ในฟ้าดารา คาวเลือดคละคลุ้ง เข้มข้นบาดตา
เงาร่างของหลินสวินราวกับเรือเล็กกลางมหาสมุทรอันเดือดดาล พร้อมจมลงได้ตลอดเวลา
พวกที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ตอนนี้ต่างกลั้นหายใจรอคอยภาพที่หลินสวินถูกโจมตีสังหาร
แต่ตอนนี้สำหรับหลินสวิน เขามีสองตัวเลือก
หนึ่งคือทำทุกวิถีทาง ใช้อภินิหารหยุดเวลา
แต่ก็สามารถคว้าโอกาสได้เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น แม้ฆ่าศัตรูตรงหน้าให้ตายได้ทั้งหมด แต่ในจุดที่ไกลกว่ายังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราจำนวนมากที่สามารถพุ่งมาได้ตลอดเวลา
อีกอย่างคือฉวยโอกาสทะลวงระดับเต็มกำลัง ชักนำด่านเคราะห์แห่งการบรรลุจักรพรรดิ เปิดเส้นทางนิพพานบรรลุจักรพรรดิระหว่างความเป็นความตาย!
แฮ่ก… แฮ่ก…
เขาหายใจหอบ ในดวงตาดำปรากฏความเด็ดเดี่ยว
ยื้อต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีโอกาสอีก
ตูม!
สัตว์ประหลาดที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้าตัวหนึ่งโจมตีเข้ามา ทำให้หลินสวินไม่ลังเลอีกต่อไป
แต่ก็ตอนนี้เอง…
รุ้งเทพสีเงินพร่างพราวสายหนึ่งทะลวงผ่านฟ้าดาราเข้ามาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ แหวกผ่านเงาร่างสัตว์ประหลาดฟ้าดาราแน่นขนัด
ปัง!
สัตว์ประหลาดซึ่งเทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้าที่พุ่งเข้าหาหลินสวินนั่นถูกทะลวงผ่านโดยตรง ร่างมหึมาระเบิดแหลกโดยพลัน กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
รุ้งเทพสีเงินที่พร่างพราวนั่น เห็นได้ชัดว่าเป็นทวนกระดูกเล่มหนึ่ง ล้อมรอบด้วยประดายดาราที่ราวกับภาพฝันมายา ลึกลับและทำให้คนใจสั่น
ส่วนหลินสวิน คุ้นกับทวนกระดูกขาวนี้เกินไปแล้ว!
ตั้งแต่ยามออกจากคุกใต้เหมืองเมื่อครั้งยังเด็ก ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านเฟยอวิ๋น เขาก็เคยเห็นทวนกระดูกขาวนี่แล้ว
เขาพลันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าฟ้าดาราไกลลิบ เงาร่างสูงเพรียวสายหนึ่งอาบอยู่ในความมืด เสื้อผ้าพลิ้วไหว กำลังพุ่งทะยานมาทางตน
นางเหมือนกับตอนนั้น ทั่วร่างอยู่ภายใต้อาภรณ์สีดำ หมวกม่านบดบังใบหน้า
แต่นางไม่เหมือนตอนนั้นนานแล้ว เงาร่างสูงเพรียวแบบบาง ยามก้าวเดินมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สันโดษเย็นชา
ในใจหลินสวินรู้สึกผิดคาดอย่างไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้โดยพลัน จากนั้นทั้งตัวพลันตื่นเต้นขึ้นมา ในแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและดีใจ
ซย่าจื้อ!
นาง…
มาได้อย่างไร
นี่เหลือเชื่อเกินไป ควรรู้ว่าที่นี่เป็นถึงแดนปรินิพพาน แต่ซย่าจื้อกลับมาจากฟ้าดาราไกลออกไป
“เอ๋!”
การปรากฏตัวของซย่าจื้อทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่กำลังโศกเศร้าตาเป็นประกาย ราวกับมองเห็นเทพช่วยชีวิตคนหนึ่งปรากฏตัว ทั้งร่างล้วนเดือดพล่านขึ้นมา
ในที่สุดก็เกิดความพลิกผันแล้ว!
ส่วนที่อื่นๆ ของกำแพงเมืองหมื่นมรรค พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่รอคอยให้หลินสวินตายต่างรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน
“นางเป็นใคร”
“เหตุใดจึงพุ่งออกมาจากฟ้าดาราในยามนี้”
“สมควรตาย! เจ้าหมอนั่นรอดไปได้อีกครั้งแล้ว!”
