บทที่ 2973 การตายที่แปลกประหลาด + ตอนที่ 2974 มัมมี่อย่างสมบูรณ์

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2973 การตายที่แปลกประหลาด

 

ความผิดปกติของเจสันดึงดูดความสนใจของทุกคน ปิแอร์คือคนแรกที่เดินเข้ามาก่อน “เกิดอะไรขึ้น?”

 

“พระเจ้า…ฉันไปดูทางนั้นหน่อย…” เจสันกลับมามีสติอีกครั้ง ทว่าสีหน้าท่าทางยากที่จะอธิบายได้ เขาเหลือบมองปิแอร์แวบหนึ่งแล้วมุ่งหน้าไปยังเต็นท์อื่น เพราะคนในเต็นท์นี้ก็ยังไม่ตื่นเช่นกัน

 

ถึงแม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อเห็นบางอย่างในถุงนอนเจสันก็อดส่ายหน้าไม่ได้พร้อมสีหน้าเหมือนทานอุจจาระก็ไม่ปาน

 

“บ้าไปแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น…” ปิแอร์ก็เห็น ‘บางอย่าง’ ในเต็นท์เช่นกัน ขนาดคนที่สุขุมแน่นิ่งอย่างเขายังตกใจกลัวจนเดินเซถอยหลังไปหลายก้าวพร้อมความตื่นตระหนกฉายชัดในแววตา

 

บุกป่าฝ่าดงท่องยุทธภพมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นวิธีการตายที่แปลกประหลาดและน่าขยะแขยงเช่นนี้

 

“ทำไมเหรอ…เฮ้ย…บ้าไปแล้วจริง ๆ…เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา…” คนอื่น ๆก็แห่เข้ามาดูเช่นกัน ทว่าแค่เหลือบมองก็ตกใจกลัวจนเซถอยหลังพลางสบถไม่หยุดปาก

 

อันที่จริงคำด่าทอที่สบถออกมาก็แค่ความหวาดกลัวที่ซ่อนไว้ในใจเท่านั้น

 

ก่อนออกมาทำภารกิจพวกเขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดพลางคิดว่าเป็นงานง่าย ๆกระจอก ๆเท่านั้นเลยคิดเสียว่าเป็นวันพักผ่อนอันยอดเยี่ยม แต่หลังจากมีการตายแปลก ๆอย่างต่อเนื่องก็ทำเอาพวกเขาแทบประสาทหลุดกระเจิงกันหมด

 

ในที่สุดเส้นประสาทอันเปราะบางก็ขาดผึ่งลงอย่างสมบูรณ์ในเช้าวันนี้โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งถึงกับร้องไห้ “ผี…มีผีอยู่ในป่านี้แน่ ๆ ฉันอยากกลับบ้าน ให้ขุมสมบัตินั่นอยู่กับผีไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว…”

 

มีผู้หญิงทั้งหมดสามคน คิมิโกะถูกตะขาบฆ่าตายไปแล้ว ส่วนอีกคนตายอย่างน่าประหลาดในเต็นท์ ตอนนี้เหลือเธอคนเดียว สายลับสาวคนนี้หมดสิ้นความมั่นใจในการต่อสู้ เธอแค่อยากกลับเข้าเมืองที่มีเสียงดังอึกทึกมากกว่า

 

แทนที่จะอยู่ในป่าน่ากลัวแห่งนี้

 

เล่อเล่อแปลกใจมากว่าสือเอ้อร์ปรับปรุงจิตวิญญาณน้ำเป็นแบบไหนกันนะ?

 

ถ้าแค่น่าขยะแขยงเต็มไปด้วยคาวเลือดละก็คงไม่ทำให้สายลับที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาเหล่านี้หวาดกลัวได้ เธอเหลือบมองสือเอ้อร์ที่ทำท่าลำพองใจอยู่ข้างเธอ ยัยเด็กนี่ทำหน้าทำตาประมาณว่า ‘อยากรู้ไหมมาถามฉันสิ’ เธอนึกอยากตบบ้องหูเสียจริง ๆ

 

เล่อเล่อไม่ยอมถามแต่กลับเดินมุ่งหน้าไปทางฝูงชนที่กำลังห้อมล้อมอยู่ เสี่ยวเป่าลุกขึ้นและเดินตามหลังไปติด ๆ

 

สือเอ้อร์เบะปาก คนเป็น ๆอยู่ตรงหน้าไม่ถามดันอยากไปดูให้เสียเวลาเปล่า!

