เมื่อเห็นว่าเย่เฉินกล้าเดินออกไปทั้งอย่างนี้ เย่ฉางหมิ่นก็ตะโกนไล่หลังเสียงดังว่า “เย่เฉิน!ฉันยังไม่อนุญาตให้แกไปไหน แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาหนีไปแบบนี้! ฉันเป็นผู้ใหญ่ เป็นอาของแก แกกล้าดูหมิ่นฉันแบบนี้ ฉันจะให้แกชดใช้!”

เย่เฉินไม่สนใจ

ในสายตาของเขา คุณอาคนนี้ คือคนโง่เขลาที่ถูกคนอื่นโอ๋จนเสียนิสัย

ไม่ว่าตอนไหนก็วางตัวสูงส่งและหยิ่งยโส ทั้งๆที่มาทำตามคำสั่งของคุณท่าน แต่กลับมัวแต่วางท่าและเห็นแก่หน้าตัวเอง คนแบบนี้ ต่อให้อยู่ในตระกูลเย่ ก็เปล่งประกายได้ยาก

ดังนั้น เย่เฉินจึงขี้เกียจเสียเวลากับเธอแล้ว

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เย่เฉินก็เดินไปจากสวนดอกไม้กลางอากาศทันที

เฉินจื๋อข่ายรีบเดินเข้ามาหา แล้วเอ่ยพูดอย่างประหม่าว่า “คุณชาย ทำไมคุณทำอย่างนี้ ถ้าหากคุณหญิงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องคุณท่าน สถานการณ์จะไม่นิ่งเอาได้นะครับ!”

“แล้วยังไง?” เย่เฉินหัวเราะหึออกมา “อย่าไปมองว่าเธอคือคนของตระกูลเย่เลย ความจริงแล้วเธอก็แค่หมารับใช้ของตาแก่นั่นเท่านั้น ถ้าเธอจะกัดฉัน ก็ต้องดูที่เจตนาของตาแก่แล้วล่ะ ถ้าตาแก่คิดจะเล่นงานฉันจริงๆ งั้นก็ปล่อยให้เขาเปิดศึกได้เต็มที่!”

พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ที่ตอนนี้ฉันแค่ด่าเธอ ไม่ได้ทำร้ายหรือฆ่าแกงเธอ นั่นก็เพราะเห็นแก่ความเป็นสายเลือดเดียวกัน แต่ถ้าหากพวกเขาเป็นฝ่ายลงมือก่อน ฉันก็จะไม่สนใจสายเลือดอะไรนี้แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นใครในตระกูลเย่ ถ้าบังอาจกล้ามาเห่าหอนต่อหน้าฉัน ฉันก็จะกำจัดทิ้งซะ! ถ้าใครกล้าเล่นงานคนรอบตัวฉัน ฉันก็จะเอาให้ถึงชีวิต!!”

ในวินาทีนี้ ร่างกายของเย่เฉินกำลังพลุ่งพล่านไปด้วยไอสังหาร

เฉินจื๋อข่ายที่อยู่ข้างๆทำเพียงถอนหายใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้

ในตอนนี้ จริงๆแล้วสิ่งที่เขากังวลไม่ใช่เรื่องที่ตระกูลเย่จะทำยังไงกับเย่เฉินในอนาคต แต่เขากังวลว่า ถ้าหากตระกูลเย่ทำให้เย่เฉินเดือดไปมากกว่านี้ เย่เฉินคงไม่ปล่อยตระกูลเย่ไปแน่ๆ

ถ้าหากต้องลงมือกันจริงๆ เกรงว่าตระกูลเย่จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเย่เฉินเท่าไหร่

เขาพาเย่เฉินมาส่งที่หน้าทางออกโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง จากนั้นก็พูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชาย จะไปไหนครับ? ผมจะไปส่ง”

เย่เฉินโบกมือ “ไม่ต้อง ถ้านายไปส่งฉันตอนนี้ เดี๋ยวคนตระกูลเย่จะสงสัย นายไปดูเย่ฉางหมิ่นเถอะ ฝากจับตาดูด้วยว่าต่อไปเธอจะวางแผนทำอะไร”

เฉินจื๋อข่ายพยักหน้า “คุณชาย งั้นผมไปดูอาคุณก่อนนะครับ”

เย่เฉินเอ่ยเตือนเขาว่า “คาดการณ์เวลากลับของเย่ฉางหมิ่นไว้หน่อยก็ดี ดูว่าเธอจะกลับตอนไหน นอกจากนี้ ต้องกันอย่าให้เธอเจอเมียฉันเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

เฉินจื๋อข่ายนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยืนตัวตรงทำความเคารพว่า “คุณชายไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจแล้วครับ!”

เย่เฉินไม่เคยเห็นเย่ฉางหมินอยู่ในสายตา แต่กระนั้นเขาก็กังวลว่าเย่ฉางหมิ่นจะคิดหาวิธีอื่นเข้าจู่โจม

เธอต้องการให้เขาเป็นฝ่ายขอหย่ากับเซียวชูหรันก่อน จากนั้นก็ให้กลับไปที่ตระกูลเย่ แต่เขาปฏิเสธเธอ หลังจากนั้น ถ้าเธอไปหาภรรยาของเขาแทน แบบนั้นสำหรับเขา ก็ถือว่าเริ่มยุ่งยากแล้ว

เพราะถึงยังไง ตอนนี้เซียวชูหรันก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

อีกอย่างเขาก็ยังไม่พร้อมให้เธอรู้

อย่างน้อย ในระหว่างที่เขายังสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่และยังแก้แค้นให้ไม่ได้ เขาก็ไม่อยากให้ภรรยารู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

หลังจากที่เย่เฉินกลับไป เฉินจื๋อข่ายก็กลับเข้ามาในสวนดอกไม้กลางอากาศอีกครั้ง

จึงพบว่าเย่ฉางหมิ่นในเวลานี้ระเบิดตัวเองอยู่กับที่ไปแล้ว