เสียงที่ปะปนความประหลาดใจ เดือดดาล และอัดอั้นดังขึ้น ชั่วขณะนี้สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไหร่ขึ้งโกรธ ถึงขั้นมีความคิดอยากจะฆ่าคนแล้ว
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อซย่าจื้อสักนิด
นางเดินมากลางอากาศ ราวกับแสงมืดมิดลอดผ่านฟ้าดาราอันกว้างใหญ่ ทั่วร่างกายแผ่กลิ่นอายที่อันตรายอย่างที่สุดออกมา
ชิ้ง!
ทวนกระดูกขาวโฉบพุ่ง ราวกับแม่น้ำยาวสีเงินพร่างพราว พริบไหวตามใจคราหนึ่งก็ทะลุผ่านศีรษะของสัตว์ประหลาดฟ้าดารา นำพาฝนเลือดท่วมฟ้า
หลายปีมานี้นางหนึ่งคนหนึ่งทวนต่อสู้อยู่ในโลกรกร้างแห่งนั้น สังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเช่นนี้ไปไม่รู้เท่าไหร่ คุ้นเคยกับพลังต่อสู้และจุดอ่อนของพวกมันนานแล้ว
ก็เห็นว่าเมื่อนางเคลื่อนตัวมา สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่พบเจอระหว่างทางยังไม่ทันขวางหรือโต้ตอบ ก็ถูกนางใช้วิธีอันเด็ดขาดกำราบสังหารแล้ว
ชั่วขณะเดียวในฟ้าดาราฝนเลือดโปรยปราย เสียงโหยหวนสะเทือนฟ้า สัตว์ประหลาดฟ้าดาราระดับจักรพรรดิแต่ละตัวถูกสังหารคาที่
ทุกที่ที่นางผ่าน ล้วนปูด้วยเลือด!
“เป็นไปได้อย่างไร นาง… นางเป็นใครกันแน่”
“คงไม่ใช่เศษเดนคีรีดวงกมลกระมัง ไม่เช่นนั้นพลังต่อสู้จะน่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร”
“น่าชังนัก…”
มองเห็นแต่ละภาพเหล่านี้ ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นไม่สามารถสงบได้ แต่ละคนทั้งอึ้งทั้งโกรธ ไม่อาจเชื่อได้
เงาร่างที่พุ่งออกมาจากในฟ้าดารา หญิงลึกลับที่อาบอยู่ในเงาแสงมืดมน กลับมาเยือนด้วยการเหยียบย่างบนศพของสัตว์ประหลาดฟ้าดารา
พลังต่อสู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
นางเป็นใคร
มาจากไหน
เหตุใดต้องไปช่วยเศษเดนคีรีดวงกมลนั่น
ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจพวกเขา
และพอเห็นภาพเหล่านี้ หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เผยรอยยิ้มแล้ว
ซย่าจื้อยังคงแข็งแกร่งเหมือนตอนนั้น สร้างความตะลึงและความประหลาดใจให้ตนได้ทุกครั้งไป
ตูมโครม!
ห้วงอากาศสั่นไหว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ล้อมโจมตีหลินสวินล้วนถูกสังหารสิ้นซาก เลือดและศพมากมายเกลือกกลิ้งกระจัดกระจาย
ส่วนซย่าจื้อมาถึงตรงหน้าหลินสวินแล้ว
เงาร่างอ่อนช้อยงดงามรอบล้อมด้วยแสงประกายมืดมิดอันคลุมเครือ อาภรณ์สีดำโบกสะบัดจนเกิดเสียง ทวนกระดูกขาวส่องประกาย ขับให้นางราวกับเทพที่เดินออกจากความมืด
นางยืนอยู่ตรงนั้น เงาร่างสูงเท่าหลินสวินแล้ว กลิ่นอายเข่นฆ่าที่แผ่ออกจากทั่วร่างทำให้หลินสวินลอบตกใจ
ไม่กล้าจินตนาการว่าหลายปีมานี้ ซย่าจื้อที่อยู่ตรงหน้าผ่านการเข่นฆ่าและต่อสู้มาเท่าไหร่ ถึงขัดเกลาอานุภาพที่น่ากลัวยิ่งยวดเช่นนี้ออกมาได้
“หลินสวิน เจ้าบาดเจ็บแล้ว”
ซย่าจื้อเอ่ยปาก เสียงกระจ่างราบเรียบดุจเสียงสวรรค์
หลินสวินกดความตื่นเต้นในใจ ยกมือคิดจะลูบศีรษะของหญิงสาว แต่เพิ่งพบว่านางสูงเท่าตนนานแล้ว
ซย่าจื้อย่อตัวลงเล็กน้อย
หลินสวินอึ้งไป ยกมือวางบนศีรษะของนางอย่างเป็นธรรมชาติ แม้ผ่านไปหลายปี แต่ในใจเขา ซย่าจื้อที่อยู่ตรงหน้ายังคงเป็นเด็กสาวในตอนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ชั่วขณะหนึ่งความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว ความทรงจำในตอนนั้นพวยพุ่งขึ้นในใจ
