ไม่ว่าจะเป็นมัตสึโมโตะโยชิโตะ หรือว่าทากาฮาชิมาจิ พวกเขาต่างคิดไม่ออก เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่เกียวโตกันแน่

แต่มัตสึโมโตะโยชิโตะฉลาดกว่าทากาฮาชิมาจิ

เมื่อเขาติดต่อท่านนินจาใหญ่อิงะไม่ได้ ถึงแม้เขาจะคิดไม่ออกว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ตระหนักได้ทันที คงมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบโทรศัพท์หาคนอื่นๆของตระกูลอิงะทันที เมื่ออีกฝ่ายรับโทรศัพท์ เขาก็ถามพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของท่านนินจาใหญ่อิงะทันที

แต่คนของตระกูลอิงะก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เกียวโตเหมือนกัน

พวกเขาก็ติดต่อท่านนินจาใหญ่อิงะไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว

ในเวลานี้ มัตสึโมโตะโยชิโตะตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

เขาเดินไปมาในห้องนั่งเล่นด้วยความประหม่า และขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา แม้แต่นิ้วที่ถือซิการ์อยู่ ก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้

น้องชายของเขาที่ชื่อมัตสึโมโตะโยชิซุเกะเห็นเขาประหม่ามากๆ รีบพูดปลอบใจทันที:”พี่ชาย คุณอย่าพึ่งตื่นตระหนก ถ้าคุณยังตื่นตระหนกอยู่แบบนี้ พวกเราก็ไม่รู้จะจัดการเรื่องที่เหลือยังไง !”

สิ่งที่แต่งต่างจากทากาฮาชิมาจิคือ เป้าหมายของทากาฮาชิมาจิคืออิโตะนานาโกะ และมันไม่เกี่ยวกับตระกูลซู ดังนั้นไม่ว่าความลับของเขาจะถูกเปิดเผยหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร

ความแข็งแกร่งของสองตระกูลเท่าเทียมกัน ดังนั้นเขาไม่กลัวนางาฮิโกะอิโตะอยู่แล้ว

แต่มัตสึโมโตะโยชิโตะรู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าความลับของตัวเองถูกเปิดเผย เขาไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับตระกูลใหญ่ๆอย่างตระกูลซู ยังต้องเผชิญหน้ากับตระกูลอิโตะกับตระกูลทากาฮาชิด้วย

ดังนั้น เขาก็เลยสูบซิการ์ไปคำหนึ่งและพูดกับมัตสึโมโตะโยชิซุเกะ:”การเดิมพันครั้งนี้ ฉันได้ทุ่มทุกอย่างที่พวกเรามีไปจนหมด ถ้าพวกเราชนะ ตระกูลมัตสึโมโตะจะกลายเป็นตระกูลใหญ่ๆของญี่ปุ่น ถ้าพวกเราแพ้ ตระกูลมัตสึโมโตะจะถูกตระกูลซูกับตระกูลอิโตะและตระกูลทากาฮาชิทั้งสามตระกูลนี้แก้แค้นและฆ่าล้างตระกูลอย่างแน่นอน!”

ขณะพูด เขาไม่สามารถซ่อนความกังวลในใจได้และพูด:”ตอนนี้ติดต่อท่านนินจาใหญ่อิงะไม่ได้ ไม่รู้ว่าซูจือเฟยกับซูจือหยูยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว ฉันยังไม่รู้ว่าความลับของพวกเราโดนเปิดเผยหรือยัง ถ้ายังไม่ถูกเปิดเผย ก็ไม่เป็นไร พวกเราก็แค่เสียแผนการที่จะใส่ร้ายป้ายสีนางาฮิโกะอิโตะเฉยๆ แต่ถ้าถูกเปิดเผย งั้นพวกเราคงไม่มีทางรอดแน่นอน”

มัตสึโมโตะโยชิซุเกะรีบถามทันที:”พี่ชาย! ตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้ว่าความลับถูกเปิดเผยหรือเปล่า พวกเราจะนั่งรอผลลัพธ์เฉยๆแบบนี้เหรอ? ถ้าทำแบบนี้พวกเราจะเสียเปรียบมากๆ? ถึงแม้พวกเราจะต้องตาย พวกเราก็ต้องหาวิธีตอบโต้ พวกเราไม่ควรยอมแพ้แบบนี้!”

มัตสึโมโตะโยชิโตะครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ กัดฟันตัวเองและพูดอย่างเย็นชา:”พวกเราต้องตอบโต้อย่างแน่นอน! เมื่อเดิมพันครั้งแรกยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะอยู่หรือตาย งั้นก็เดิมพันครั้งที่สองเลย!”

มัตสึโมโตะโยชิซุเกะรีบถามทันที:”พี่ชาย เดิมพันครั้งที่สองยังไง?”

มัตสึโมโตะโยชิโตะพูดอย่างโหดเหี้ยม:”ฉันขอเดิมพันว่าตระกูลซูยังไม่รู้ความลับของพวกเรา! ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราก็ใช้กำลังทั้งหมดของตระกูล ไปฆ่าทากาฮาชิมาจิกับนางาฮิโกะอิโตะก่อน! ถ้าฆ่าพวกเขาสองคนได้ พวกเราก็จะมีโอกาสกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น!”

“อ้า? ฆ่าพวกเขาสองคน?”มัตสึโมโตะโยชิซุเกะถามด้วยความประหลาดใจ:”พวกเราไม่หาวิธีต่อสู้กับตระกูลซูเหรอ?”

มัตสึโมโตะโยชิโตะส่ายหัว:”คิดจะต่อสู้กับตระกูลซู มันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ด้วยกำลังที่พวกเขามีอยู่ ถ้าเป้าหมายของพวกเขาคือพวกเรา พวกเราไม่มีทางสู้ได้อย่างแน่นอน”

ขณะพูด มัตสึโมโตะโยชิโตะก็พูดอีกครั้ง:”อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทากาฮาชิมาจิน่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุด นินจาของเขาตายไปหลายคน และลูกชายก็ตายด้วย ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าเขา! บอกให้ตระกูลอิงะส่งนินจาหลายๆคนไปเอาชีวิตของเขา! ยังไงก็ตาม ตอนนี้นินจาของตระกูลอิงะก็ลงเรือลำเดียวกับพวกเราแล้ว!”

มัตสึโมโตะโยชิซุเกะถามอีกครั้ง:”แล้วนางาฮิโกะอิโตะละ? จะฆ่าเขายังไง? ดูเหมือนเขาจะไม่สูญเสียยอดฝีมือเลย!”

มัตสึโมโตะโยชิโตะกัดฟันพูด:”คงต้องเอาชนะเขาด้วยสมอง! ไปลักพาตัวสมาชิกหลายๆคนในครอบครัวของกรมตำรวจนครบาล และบังคับให้ตำรวจพวกนี้ไปที่บ้านของนางาฮิโกะอิโตะ ไปพูดกับนางาฮิโกะอิโตะว่าให้เขาไปที่กรมตำรวจนครบาลเพื่อช่วยเหลือการสืบสวนเรื่องที่พี่น้องตระกูลซูโดนลักพาตัว ถ้าเขาออกจากบ้าน พวกเราก็จะมีโอกาสลงมือฆ่าเขา!”

มัตสึโมโตะโยชิซุเกะถามเพิ่มเติม:”พี่ชาย ถ้าตระกูลซูรู้ความลับของพวกเราจะทำยังไงดี?”

สีหน้าของมัตสึโมโตะโยชิโตะแสดงความโหดเหี้ยมและพูด:”ถ้าพวกเขารู้ความลับจริงๆ พวกเราต้องตายแน่ๆ ทำไมพวกเราถึงไม่ทำให้ทากาฮาชิมาจิกับนางาฮิโกะอิโตะตายไปพร้อมกับพวกเราล่ะ?”