อาจกล่าวได้ว่า ทุกๆที่ล้วนเป็นความรักใคร่เอ็นดูอย่างหาที่เปรียบมิได้ของคุณท่านใหญ่ซูที่มีต่อซูจือหยู
ด้วยเหตุนี้ เด็กหนุ่มรุ่นเยาว์มีพรสวรรค์ในเย่นจิง จึงเต็มไปด้วยความปรารถนาต่อซูจือหยู
หากสามารถคบกับซูจือหยูได้ ก็ไม่เพียงแต่เป็นการจัดการหญิงสาวผู้งดงามเย้ายวนเกินใครได้อยู่หมัด แต่เธอยังเป็นเด็กหัวกะทิที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาตลอดทั้งปีและได้รับการศึกษาในสถานศึกษาระดับไฮเอนด์ชั้นนำของโลก นี่ก็เทียบเท่าได้กับการจัดการกับตระกูลซูได้ทั้งหมดด้วย
มีคนบางคนล้อเล่นว่า ใครก็ตามที่สามารถแต่งงานกับซูจือหยู ก็อาจได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาลถึงล้านล้าน
ดังนั้น ซูจือหยูจึงมีฉายาที่เรียกกันแบบปากต่อปากในกลุ่มตระกูลใหญ่ในประเทศอย่างเรียบง่ายและหยาบคายว่า เศรษฐีล้านล้าน
หลังจากที่คุณท่านใหญ่ซูเฉิงเฟิงประกาศการตัดสินใจของตนออกไป เขาก็พูดกับซูโสว่เต้าลูกชายคนโตของเขาว่า “โสว่เต้า นายกับจือเฟย จือหยูรีบใช้เวลาในการหารือเกี่ยวกับแผนการคร่าวๆ จากนั้นก็รีบเตรียมตัวออกเดินทาง ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
ซูโสว่เต้าลุกขึ้นทันทีและกล่าวด้วยความเคารพ “คุณพ่อไม่ต้องห่วง ผมจะรีบปรึกษาแผนการกับพวกเขาทั้งคู่โดยเร็วที่สุด และจะพยายามเดินทางไปญี่ปุ่นในคืนนี้เลย!”
ซูเฉิงเฟิงพยักหน้า เขาเอ่ยสั่ง “เมื่อใดก็ตามที่เป็นเรื่องประเภทมีสองต้องเลือกหนึ่งแบบนี้ พวกเราติดต่อใครก่อนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตระกูลอิโตะและตระกูลทากาฮาชิแม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้จะถดถอยและตกต่ำไปบ้างเนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่น แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาก็ยังอยู่ในระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น พวกนายควรตัดสินใจให้ดีว่าจะติดต่อใครก่อน”
ซูโสว่เต้ากล่าวทันที “ได้ครับคุณพ่อ พวกผมจะเริ่มพูดคุยกันทันทีและรายงานผลให้คุณทราบโดยเร็วที่สุด”
ซูเฉิงเฟิงยิ้มด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “โสว่เต้า เมื่อ 18 ปีที่แล้ว นายเอาชนะเย่ฉางอิงได้ และกลายเป็นคนรุ่นใหม่ที่เปล่งประกายที่สุดในเย่นจิง อย่างไรก็ตามในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา นายก็ไม่ได้มีผลงานที่ยิ่งใหญ่อะไรอีก แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนาย เป็นเพราะตระกูลซูของเราในหลายปีมานี้ ไม่มีคู่ต่อสู้ที่ดีในประเทศจีนอีกแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูเฉิงเฟิงก็ยิ้มเยาะ เขายืนขึ้นและพูดอย่างเต็มไปด้วยพลัง “ตลาดภายในประเทศไม่มีพื้นที่ให้เราเติบโตได้แล้ว หากพวกเราต้องการเติบโตต่อไป ก็ต้องไปต่างประเทศ ออกสู่ทะเล ไปสู่มหาสมุทรเพื่อเติบโตต่อไป!”
“ไม่เช่นนั้น ตระกูลเก่าแก่ในตะวันตกรวมถึงตระกูล Rothschild ก็จะยังออกมากระดี๊กระด๊าให้พวกเรารู้สึกรังเกียจอยู่บ่อยครั้ง!”
“ดังนั้น กลยุทธ์ทางทะเลครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสอันดีสำหรับตระกูลซูที่จะสร้างความรุ่งโรจน์ครั้งใหม่ขึ้นมา แต่ยังเป็นเวทีที่ดีสำหรับนายในการบรรลุสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้น!”
“ถ้าการต่อสู้ครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี ฉันก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว สามารถเกษียณได้อย่างวางใจและมีความสุขกับครอบครัวของฉัน ถึงเวลานั้น นายก็คือผู้นำของตระกูลซู!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซู่โสว่เต้าก็โค้งคำนับทันทีและเอ่ยเสียงดังฟังชัด “คุณพ่อวางใจ โสว่เต้าจะทำอย่างสุดความสามารถ! เพื่อสร้างความรุ่งโรจน์ครั้งใหม่สู่ตระกูลซู!”
…
หลังจากการประชุม ซูโสว่เต้าก็กลับมายังที่พักของเขาพร้อมกับลูกๆ ทั้งสองคนด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นอย่างยิ่ง
ทันทีที่กลับถึงบ้าน เขาก็เรียกลูกๆ มาที่ห้องหนังสือ และพูดด้วยจิตใจฮึกเหิม “จือเฟย จือหยู ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับครอบครัวของเราที่จะสร้างความรุ่งโรจน์สู่ตระกูลซูอีกครั้ง พวกเธอสองไปญี่ปุ่นครั้งนี้ จะต้องได้มาซึ่งเงื่อนไขความร่วมมือที่ดีที่สุด ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นตระกูลอิโตะหรือตระกูลทากาฮาชิ ล้วนต้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากพวกเขาให้ได้มากที่สุด สร้างผลประโยชน์แก่ตระกูลซูของเราให้ได้มากที่สุด!”
ซูจือเฟยพูดทันทีว่า “พ่อครับ ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ พวกเราควรติดต่อกับตระกูลอิโตะหรือว่าตระกูลทากาฮาชิก่อนดี?”
ซูโสว่เต้าเอ่ยถาม “ลูกคิดว่าอย่างไร?”
ซูจือเฟยเอ่ย “ผมคิดว่าทางที่ดีที่สุดเราควรติดต่อกับตระกูลอิโตะก่อน นั่นเพราะตระกูลอิโตะมีความแข็งแกร่งทั้งในโตเกียวและเกียวโต มีท่าเรือโตเกียวในโตเกียว ใกล้กับเกียวโตก็มีท่าเรือโอซาก้าและท่าเรือนาโกย่า ตามหลักการแล้ว ตระกูลอิโตะมี ศักยภาพมากกว่าในด้านท่าเรือและการขนส่ง”
“อืม…” ซู่โสว่เต้าพยักหน้าเบาๆ เขาพูดอย่างเห็นด้วยว่า “ความคิดเห็นของลูกมีเหตุผลอย่างยิ่ง อย่างนั้นพวกเราติดต่อตระกูลอิโตะก่อน”
ซูจือหยูขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “พ่อ พี่ชาย แต่ฉันกลับคิดว่า เราควรติดต่อตระกูลทากาฮาชิก่อน”
“โอ้?” ทั้งสองคนมองไปที่ซูจือหยู ซูโสว่เต้าเอ่ยปากถาม “จือหยู ทำไมลูกถึงคิดแบบนั้น?”