“หลินสวิน เจ้ารักษาบาดแผลก่อน ข้าไปฆ่าศัตรูเอง ตั้งแต่นี้ไป ไม่ว่าใครคิดทำร้ายเจ้า ก็ต้องถามความยินยอมของข้าก่อน”
ประโยคเดียวของซย่าจื้อทำให้หลินสวินได้สติจากภวังค์ความคิด ไม่รอเขาตอบสนอง ซย่าจื้อก็หมุนตัวพุ่งไปยังฟ้าดาราไกลออกไปแล้ว
หลินสวินไม่รู้ว่าตอนเห็นเขาตัวอาบเลือด บาดแผลเต็มตัว ในใจซย่าจื้อเกิดความเดือดดาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขายิ่งไม่รู้ว่าหลายปีมานี้ ต่อให้เป็นตอนที่ตัวซย่าจื้อเองเผชิญความตาย ก็ไม่เคยเดือดดาลขนาดนี้มาก่อน
ทุกอย่างล้วนเพราะเขา
โกรธเพราะเจ้า สู้เพื่อเจ้า!
ยามเห็นเงาร่างของซย่าจื้อพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง เข้าสังหารฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ถูกพลังระเบียบสกัดกั้นในฟ้าดาราไกลออกไป สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคยังล้วนรู้สึกงุนงงอย่างอดไม่ได้
ขึ้นไป… สังหารหรือ
นั่นเป็นถึงฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนสิ้นหวังเชียวนะ!
ในใจหลินสวินเองก็บีบรัดระลอกหนึ่ง จับตามองอย่างใกล้ชิด
การต่อสู้ปะทุขึ้น เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้น ซย่าจื้อคนเดียวดูเล็กจ้อยอย่างที่สุด แต่ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่นางเผยออกมา กลับทำให้ทุกคนตกใจ
ไม่มีแสงมรรคที่พร่างพราวสะดุดตา ไม่มีอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน การเคลื่อนไหวของนางเรียบง่ายเด็ดขาด ทวนเล่มเดียว ทั้งแทง ทั้งผ่า ทั้งกวาด ทั้งทะลวง… มองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมหัศจรรย์ใดๆ
แต่ก็เป็นวิธีต่อสู้เช่นนี้ ที่สร้างลมคาวฝนเลือดบนฟ้าดารานั่น
ร่างของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวแล้วตัวเล่าระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ในอากาศ ฝนเลือดสาดพรมราวกับน้ำตก เสียงโหยหวนไม่ขาดสาย
สัตว์ประหลาดที่เทียบเท่าระดับจักรพรรดิเหล่านั้น ไม่ว่าพลังต่อสู้สูงหรือต่ำ ล้วนถูกซย่าจื้อใช้ทวนสังการทั้งหมด
เด็ดขาดเพียงนี้ ทั้งดุดันและแข็งกร้าวเช่นนี้!
นี่ชวนให้คนขนลุกซู่ ระดับจักรพรรดิเหล่านี้เริ่มรู้สึกใจสั่น ถูกสะท้านสะเทือน ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินสวินใช้พลังปราณของมกุฎกึ่งจักรพรรดิต่อสู้เย้ยฟ้า สังหารฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดารา ก็แทบจะล้มล้างความรู้ความเข้าใจของพวกเขาแล้ว
แต่ตอนนี้ท่าทางอันดุดันที่ซย่าจื้อเผยออกมา ถึงขั้นทำให้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นต่างรู้สึกต้อยต่ำ ตกใจและหนาวเยือก
นาง… เป็นใครกันแน่
ไม่มีใครรู้
หลินสวินจ้องมองเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ในใจจึงค่อยๆ ผ่อนคลาย ย้อนกลับไปในป้อมปราการ เริ่มนั่งสมาธิ
บาดแผลที่ได้รับครั้งนี้รุนแรงเกินไป และพลังกายก็เสียไปมาก นี่ทำให้ลูกกลอนกำเนิดโลหิตที่หลินสวินสร้างออกมาเหมือนกลายเป็นเมล็ดถั่ว ถูกหลอมและใช้ไปอย่างต่อเนื่อง
เขานั่งสมาธิพลางมองดูการต่อสู้ของซย่าจื้อ ในใจอดประหลาดใจไม่ได้ หลายปีมานี้ซย่าจื้อไปที่ไหนกันแน่!