 

นอกจากสายลับสาวเพียงคนเดียวที่ตกใจกลัวจนขวัญเสียแล้ว การแสดงออกของผู้ชายคนอื่น ๆก็ดูแย่ไม่น้อยเหมือนผ่านเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมา พวกเขาสำรวจรอบด้านอย่างระแวดระวังพร้อมร่างกายที่แข็งทื่อ

 

 

ต่อให้ฝูงหมาป่าดุร้ายมาในเวลานี้ก็ไม่มีใครรู้สึกกลัวอีกแล้วเพราะอย่างมากก็แค่ฆ่าทิ้ง

 

สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็คืออันตรายที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้ตายไปแล้วแปดคน แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าศัตรูอยู่ที่ไหน!

 

และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศัตรูใช้วิธีการใด

 

งูพิษ ตะขาบ หมูป่า พืชสมุนไพรมีพิษ…ทุกอย่างดูเหมือนบังเอิญแต่จะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไรกัน มันต้องมีคนบงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน

 

ศัตรูที่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตในป่าได้…นี่ต่างหากสาเหตุที่พวกเขากลัว!

 

เล่อเล่อเดินเข้าไปใกล้และได้ยินเสียงบ่นพึมพำของเจสัน “ปิแอร์ ป่าแห่งนี้ต้องมีปีศาจแน่นอน พวกเราไปกันเถอะ ไปหาเมืองที่ไม่มีใครรู้จักใช้ชีวิตกัน เมืองที่ชื่อว่าเฉิงตูครั้งก่อนก็ไม่เลว มีของอร่อยมากมายเลย ฉันว่าชาตินี้ทั้งชาติพวกเราคงกินกันไม่ครบทุกอย่างแน่”

 

ปิแอร์เหลือบมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เฉิงตูไม่ดี อยู่สิบวันแต่นายท้องเสียไปแล้วแปดวัน”

 

เจสันหน้าแดงซ่านพร้อมนึกสงสัยเหมือนกัน เขาเอ่ยต่อเสียงเบาว่า “งั้นไปหางโจว…ทิวทัศน์ที่นั่นงดงาม ของอร่อยก็มีตั้งมากมายแถมไม่ท้องเสียด้วยดีไหม?”

 

เสียงสุดท้ายลากยาวพร้อมเสียงออดอ้อน เล่อเล่ออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านเฮือก

 

โธ่เว้ย…เธอมองไม่ออกจริง ๆว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน!

 

………………………………………….

 

ตอนที่ 2974 มัมมี่อย่างสมบูรณ์

 

เล่อเล่อส่งเสียงไอค่อกแค่กแรง ๆ เจสันที่เกือบสิงร่างปิแอร์ก็แยกออกจากกันอย่างรวดเร็วแล้วแสร้งทำตัวปกติ เขาหันมาส่งยิ้มให้พวกเล่อเล่อ ทว่าหน้ายังแดงเรื่อไม่หาย

 

“พวกเธออย่าไปดูเลย มันไม่น่าดูเท่าไรหรอก หรืออาจส่งผลต่อความอยากอาหารเช้าของพวกเธอได้นะ” เจสันเตือนด้วยความหวังดี

 

อันที่จริงก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไร แน่นอนว่าสำหรับสายสืบประสบการณ์โชกโชนอย่างเขาคาดว่าหากเด็กอายุน้อยอย่างเล่อเล่อและเสี่ยวเป่าคงตกใจร้องหาแม่หลังจากเห็นศพแน่นอน!

 

ปิแอร์เหลือบมองเสี่ยวเป่า แล้วดึงเจสันออกไป

 

“อย่าดึงฉันสิ ฉันต้องอยู่กับพวกเขา เกิดตกใจจนขวัญเสียขึ้นมาฉันยังอยู่ปลอบพวกเขาได้” เจสันไม่ยอมไป

 

“พวกเขากล้าหาญกว่านายเยอะ” ปิแอร์พูดอย่างหงุดหงิด

 

เป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆที่คู่ขาของเขาอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้ ไอคิวน่าเป็นห่วงแถมพูดมากอีกต่างหาก ความกล้ามากกว่าหนูไม่เท่าไหร่แล้วยังตะกละด้วย ขนาดซาลาเปาลูกเดียวยังทำให้เขาหลงติดกับได้…สำหรับปิแอร์แล้วเจสันมีข้อดีเพียงอย่างเดียวคือโชคดีไร้ใครเทียม

 

ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจเจ้าโง่นี่รอดตายอย่างหวุดหวิดมาได้เสมอ แถมปฏิบัติภารกิจสำเร็จเพราะความบังเอิญทุกครั้ง ดวงดีจนคนอื่นคันฟันยุบยิบด้วยความเกลียดชังแต่กลับทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้

 

เช่นเดียวกับภารกิจครั้งนี้ เขาใช้ฝ่าเท้าคิดยังมั่นใจได้เลยว่าแปดคนที่ตายล้วนเกี่ยวข้องกับพวกเสี่ยวเป่าทั้งสิ้น แต่ปิแอร์ก็แปลกใจมากเช่นกันว่าทำไมเสี่ยวเป่าถึงไม่จัดการเขาและเจสัน?

 

ปิแอร์เหลือบมองเจสันที่ยังคงพูดพล่ามไม่หยุดแวบหนึ่ง ใบหน้าเย็นชาคลายลงมาก มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมความอบอุ่นฉายชัดในแววตา

 

บางทีอาจเป็นเพราะความโชคดีของเจ้าหมอนี่สินะ!

 

เสี่ยวเป่าเหลือบมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่แฝงในแววตา เล่อเล่อเปิดเต็นท์หนึ่งออกแค่นเสียงเบาและปรากฏท่าทีตกตะลึงไปสามวินาที

 

“นี่คือมัมมี่สินะ?” เล่อเล่อพึมพำกับตัวเองแล้วกลับมามีท่าทีสงบนิ่งดั่งเดิม

 

ศพแห้งกรังที่อยู่ในถุงนอนมองไม่ออกนักว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ดูจากเสื้อผ้าแล้วคงเป็นหนุ่มสายลับของประเทศเล็ก ๆสักแห่ง อีกอย่างเป็นหนุ่มกำยำตัวสูงราว180 แต่เหมือนว่าศพแห้งในถุงนอนตอนนี้กลับขนาดหดลง

 

ใช่…นี่คือการหดตัว

 

 

เปรียบเทียบได้กับแอปเปิลขนาดเท่ากำปั้นของผู้ใหญ่ แต่หลังจากผ่านการคายน้ำก็จะเหลือขนาดเท่าไข่ไก่หรือเล็กกว่า

 

ชายกำยำตรงหน้าเหมือนเด็กอย่างไรอย่างนั้น เขาหดตัวอยู่ในถุงนอน ใบหน้ามีเพียงชั้นผิวหนังบาง ๆห่อหุ้มอยู่ เนื่องจากสวมเสื้อผ้าไว้เลยมองไม่สภาพร่างกายไม่ออกแต่คาดว่าคงพอ ๆกับใบหน้า

 

อีกสองเต็นท์ที่เหลือก็เช่นเดียวกัน เพียงคืนเดียวก็มีศพมัมมี่สภาพสมบูรณ์เพิ่มมาอีกสามศพ อีกทั้งสมบูรณ์ยิ่งกว่ามัมมี่ในพีระมิดเสียอีก

 

บางทีในสายตาของนักโบราณคดีเหล่านั้น มัมมี่ทั้งสามศพนี้คงมีเสน่ห์เย้ายวนกว่าคนงามที่มีชีวิตตัวเป็น ๆเสียอีก!

 

“ย้ายพวกเขาออกมาเถอะ!” มีคนพูดขึ้น

 

จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปจัดการ แต่ว่า——

 

“แกรบ”

 

มีเสียงแผ่วเบาดังแว่วมา ท่าทีของทุกคนดูค่อนข้างแปลกใจเลยค้นหาต้นเสียงไปทุกซอกมุม เล่อเล่อเป็นคนแรกที่ตอบสนองไว เธอชี้ไปที่มัมมี่ในอ้อมแขนของใครบางคนแล้วตะโกนว่า “แตกแล้ว หัวแตกแล้ว!”

 

“พระเจ้า…ทำไมถึงเป็นแบบนี้…” ทุกคนต่างสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของมัมมี่และแสดงสีหน้าหวาดกลัว

 

ผิวภายนอกของมัมมี่ที่สมบูรณ์ไร้ที่ติปรากฏรอยแตกเต็มไปหมดเหมือนใยแมงมุม อีกทั้งรอยแตกก็ขยายกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆและเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เวลาไม่ถึงนาที…มัมมี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของชายผู้โชคร้ายก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตามขนาดเล็กใหญ่

 

คนอื่น ๆไม่กล้าขยับอีกแล้วมองมัมมี่อีกสองศพที่เหลืออย่างหวาดกลัว

 

………………………………………….