ได้แล้ว ทำตัวไม่ดี ยี่สิบสามสิบปีก็ไม่แน่เหมือนกัน”
กู้เหว่ยเลี่ยงแทบจะร้องไห้แล้ว พลางเอ่ยขึ้นเสียงค่อยว่า “คุณชายเย่ ต่อไปคุณก็คือพี่เขยผม ต่อไปผมก็คือน้องเขยคุณ คุณช่วยเห็นแก่ความสัมพันธ์ตรงส่วนนี้ ปล่อยผมไปเถอะ หากอนาคตน้องเขยคุณมีข่าวแพร่ออกไปว่าไร้ความสามารถ อย่างนั้นคุณก็อาจจะเสียหน้าได้นะ คุณว่าจริงไหม?”