พลังต่อสู้ของนางแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ควรรู้ว่าปีนั้นที่ซย่าจื้อจากไป คือก่อนหลินสวินจะปิดด่านในทะเลหมากดาราในดินแดนรกร้างโบราณ เพื่อเตรียมเข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุน
ถ้านับจากตอนนั้น ซย่าจื้อจากไปนานหลายสิบปีแล้ว
แต่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบปี กลับทำให้ซย่าจื้อเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นนี้ นี่เห็นชัดว่าเหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย
“สหายน้อย ไม่คิดว่าเจ้าจะรอดมาได้จริงๆ ดีเกินไปแล้ว!”
เสียงที่ทั้งตื่นเต้นและดีใจของจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงดังมาจากไกลๆ
“ข้าบอกแล้วว่าจะไม่ให้พวกเฒ่าชราที่รอคอยให้ข้าตายสมปรารถนา”
หลินสวินยิ้ม เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงจับตามองการต่อสู้มาโดยตลอดด้วยกังวลแทนเขา
“เฮ้อ พูดตามจริง ก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกสิ้นหวังแล้ว แต่การปรากฏตัวของแม่นางคนนั้นช่างราวกับฟ้าประทานดาวช่วยชีวิต ทำเอาข้ายังอึ้งงัน…”
บ่นอยู่ครู่ใหญ่ จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่คึกคักถึงเพิ่งเอ่ยว่า “จริงสิ แม่นางคนนั้นเป็นเทพมาจากไหนกันแน่”
“ซย่าจื้อ” หลินสวินพูดสั้นๆ
คำสั้นๆ สองคำ แต่ชื่อนี้ได้มอบพลังอันไร้ที่เปรียบในใจเขานานแล้ว จึงสำคัญอย่างที่สุด
“ซย่าจื้อ…” จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงขมวดคิ้วใคร่ครวญอยู่นาน ก็นึกไม่ออกว่าทั่วหล้าฟ้าดารานี้มีบุคคลที่สุดยอดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
แม้แต่ในหมู่ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ก็ไม่มีคนชื่อนี้
อีกอย่างสิ่งที่ทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อคือ ซย่าจื้อคนนี้ทะยานมาจากฟ้าดาราไกลโพ้น ไม่ใช่คนที่อยู่ในแดนปรินิพพาน!
ทว่าแม้ในใจจะสงสัย จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็ไม่ได้ถามมากความ
หนึ่งเค่อหลังจากนั้น
บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคเงียบสงัด สัตว์ประหลาดเฒ่านับไม่ถ้วนตกอยู่ในความตะลึงยิ่งยวด แต่ละคนเปลี่ยนเป็นเงียบกริบ
ในฟ้าดารานั่น สัตว์ประหลาดฟ้าดารานับร้อยถูกสังหารจนกระจัดกระจาย สุดท้ายพ่ายแพ้ยับเยิน หนีไปยังส่วนลึกของฟ้าดารา
ใช่แล้ว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เหี้ยมโหดกระหายเลือดนั่น ถูกสังหารจนหนีไปในหนึ่งเค่อนี้!
นี่เป็นเรื่องสะท้านสะเทือนอย่างแท้จริง ปกปักษ์กำแพงเมืองหมื่นมรรคมาเจ็ดปี เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่มีเพียงการรับรู้ตามสัญชาตญาณหนี…
และตอนนี้ซย่าจื้อถือทวนเดินมายังป้อมปราการที่หลินสวินอยู่ เงาร่างชดช้อยแบบบางล้อมด้วยความมืดมิด ดุจเทพดั่งเซียน
เพียงแต่ยามนางจะเข้าใกล้ป้อมปราการที่หลินสวินอยู่ ร่างกายกลับสั่นเล็กน้อย ถูกพลังระเบียบอันยิ่งใหญ่ทรงพลังขวางกั้นไว้ด้านนอก
………………………..