“โอ้ใช่!” นางาฮิโกะ อิโตะดีใจอย่างมาก เขาพยักหน้าอย่างติดๆกันก่อนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ดีอย่างยิ่ง! ดีมากจริงๆ! ฉันแม้กระทั่งฝันยังหวังว่านานาโกะจะสามารถฟื้นตัวและลุกขึ้นยืนขึ้นมาอีกครั้งได้ นี่สำคัญเสียยิ่งกว่าชีวิตของฉันอีก! คิดไม่ถึงเลยว่าความหวังของฉันจะเป็นจริงแล้ว! ”
พดไป นางาฮิโกะ อิโตะก็ถามอิโตะ นานาโกะอีกครั้ง “หากพูดตามนี้ อย่างนั้นที่ลูกมาที่โตเกียว ก็น่าจะเป็นเย่เฉินที่มาส่งลูกที่นี่ใช่ไหม?”
อิโตะ นานาโกะตอบตามความจริง “ใช่ค่ะโอโต้ซัง เป็นเย่เฉินซังที่ขับรถมาจากเกียวโตตลอดทั้งคืนเพื่อส่งลูกมาที่นี่”
พูดจบ อิโตะ นานาโกะก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “อ้อใช่ค่ะโอโต้ซัง ศพขอนินจาฟูจิบายาชิทั้งหกคน ยังคงอยู่ในห้องเก็บของในลานบ้านของลูก ต้องรบกวนคุณบอกให้พ่อบ้านส่งคนไปจัดการกับพวกมันด้วย!”
“ตกลง … ” นางาฮิโกะ อิโตะถอนหายใจและคล้ายกำลังพูดกับตัวเอง “ไม่กี่วันมานี้ฉันเกลียดชังเย่เฉินเข้ากระดูกดำ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะช่วยชีวิตลูกสาวที่รักของฉันเอาไว้ อีกทั้งยังรักษาอาการบาดเจ็บของลูกสาวฉันด้วย เมื่อเทียบกันแล้ว เป็นฉันต่างหากที่ใช้น้ำใจคนต่ำ มาประเมินวิญญูชน…”
หลังจากนั้น เขาก็รีบถาม “นานาโกะ คุณเย่อยู่ที่ไหน?”
อิโตะ นานาโกะรีบตอบ “เรียนโอโต้ซัง เย่เฉินซังอยู่ข้างนอก”
นางาฮิโกะ อิโตะพยายามรีบลุกขึ้นนั่งด้วยมือทั้งสองข้างและพูดอย่างจริงจัง “เชิญคุณเย่เข้ามาเร็วเข้า ฉันอยากจะขอบคุณเขาต่อหน้า!”
อิโตะ นานาโกะลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “โอโต้ซัง เย่เฉินซังบอกว่า เขากลัวว่าคุณจะโกรธเมื่อเห็นเขา … ”
“จะเป็นไปได้ยังไง!” นางาฮิโกะ อิโตะพูดอย่างจริงจังสุดขีดว่า “ความขัดแย้งระหว่างฉันกับเขา ไม่มีอะไรมากไปกว่าเงิน4.5พันล้านดอลลาร์ แต่ว่าเขากลับช่วยชีวิตลูกเอาไว้! ในสายตาของโอโต้ซัง ชีวิตของลูก อย่าว่าแต่4.5พันล้านดอลลาร์ ต่อให้เป็นสี่หมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ก็แลกกันไม่ได้! ดังนั้น คุณเย่จึงเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อ พ่ออยากจะขอบคุณเขาต่อหน้า…”
อิโตะ นานาโกะลังเลอยู่สองสามวินาทีก่อนจะเอ่ยปากขึ้น “โอโต้ซัง ลูกจะไปถามเย่เฉินซัง ถ้าเขายินยอม ลูกจะพาเขาเข้ามา”
นางาฮิโกะ อิโตะพูดขึ้นทันที “ตกลง! รีบไปเถอะ!”
อิโตะ นานาโกะออกมาจากห้องผู้ป่วยและเดินไปหาเย่เฉิน
เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจอยู่บ้าง “ทำไมเธอออกมาเร็วจัง?”
อิโตะ นานาโกะเอ่ยขึ้นอย่างอึกๆอักๆ “เย่เฉินซัง…คุณพ่อเขา…เขา…เขาต้องการพบคุณ…”
เย่เฉินยิ้มอย่างอึดอัดขึ้นมาหลายส่วน “เขาเพิ่งผ่าตัดขาเสร็จ ต่อให้ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ร่างกายยังคงอ่อนแออยู่ เวลานี้หากพบฉัน คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่มั้ง?”
อิโตะ นานาโกะรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ! คุณพ่อเขาอยากจะขอบคุณเย่เฉินซังต่อหน้า! ขอบคุณเย่เฉินซังที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้และรักษาอาการบาดเจ็บของฉัน”
เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง “พ่อของเธอพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
“ใช่ค่ะ” อิโตะ นานาโกะพยักหน้าอย่างหนักแน่นและเอ่ย “ฉันขอเอาคุณธรรมของฉันมารับประกันให้เย่เฉินซัง!”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆและพูดอย่างใจกว้าง “ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นฉันก็ไปเจอคุณอิโตะสักหน่อยแล้วกัน”
จากนั้น เย่เฉินก็ตามอิโตะ นานาโกะไปยังห้องผู้ป่วยของนางาฮิโกะ อิโตะ
ทันทีที่เขาเข้าไปในน้อง นางาฮิโกะ อิโตะก็นั่งขึ้นด้วยความช่วยเหลือของเอมิ นานาโกะ จากนั้นจึงประสานมือทั้งสองไปทางเย่เฉินเพื่อแสดงความเคารพ ก่อนจะพูดด้วยท่าทีเคร่งครัดอย่างยิ่ง “คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตลูกสาวตัวน้อยของผม อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเธอ บุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ ตระกูลอิโตะจะไม่มีวันลืม!”
เย่เฉินคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าทัศนคติของนางาฮิโกะ อิโตะจะดีขนาดนี้ ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงตกตะลึงไปเล็กน้อย
จากนั้นไม่นาน เขาก็ค่อยยิ้มออกมาและพูดว่า “คุณอิโตะเกรงใจแล้ว ผมกับนานาโกะเป็นเพื่อนกัน นี่คือสิ่งที่ผมสมควรทำ”