เหตุผลที่เย่เฉินตามมาด้วย ก็เพราะเห็นแก่หน้าของอิโตะ นานาโกะ และคิดอยากช่วยเหลืออะไรบ้าง
แต่เนื่องจากนางาฮิโกะ อิโตะตัดขาไปแล้วและไม่มีอันตรายถึงชีวิต แบบนั้นก็ไม่มีที่สำหรับเขาที่จะช่วยเหลืออีกต่อไป เขาเองก็ไม่อยากจะเข้าไปพบกับนางาฮิโกะ อิโตะ หลีกเลี่ยงความอึดอัด
อิโต นานาโกะเมื่อเห็นดังนั้นก็ไม่รบเร้าต่อ เธอเอ่ยด้วยเสียงอ่อนนุ่ม “เย่เฉินซัง อย่างนั้นคุณกรุณารอที่นี่สักครู่ ฉันจะเข้าไปหาคุณพ่อ!”
เย่เฉินพยักหน้า “ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
อิโตะ นานาโกะพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นจึงเข้าไปที่ห้องผู้ป่วยพร้อมกับเอมิ นานาโกะผู้เป็นป้า
ในห้องผู้ป่วย นางาฮิโกะ อิโตะเพิ่งจะตื่นขึ้นได้ไม่นาน
หลังการตัดขาทั้งสองข้าง แพทย์ได้ใช้เครื่องPain pumpให้กับเขา ดังนั้นตอนนี้โดยพื้นฐานแล้วเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด อย่างไรก็ตามเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับอิโตะ นานาโกะที่อยู่ไกลออกไปในเกียวโตอยู่ตลอด ดังนั้นจึงนอนไม่หลับ
เมื่อครู่เขาฝันว่า นานาโกะประสบอุบัติเหตุที่เกียวโต นางาฮิโกะ อิโตะก็ตื่นขึ้นมาทันทีและคิดอยากจะรีบบอกเอมิ นานาโกะผู้เป็นน้องสาวของเขาอย่างรวดเร็วให้ส่งคนไปรับนานาโกะกลับมาที่โตเกียวโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาแม้กระทั่งในฝันก็ยังคิดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่ประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิดออก คนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเอมิ นานาโกะผู้เป็นน้องสาว กลับเป็นลูกสาวสุดที่รักของเขา อิโต นานาโกะ!
“นานาโกะ?!” นางาฮิโกะ อิโตะโพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจ “ทำไมลูกถึงอยู่ที่นี่ได้?”
อิโตะ นานาโกะ เห็นว่าพ่อของตนนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลสีหน้าซีดขาวไร้สีเลือด ขาทั้งสองถูกพันด้วยผ้าก๊อซหนา ขาที่อยู่ใต้เข่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอก็หลั่งน้ำตาออกมาและร้องไห้เอ่ยขึ้นมา “โอโต้ซัง!”
พูดจบ เธอก็วิ่งไปที่เตียงผู้ป่วย จากนั้นจึงคว้ามือของนางาฮิโกะ อิโตะและร้องไห้อย่างขมขื่น
นางาฮิโกะ อิโตะเพิ่งจะได้สติกลับมา เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าอย่างปลอดภัย เขาก็สบายใจและค่อยโล่งใจขึ้นมา ใบหน้ายินดีขึ้นมา “นานาโกะ โอโต้ซัง คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะยังมีโอกาสมีชีวิตได้เห็นหน้าลูกอีก ในตอนนี้ ได้เห็นลูกอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างล้วนคุ้มค่าแล้ว… ”
อิโตะ นานาโกะเอ่ยร้องไห้ “โอโต้ซัง คุณได้รับความทุกข์… ”
อิโตะพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ ไม่ ไม่ นานาโกะ ในใจของโอโต้ซังรู้ดี การอยู่รอดก็ถือว่าเป็นโชคดีที่สุดแล้ว ในใจของโอโต้ซังตอนนี้เต็มอิ่มอย่างยิ่ง!”
พูดไป เขาก็ค่อยนึกจำรายละเอียดขึ้นมาได้และอุทานออกมา “นานาโกะ ขาของลูกทำไม…ทำไมถึงเดินได้แล้ว?”
อิโตะ นานาโกะเอ่ยสะอื้น “โอโต้ซัง เมื่อคืนนี้ นานาโกะเกือบตายด้วยคมมีดของนินจาฟูจิบายาชิ… ”
“อะไรนะ?!” นางาฮิโกะ อิโตะตกใจหน้าซีด เขาโพล่งออกมา “นินจาฟูจิบายาชิไปลอบสังหารลูก?”
“อืม!” อิโตะ นานาโกะพยักหน้าอย่างแรงและพูดว่า “ตระกูลฟูจิบายาชิส่งนินจาหกคนไปที่เกียวโตเพื่อลอบสังหารลูก… ”
“นินจาหกคน?!” นางาฮิโกะ อิโตะยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ เขาเอ่ยอย่างร้อนรนอย่างยิ่ง “ที่เกียวโตไม่ได้ทิ้งนินจาไว้ปกป้องลูก ลูกหนีรอดมาได้ยังไง?!”
อิโตะ นานาโกะรีบพูด “ต้องขอบคุณเย่เฉินซัง…เป็นเขาที่ช่วยลูกเอาไว้…”
“เย่เฉิน?!” นางาฮิโกะ อิโตะเบิกตากว้าง “คนจีนคนนั้น?!”
“ไม่ผิด!” อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ย “เป็นเย่เฉินคนจีนคนนั้น เขาไม่เพียงแต่ฆ่านินจาฟูจิบายาชิหกคนและช่วยชีวิตลูกเอาไว้ แต่ยังใช้ยาวิเศษรักษาอาการบาดเจ็บของลูกด้วย ตอนนี้ลูกหายดีเป็นปกติแล้ว อีกทั้งร่างกายยังดีขึ้นกว่าก่อนหน้าที่จะได้รับบาดเจ็บอีกด้วย!”
“จริงหรือ?!” นางาฮิโกะ อิโตะถามด้วยความเซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง “นานาโกะ ลูกไม่ได้โกหกโอโต้ซัง ใช่ไหม?”
เอมิ นานาโกะที่อยู่ด้านหนึ่งยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “พี่ชาย หรือว่าคุณไม่เห็นคะ ว่าเมื่อกี้นี้นานาโกะวิ่งเข้ามาจากประตู?”