เมื่อเผชิญกับคำถามของพ่อและพี่ชาย ซูจือหยูยังคงตอบอย่างเรียบๆ “ก่อนอื่น แม้ว่าตระกูลอิโตะจะมีทรัพยากรที่แข็งแกร่งในโตเกียว อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งที่ไม่เลวในโอซาก้าและนาโกย่า แต่ที่จริงแล้วซุปเปอร์ฮาร์เบอร์ของญี่ปุ่นก็คือท่าเรือโยโกฮามาที่อยู่ถัดจากโตเกียว”

“แม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลทากาฮาช ในโตเกียวจะด้อยกว่าตระกูลอิโตะอยู่บ้าง แต่ว่าพวกเขาแข็งแกร่งมากในโยโกฮามา หรืออาจเรียกได้ว่าโยโกฮามาเป็นสำนักงานใหญ่ของตระกูลทากาฮาชิ”

“ประการถัดมา ตอนนี้ตระกูลอิโตะกำลังมีปัญหาอยู่ไม่มากก็น้อย ลูกสาวของนางาฮิโกะ อิโตะ เมื่อไม่นานมานี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการแข่งขันการต่อสู้แบบฟรีสไตล์ระดับนานาชาติที่จินหลิง ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างพักฟื้น นางาฮิโกะ อิโตะ เองก็รักใครเอ็นดูลูกสาวคนนี้อย่างมาก และเรื่องนี้ก็ทำให้เขาเสียสมาธิไปไม่มากก็น้อย ในเมื่อจิตใจของคนผู้นี้ไม่อาจทุ่มเทให้กับงานได้ทั้งหมด 100% นี่จะส่งผลต่อความร่วมมือของเรา แม้ว่าผลกระทบจะเป็นเพียง 1% แต่นี่ก็เป็นผลกระทบที่แท้จริง ”

ซูโสว่เต้าขมวดคิ้ว “ลูกสาวของนางาฮิโกะ อิโตะได้รับบาดเจ็บ? ทำไมเรื่องนี้ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”

ซูจือหยูเอ่ยเสียงเรียบ “ก่อนหน้านี้ฉันได้ให้คนไปตรวจสอบสถานการณ์ของทั้งสองตระกูล รวมถึงลูกหลานของพวกเขาด้วย”

พี่ใหญ่อย่างซูจือเฟยอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้ง “จือหยู ยังเป็นเธอที่คิดได้อย่างถี่ถ้วนที่สุด!”

ซูจือหยูกล่าวด้วยความสงบ “พี่ชาย ยอฉันให้น้อยๆหน่อยเถอะ คนที่จะต้องเผชิญหน้าเป็นคนเดียวคือนาย ฉันได้แต่ช่วยนายคิดให้มากขึ้นมาหน่อยก็เท่านั้นเอง”

ซูจือเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีน้องสาวที่ดีแบบนี้ หลังจากนี้ฉันสามารถวางใจได้แล้ว!”

ซูจือหยูกลอกตาใส่เขาและเอ่ย “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้ตระกูลอิโตะต้องการลงทุนในบริษัทยาญี่ปุ่นชื่อบริษัทผลิตยาโคบายา เรื่องนี้จะทำให้เขาเสียสมาธิในระดับหนึ่ง”

ซูจือเฟยพยักหน้า “ฉันรู้จักบริษัทนั้น ยากระเพาะเสี่ยวหลินไง ก่อนหน้านี้ฉันเคยใช้มันมาก่อน ผลที่ได้ไม่เลว เยี่ยมมากจริงๆ”

“นั่นมันเมื่อก่อน” ซูจือหยูกล่าวเสียงเรียบ “ตอนนี้ ในประเทศจีนมียากระเพาะจิ่วเสวียน ซึ่งมีศักยภาพแข็งแกร่งกว่าของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไปแล้ว”

“โอ้…” ซูจือเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันมีลางสังหรณ์ว่า ยากระเพาะจิ่วเสวียนจะต้องพุ่งพรวดพาดขึ้นมาและตามทันยาโคบายาในไม่ช้าและขึ้นนำในที่สุด”

พูดถึงตรงนี้ ซูจือเฟยก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าหากทำได้ ฉันกลับคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในยากระเพาะจิ่วเสวียน ไม่แน่ว่าเพียงไม่กี่ปีก็อาจจะมีผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าสิบเท่า”

ซูโสว่เต้าโบกมือและเอ่ยว่า “ไม่ว่าบริษัทผลิตยาจะใหญ่แค่ไหนยังไงก็ไม่มากไปกว่า1 แสนล้าน ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนัก พวกเรายังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นและโอกาสที่มากขึ้น โครงการทางทะเลนี้คือกุญแจสู่ความเป็นสากลของตระกูลซู”

ซูจือหยูอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็กลืนมันลงไปอีกครั้ง เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “กลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ คุณพ่อคุณคิดว่ายังไง พวกเราสุดท้ายแล้วควรติดต่อใครก่อนดี? หนูยังคงคิดว่า นางาฮิโกะ อิโตะมีทั้งปัญหาภายในและภายนอก และยังมีสิ่งอื่น ๆที่มาฉุดรั้งจิตใจ ยังเป็นตระกูลทากาฮาชิที่ดูโดยรวมแล้วเหมาะสมกว่า”

ซูโสว่เต้ามองที่ซูจือเฟยและถามว่า “จือเฟย ลูกคิดว่ายังไง?”

ซูจือเฟยเอ่ยปากขึ้นทันที “ปรึกษาใครต้องเชื่อคนนั้น ผมรู้สึกว่ายังคงฟังจือหยูไว้ดีกว่า ท้ายที่สุดแล้วคนที่มีการตรวจสอบข้อมูลมาก่อนมีสิทธิ์ที่จะพูด!”

ซูโสว่เต้าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “พวกลูกสองพี่น้อง ล้วนเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นเดียวกัน ถ้าพวกลูกพร้อมใจกันทำงานร่วมกัน จะต้องเป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศ หรืออาจกระทั่งโด่งดังไปทั่วโลก!”

ซูจือเฟยยิ้มและกล่าวว่า “ผมคงไม่กล้าเปรียบเทียบกับจือหยู ยัยคนนี้เป็นพวกผิดปกติ อายุเพิ่งจะแค่ 22 ปี แต่จิตใจกลับคล้ายผู้ใหญ่อายุ 44 ปีก็ไม่ปาน ไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องหาคู่ครองแบบไหนในอนาคตถึงจะรักษาเธอได้”

ซูจือหยูถลึงตาใส่เขาและพูดอย่างโกรธเคือง “ต้องให้นายมาเป็นห่วงด้วยหรือไง? ฉันว่านายคิดเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ นายแอบชอบกู้ชิวอี๋มานานขนาดนี้ เมื่อไหร่นายจะสารภาพกับเธอ?”

ซูจือเฟยรู้สึกอับอาย เขาโพล่งออกมา “เธออย่ามาพูดจาไร้สาระ! ฉันกับกู้ชิวอี๋ก็แค่คนรู้จักกัน ไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนด้วยซ้ำ”

“แน่นอนสิ” ซูจือหยูแค่นเสียงและพูดอย่างเหยียดหยาม “พอเห็นคนเขาเข้าก็ดันพูดจาไม่ดีใส่ แน่นอนว่าเพื่อนก็เป็นไม่ได้หรอกแบบนี้!”