ทันทีที่ทากาฮาชิมาจิพูดคำนั้นออกมา ซูจือหยูก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า:”เมื่อวานเรื่องที่คุณพ่อของเธอพูดในการประชุมทางวิดีโอคอลว่าจะร่วมมือกับตระกูลหนึ่ง แล้วกำจัดอีกตระกูลหนึ่ง ทำไมวันนี้ทากาฮาชิมาจิถึงพูดเรื่องนี้ออกมา จะร่วมมือกับพวกเขาเพื่อกำจัดตระกูลอิโตะ?! มันเป็นความบังเอิญจริงเหรอ? หรือว่าเมื่อคืนทากาฮาชิมาจิแอบฟังการประชุมทางวิดีโอคอลของพวกเขาสามคน?”
ซูจือหยูรู้สึกว่าการคาดเดาของตัวเองมีความเป็นไปได้สูง
เธอคิดอยู่ในใจ:”ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเข้าพักที่โรงแรม และมีบอดี้การ์ดเคยตรวจสอบห้องอย่างละเอียดแล้ว ภายในห้องไม่มีเครื่องดักฟังและกล้องบันทึกภาพ แต่ที่นี่คือโตเกียว เป็นถิ่นของทากาฮาชิมาจิ ถ้าเขาใช้วิธีอื่นๆมาดักฟังฉันกับชายก็คงไม่ใช่เรื่องยาก…”
ซูจือเฟยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และสงสัยว่าพวกเขาโดนทากาฮาชิมาจิดักฟังหรือเปล่า
แต่ซูจือเฟยไม่สามารถสื่อสารกับน้องสาวได้ เพราะทากาฮาชิมาจิอยู่ตรงหน้า ดังนั้นเขาก็เลยส่งสายตาให้เธอ
ซูจือหยูพยักหน้าอย่างเงียบๆ จากนั้นเธอก็ถามทากาฮาชิมาจิด้วยสีหน้าสงบ:”คุณทากาฮาชิ ทำไมคุณต้องกำจัดตระกูลอิโตะให้สิ้นซากด้วย?”
ทากาฮาชิมาจิพูดด้วยความโกรธ:”ไอ้สารเลวอย่างอิโตะทาเคฮิโกะ ชอบมาต่อสู้และแข่งขันกับฉัน ถ้าแข่งขันกันด้านธุรกิจทั่วไปก็ไม่เป็นไร แต่เขาทำกับฉันและครอบครัวมากจนเกินไป ตอนนี้เขาดูถูกเหยียบหยามศักดิ์ศรีของฉันและคนในครอบครัวด้วย!”
ขณะพูด ทากาฮาชิมาจิก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ อิโตะทาเคฮิโกะส่งดอกไม้และกระเช้าผลไม้มาให้และยังโทรศัพท์มาเยาะเย้ยเขาด้วย
หลังจากที่เขาพูดด้วยความโกรธจนจบ เขายังด่าด้วยความโมโหว่า:”อิโตะทาเคฮิโกะ เอาเรื่องลูกชายมาหัวเราะเยาะฉัน และดูถูกเหยียบหยามฉันมากจนเกินไป! ดังนั้นเมื่อวานตอนที่อยู่โรงพยาบาล ฉันก็ได้ตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าโตเกียวมีเขาก็จะไม่มีฉัน ถ้ามีฉันก็ต้องไม่มีเขา!”
ทากาฮาชิมาจิไม่ได้เป็นคนโง่ เขารู้ว่าถ้าตัวเองเสนอให้ตระกูลของเขาร่วมมือกับตระกูลซูเพื่อกำจัดตระกูลอิโตะ คนของตระกูลซูจะต้องสงสัยว่าตัวเองโดนดักฟังอย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาก็เลยพูดถึงเรื่องที่อิโตะทาเคฮิโกะโทรมาเยาะเย้ยตัวเอง จงใจพูดเกินจริง และเขาก็แสดงความโกรธจัดออกมา การแสดงของเขาในตอนนี้ เทียบได้กับนักแสดงมืออาชีพได้เลย
สิ่งที่เขากำลังคิด ถ้าคนของตระกูลซูเชื่อในคำพูดของเขา พวกเขาก็จะไม่สงสัยว่าตัวเองโดนดักฟัง และคิดว่าเขาเป็นพันธมิตรที่น่าร่วมมือที่สุด
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเองก็จะกลายเป็นคนที่ตระกูลซูอยากร่วมมือมากที่สุด
เมื่อซูจือหยูได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็โล่งใจทันที
เห็นได้ชัดเจน เธอเชื่อในคำพูดของทากาฮาชิมาจิแล้ว
เพราะเรื่องที่เขาเล่ามา มันดูสมเหตุสมผลและน่าเชื่อมาก
ลูกชายของทากาฮาชิมาจิได้รับบาดเจ็บ ในเวลาเดียวกันก็กลายเป็นตัวตลกของประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธมากๆอยู่แล้ว และในเวลานี้อิโตะทาเคฮิโกะก็ยังมาเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ มาเยาะเย้ยเขาอีก และทำให้เขาโกรธมากขึ้น มันก็เป็นเรื่องปกติ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดกับทากาฮาชิมาจิ:”คุณทากาฮาชิ พวกเราคุยเรื่องการร่วมมือกันดีกว่า สำหรับเรื่องที่คุณพูดมาเมื่อสักครู่ ถ้าพวกเราร่วมมือกันแล้วไม่มีปัญหา ถ้าพวกเราบรรลุข้อตกลงกันแล้ว เรื่องนี้พวกเราค่อยมาหารือกันทีหลัง”
ทากาฮาชิมาจิพูดอย่างตื่นเต้นทันที:”มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ! คุณหนูซู คุณโปรดวางใจ ครั้งนี้ผมจะแสดงความจริงใจ และฉันเชื่อว่าตระกูลทากาฮาชิจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของตระกูลซู!”
…
ในขณะที่ทากาฮาชิมาจิเจรจารายละเอียดต่างๆกับซูจือเฟยและซูจือหยู เย่เฉินและคนอื่นๆก็เดินทางมาถึงโยโกฮามา และตรงไปที่บริษัทผลิตยาโคบายาที่ตั้งอยู่ในโยโกฮามา
ฉินกางได้ส่งวัตถุดิบของยาต่างๆมาถึงที่นี่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว
ดังนั้น โคบายาชิอิจิโร่และเว่ยเลี่ยงจึงเริ่มจัดระเบียนคนงานในบริษัทผลิตยาที่โยโกฮามา เพื่อดำเนินการทดลองผลิตยากระเพาะเก้าเสวียน
การดำเนินการทดลงผลิตยาเป็นไปอย่างราบรื่น ตอนบ่ายสี่โมง พวกเขาก็สามารถผลิตยากระเพาะเก้าเสวียนล็อตแรกที่ผ่านมาตรฐานได้สำเร็จ
หลังจากนั้น เย่เฉินและคนอื่นๆก็ขับรถยนต์ไปที่เมืองที่สำคัญที่สุดในภาคกลางของประเทศญี่ปุ่นทันที นั้นก็คือเมืองนาโงยะ
เมื่อพวกเขาถึงเมืองนาโงยะ เวลาก็ดึกแล้ว