อิโตะ นานาโกะรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉินที่อยู่เหนือเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของตนเองไปไกล

อาจารย์ยามาโมโตะ คาซึกิเคยกล่าวไว้หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ ว่าฝ่ามือนั้นของเย่เฉินที่ทำร้ายเขา ไม่ใช่แค่มีกำลังดุร้าย แต่ยังมีพลังในอันแข็งแกร่งที่กล่าวถึงในศิลปะการต่อสู้แบบจีน สิ่งที่ทำลายกล้ามเนื้อและเส้นเลือดของเขาลงก็คือพลังในนี้นั่นเอง

ยามาโมโตะ คาซึกิยังเคยประมือกับปรมาจารย์นินจาบางคนอีกด้วย แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของเขาจะแย่กว่าปรมาจารย์นินจาไม่น้อย แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถรับมือกับกระบวนท่าของปรมาจารย์นินจาได้หลายท่า ไม่เหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าเย่เฉิน เขาไร้ซึ่งพลังที่จะหลบเลี่ยง

นี่เห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของเย่เฉินนั้นอยู่เหนือกว่าปรมาจารย์นินจาญี่ปุ่นมาก

อิโตะ นานาโกะตระหนักได้ถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงรู้อย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเธอก็ดี หรือตระกูลอิโตะก็ดี ทั้งหมดล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เฉิน

อย่างไรก็ตาม นางาฮิโกะ อิโตะกลับยังไม่ทราบถึงจุดนี้

เขาแค่รู้สึกว่า เย่เฉินนั้นแข็งแกร่งกว่ายามาโมโตะ คาซึกิอยู่บ้าง และแกร่งกว่าบอดี้การ์ดที่ใกล้ชิดทั้งสองคนของเขาก็เท่านั้น แต่หากเปรียบเทียบกับปรมาจารย์นินจาจริงๆ เย่เฉินจะต้องด้อยกว่าหลายส่วนแน่

ทานากะโคอิจิหลังจากได้ยินคำพูดของ อิโตะ นานาโกะแล้วทั้งร่างก็นิ่งงันไปด้วยความตะลึงทันที เขารีบเอ่ย “คุณหนู ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว คุณโปรดวางใจ ถ้าหากท่านประธานเกิดความขัดแย้งกับคุณเย่ขึ้นมา ผมจะพยายามเกลี้ยกล่อมเขา!”

อิโตะ นานาโกะส่งเสียงอืมตอบรับ จากนั้นจึงถอนหายใจเบาๆและพูดว่า “ตามนี้เถอะทานากะซัง หากมีเรื่องอะไรแค่บอกฉันทันทีก็พอ”

ทานากะโคอิจิรีบพูด “ได้ครับคุณหนู อย่างนั้นกระผมไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว!”

หลังจากวางสาย อิโตะ นานาโกะถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือทั้งสองข้าง จากนั้นจึงแหงนมองท้องฟ้า ในใจเศร้าโศก

ในช่วงนี้ เธอคิดถึงเย่เฉินอยู่ทุกวันและทุกคืน รอคอยที่จะได้พบเขาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันในใจของเธอก็รู้สึกว่า โอกาสที่ตนจะได้พบเขาอีกครั้งนั้นน้อยมาก

แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่า เย่เฉินจะมาที่ญี่ปุ่น!

ก่อนหน้านี้ เย่เฉินกับเธอห่างกันโดยมีมหาสมุทรขวางกั้น เธออยู่ที่ปลายทะเลนี้ ส่วนเย่เฉินอยู่ที่ปลายทะเลฝั่งนั้น

ตอนนี้ เย่เฉินและเธออยู่บนแผ่นดินเดียวกัน ห่างกันเพียงแค่ 400 กิโลเมตรเท่านั้น หากขับรถแค่สี่หรือห้าชั่วโมงก็สามารถไปถึง หากนั่งชินคันเซ็นแค่สองชั่วโมงก็ไปถึงแล้ว

เมื่อนึกถึงเย่เฉินที่ตนคิดถึงอยู่เช้าเย็น อยู่ห่างจากตนออกไปเพียงขับรถไม่กี่ชั่วโมง อิโตะ นานาโกะก็อยากจะพบเขามากจริงๆ

แต่ว่าเมื่อคิดถึงการเคลื่อนไหวของตนที่ไม่สะดวกนัก หากไปที่โตเกียวพบเขาในตอนนี้พ่อของเธอก็จะรู้เรื่อง เธอก็ทำได้แค่เพียงล้มเลิกความคิดนั้นอย่างไม่เต็มใจอีกครั้ง

ในเวลานี้ เมฆดำที่ปกคลุมบนท้องฟ้า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันค่อย ๆ สลายหายไป ดวงดาวทีละดวงๆค่อย ๆ โผล่ออกมาจากหมู่เมฆ

อิโตะ นานาโกะถอนหายใจและพูดกับตัวเองว่า “ดูเหมือนว่า คืนนี้จะไม่มีหิมะตกแล้ว…”

พูดเสร็จ เธอก็เก็บโทรศัพท์มือถือ สองมือควบคุมรถเข็น จากนั้นจึงออกจากลานที่เงียบเชียบ กลับไปยังที่ห้องของเธอ

ด้วยความช่วยเหลือของสาวใช้ อิโตะ นานาโกะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนอยู่พักหนึ่ง

ความเจ็บปวดทางกายของเธอยังคงรุนแรงมาก แทบจะเกิดขึ้นตลอด 24 ชม. ไม่ว่าเวลาไหนเธอก็รู้สึกเจ็บปวดทรมาน

ในขั้นต้น แพทย์แนะนำให้เธอสวมต่อPain pump Pain pumpนี้คืออุปกรณ์อย่างหนึ่งที่จะสามารถฉีดยาแก้ปวดโดยอัตโนมัติด้วยความเร็วคงที่ไปยังเส้นเลือดของเธออย่างต่อเนื่อง

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัด ควรสวมPain pump แบบนี้จะสามารถบรรเทาอาการปวดได้อย่างมาก

แต่ อิโตะ นานาโกะกลับไม่ยอมใช้มัน

นั่นเป็นเพราะยาแก้ปวดจะทำให้เส้นประสาทของเธอเสียหาย เมื่อเธอกินยาแก้ปวดไปเป็นเวลานานแล้ว ต่อไปมันก็จะยิ่งยากสำหรับเธอในการฟื้นตัว อีกทั้งยังมีโอกาสอย่างยิ่งที่จะกลายเป็นคนที่ไม่สามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ได้อีกต่อไปในอนาคต

ดังนั้น เธอจึงกัดฟันยืนหยัดมาโดยตลอด อาศัยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ต้านทานความเจ็บปวดในร่างกายของตน

น้ำพุร้อนธรรมชาติในที่พักถูกสูบมาจากบ่อน้ำพุร้อนใต้ดิน มันอุดมไปด้วยแร่ธาตุและซีลีเนียม เป็นผลดีต่อร่างกายอย่างยิ่ง อีกทั้งยังสามารถบรรเทาความเจ็บปวดทางกายได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร่างกายของเธอยังได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไม่สามารถแช่น้ำพุร้อนเป็นเวลานานและไม่ควรเกินหนึ่งชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของอิโตะ นานาโกะในทุกๆวันก็คือเวลาที่แช่น้ำพุร้อน

ขณะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน อิโตะ นานาโกะก็นึกถึงเย่เฉินขึ้นอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ

เธอนึกถึงตนเองที่พกพาความเขินอายของหญิงสาวเข้าไปหาเขาที่เขตคฤหาสน์ที่เย่เฉินอาศัยอยู่