ทานากะโคอิจิไม่คาดคิดว่า หลังจากที่คุณหนูได้ยินข่าวว่าเย่เฉินมาญี่ปุ่นแล้ว น้ำเสียงของเธอถึงกับดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เขาอดคิดในใจไม่ได้ว่า “หรือว่าที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ยังไม่ชัดเจนอีกหรือไงกัน? เย่เฉินนั่น เบี้ยวหนี้พ่อของคุณอยู่ 4.5 พันล้านดอลลาร์เชียวนะ! ทำไมพอคุณได้ยินข่าวว่าเขามาญี่ปุ่น ถึงได้มีทีท่าราวกับดีใจมากขนาดนั้นกัน?”
อย่างไรก็ตาม ทานากะโคอิจิย่อมไม่กล้าถามคำถามนี้ออกไป
ในเวลานี้เอง อิโตะ นานาโกะเห็นว่าเขาไม่ตอบสนอง เธอจึงรีบถามเขาอีกครั้ง “ทานากะซัง รีบตอบฉันเร็ว! เย่เฉินซังมาญี่ปุ่นแล้วจริงหรือ?”
ทานากะโคอิจิได้แต่เอ่ยตอบตามตรง “ใช่ครับคุณหนู เขามาที่ญี่ปุ่นแล้ว อยู่ในโตเกียว วันนี้ผมเห็นเขา”
อิโตะ นานาโกะเอ่ยถามต่อ “เขามาที่ญี่ปุ่นก็เพื่อรับซื้อบริษัทผลิตยาโคบายาหรือ?”
“น่าจะใช่ครับ” ทานากะโคอิจิตอบตามความจริง “รายละเอียดลึกกว่านี้ผมเองก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่ว่าเขาสมควรน่าจะมาเพื่อรับซื้อบริษัทผลิตยาโคบายา”
อิโตะ นานาโกะรู้สึกเสียดายอยู่บ้างในใจ เธอแอบคิดลับๆ “ถ้าเย่เฉินซังมาญี่ปุ่นเพียงเพื่อรับซื้อบริษัทผลิตยาโคบายาล่ะก็ อย่างนั้นเขาก็น่าจะอยู่ที่โตเกียวแค่ไม่กี่วันเท่านั้น รอให้เสร็จงานเมื่อไหร่ เกรงว่าเขาจะต้องกลับไปจีนทันที? เขาไม่มีทางมาเกียวโตแน่นอน อย่างนั้นฉันก็คงไม่มีโอกาสได้เจอเขา…”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของอิโตะ นานาโกะก็เกิดความคิดอันแรงกล้าขึ้นมา เธออยากไปโตเกียว เธอต้องการจะเจอเย่เฉิน!
ดังนั้น เธอจึงรีบถามทานากะโคอิจิอย่างรวดเร็ว “ทานากะซัง คุณรู้หรือไม่ว่าเย่เฉินซังจะอยู่ที่โตเกียวอีกกี่วัน?”
ทานากะซังตบกลับอย่างอึกอัก “คุณหนู เรื่องนี้ผมเองก็ไม่ทราบแน่ชัด…”
อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ย “ฉันจะให้วาตานาเบะซังไปเตรียมตัว พรุ่งนี้เราจะนั่งรถกลับโตเกียวตั้งแต่เช้า”
“กลับโตเกียว?” ทานากะโคอิจิเอ่ยถาม “คุณหนู คุณไม่ได้อยากจะอยู่ฟื้นฟูร่างกายที่เกียวโตมาตลอดหรือครับ? ทำไมจู่ๆ คุณถึงต้องการกลับมา? หรือว่า…หรือว่าเพื่อคุณเย่?”
“ใช่!” อิโตะ นานาโกะโพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด “ฉันอยากเจอเย่เฉินซัง ถ้าหากฉันไม่กลับไป เกรงว่าฉันจะไม่มีโอกาสแล้ว!”
ทานากะโคอิจิตระหนักได้ในทันใดว่าเรื่องนี้คล้ายมีบางอย่างผิดปกติ
เขาอดไตร่ตรองอยู่ในใจไม่ได้ว่า
“คุณหนูที่แต่ไหนแต่ไรสงวนตัวอย่างไม่มีใครเทียบได้ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยถูกเพศตรงข้ามทำให้สับสนเลยแม้แต่น้อย”
“แต่ตอนนี้ เธอกลับตื่นเต้นมากเพราะได้ข่าวว่าเย่เฉินมาโตเกียวแล้ว อีกทั้งยังถึงกระทั่งวางแผนที่จะกลับไปโตเกียวในเช้าตรู่วันพรุ่งนี้เพื่อพบเย่เฉิน เรื่องนี้ช่างผิดปกติเกินไป…”
“หรือว่า…”
“หรือว่าคุณหนูมีใจให้เย่เฉินขึ้นมาแล้วงั้นหรือ?!”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ทานากะโคอิจิก็ตื่นตะลึงสุดขีด เขาคิดอยู่ในใจ “คุณหนูแต่ไหนแต่ไรมาชื่นชมบูชาปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่เหนือชั้น อีกทั้งเย่เฉินเองก็เป็นปรมาจารย์เหนือหมู่ปรมาจารย์ ความแข็งแกร่งของเขาทำให้ผู้คนต้องอ้าปากค้าง หากคุณหนูจะหวั่นไหวก็ถือว่าสมเหตุสมผล…”
“แต่ว่า…ท่านประธานเป็นพวกชาตินิยมตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาเคยแสดงท่าทีมานานแล้ว ว่าหากในอนาคตคุณหนูจะแต่งงาน ก็ห้ามแต่งงานกับชายหนุ่มจากประเทศใด ๆ ยกเว้นญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้าหากคุณหนูชอบเย่เฉินจริงๆ อีกทั้งยังเป็นคนที่ท่านประธานรู้จักแบบนี้ เขาจะต้องโกรธมากแน่!”
ทันทีที่เขาคิดถึงตรงนี้ ทานากะโคอิจิก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “คุณหนู ไม่ได้เด็ดขาดเชียวนะครับ!”
อิโตะ นานาโกะถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมล่ะทานากะซัง?”
ทานากะโคอิจิโพล่งออกมา “ถ้าหากท่านประธานรู้ว่าคุณหลงรักคุณเย่ล่ะก็ เขาจะต้องโกรธจัดแน่ ถึงตอนนั้นคุณอาจจะไม่เพียงแต่ไม่ได้เจอคุณเย่ แต่ยังอาจถึงขั้นถูกท่านประธานสั่งห้ามและเกรงกว่าท่านประธานจะยิ่งเร่งแผนการแต่งงานของคุณขึ้นไปอีก!”