เมื่อคุณท่านใหญ่ประกาศว่าให้ซูจือเฟยและซูจือหยูสองพี่น้องไปญี่ปุ่น สีหน้าของซูโสว่เต้าที่เป็นบิดาของคนทั้งสองก็มีท่าทีพอใจขึ้นมาหลายส่วน

ในความเห็นของเขา คุณท่านใหญ่มอบหมายงานสำคัญแบบนี้ให้กับลูกๆ ของเขา ก็ถือเป็นหลักฐานว่าเขาที่เป็นลูกชายคนโตนั้นได้รับความเชื่อถือมากที่สุดจากคุณท่านใหญ่

ลูกหลานคนอื่นๆล้วนกำลังอิจฉาริษยา

คุณท่านใหญ่บอกว่าต้องการให้ซูจือเฟยฝึกฝน จุดนี้ทุกคนไม่มีใครมีปัญหา ท้ายที่สุดแล้วซูจือเฟยก็เป็นหลายชายคนโต จากเป็นสมัยโบราณ เขาก็คือองค์รัชทายาทตามมาตรฐาน ไม่ว่าองค์ชายคนอื่นๆ จะแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อเห็นลูกชายหลานชายคนโตก็ยังต้องก้มศีรษะให้

อย่างไรก็ตาม การให้ซูจือเฟยไปฝึกฝนประสบการณ์และพาซูจือหยูติดตามไปด้วย แบบนี้ออกจะลำเอียงมากไปหน่อยจริงๆ!

ภายใต้สถานการณ์ปกติ เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ ควรปล่อยให้หลานคนโตเป็นผู้นำ จากนั้นจึงเลือกคนหนุ่มสาวที่ฉลาด มีความสามารถ และมีคุณค่าจากครอบครัวของลูกชายคนรอง คนที่สาม คนที่สี่ และแม้แต่จากครอบครัวของคนที่ห้ามาสักหนึ่งหรือสองคนเพื่อติดตามหลานชายคนโตไปดูโลก

แต่ว่า คิดไม่ถึงเลยว่า ในสายตาของคุณท่านใหญ่หานนอกเหนือจากหลานชายคนโตของเขาแล้ว ก็เหลือแค่หลานสาวคนโตคนโปรดของเขาเท่านั้น!

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นี่เท่ากับการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของคุณท่านใหญ่ว่าในสายตาของเขา นอกเหนือจากหลานชายคนโตแล้ว หลานคนอื่นๆทั้งหมดล้วนเทียบไม่ได้กับซูจือหยู!

ซึ่งจะทำให้ครอบครัวอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ทุกคนในเย่นจิงล้วนรู้ดีว่าตระกูลซูมีลูกหลานสืบทอดมากมาย

แค่คุณท่านใหญ่ก็มีพี่ชายน้องชายไปแล้ว 22 คน น้องสาวอีกมากกว่าหนึ่งโหล เมื่อมาถึงสายเลือดของเขา ก็ยังมีหลานชายอีก 13 คนและหลานสาวอีกสองคน

แต่ใครจะคาดคิดว่า ในสายตาของเขา คนที่เขารักใคร่เอ็นดูมากที่สุดจะเป็นซูจือหยูหลานสาวคนโต

อันที่จริงแล้ว เหตุผลก็คือ คุณท่านใหญ่นั้นเข้มงวดในกฎเกณฑ์และการจัดการต่อลูกหลายผู้ชายของตระกูลมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงมักมีสีหน้าถมึงทึงใส่ลูกชาย หลานชายของตนอยู่เสมอ

แต่คุณท่านใหญ่ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ในใจย่อมมีด้านที่อ่อนโยนอยู่ ในเมื่อเขาไม่สามารถแสดงความอ่อนโยนต่อลูกชายและหลานชายของเขาได้ ดังนั้นจึงมอบด้านที่อ่อนโยนให้กับหลานสาวของเขาแทน

บวกกับซูจือหยูฉลาดมาตั้งแต่เด็ก เป็นที่รักของคุณท่านใหญ่อย่างสุดซึ้ง ต่อหน้าคนอื่น คุณท่านใหญ่เป็นพวกเหี้ยมโหด จิตวิญญาณเหนือธรรมดา เป็นปีศาจที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่ง แต่ต่อหน้าหลานสาวของเขา เขาเป็นแค่ชายชราธรรมดาๆทั่วไปที่รักใครเอ็นดูคนรุ่นหลัง

อันที่จริง ความรักใครเอ็นดูที่คุณท่านใหญ่มีต่อซูจือหยูนั้น สามารถเห็นได้จากชื่อของซูจือหยู

ทายาทรุ่นหลังของตระกูลซู มีคำว่า “จือ” ที่แปลว่า “รู้”ต่อท้าย

ชื่อของซูจือเฟย มีความหมายถึง รู้ถูกผิด ไม่อ้อมค้อม

นอกจากนี้ยังมี ซูจือหยวน ซึ่งหมายถึง ดื่มน้ำต้องรู้แหล่ง

ซูจือเอิน ที่หมายถึง รู้บุญคุณการตอบแทน

ชื่อของคนรุ่นหลานทุกคน สามารถกล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยการตักเตือนและสั่งสอนจากคุณท่านใหญ่ต่อพวกเขา

มีเพียงซูจือหยูเท่านั้น

คุณท่านใหญ่ตั้งชื่อนี้ให้เธอ ซึ่งหมายถึง รู้ความสุขของมัจฉา

ใน 《จวงจื่อ·ชิวสุ่ย》ได้มีบันทึกบทสนทนาระหว่าง หุ้ยจื่อและจวงจื่อซึ่งหุ้ยจื่อนั้นได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์หาใช่มัจฉา ไยจึงรู้ความสุขของมัจฉา

คุณท่านใหญ่ตั้งชื่อเธอว่าซูจือหยู ก็เพื่อหวังว่าเธอจะสามารถเบิกบาน มีความสุข เรียบง่าย และมีโชค สามารถรู้จัก “ความสุขของมัจฉา” ได้ย่อมสามารถรู้จัก “ความสุขของมนุษย์” ได้