ตอนที่ 2177 โกรธเพราะเจ้า สู้เพื่อเจ้า

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ในฟ้าดารา คาวเลือดคละคลุ้ง เข้มข้นบาดตา

เงาร่างของหลินสวินราวกับเรือเล็กกลางมหาสมุทรอันเดือดดาล พร้อมจมลงได้ตลอดเวลา

พวกที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ตอนนี้ต่างกลั้นหายใจรอคอยภาพที่หลินสวินถูกโจมตีสังหาร

แต่ตอนนี้สำหรับหลินสวิน เขามีสองตัวเลือก

หนึ่งคือทำทุกวิถีทาง ใช้อภินิหารหยุดเวลา

แต่ก็สามารถคว้าโอกาสได้เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น แม้ฆ่าศัตรูตรงหน้าให้ตายได้ทั้งหมด แต่ในจุดที่ไกลกว่ายังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราจำนวนมากที่สามารถพุ่งมาได้ตลอดเวลา

อีกอย่างคือฉวยโอกาสทะลวงระดับเต็มกำลัง ชักนำด่านเคราะห์แห่งการบรรลุจักรพรรดิ เปิดเส้นทางนิพพานบรรลุจักรพรรดิระหว่างความเป็นความตาย!

แฮ่ก… แฮ่ก…

เขาหายใจหอบ ในดวงตาดำปรากฏความเด็ดเดี่ยว

ยื้อต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีโอกาสอีก

ตูม!

สัตว์ประหลาดที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้าตัวหนึ่งโจมตีเข้ามา ทำให้หลินสวินไม่ลังเลอีกต่อไป

แต่ก็ตอนนี้เอง…

รุ้งเทพสีเงินพร่างพราวสายหนึ่งทะลวงผ่านฟ้าดาราเข้ามาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ แหวกผ่านเงาร่างสัตว์ประหลาดฟ้าดาราแน่นขนัด

ปัง!

สัตว์ประหลาดซึ่งเทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้าที่พุ่งเข้าหาหลินสวินนั่นถูกทะลวงผ่านโดยตรง ร่างมหึมาระเบิดแหลกโดยพลัน กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

รุ้งเทพสีเงินที่พร่างพราวนั่น เห็นได้ชัดว่าเป็นทวนกระดูกเล่มหนึ่ง ล้อมรอบด้วยประดายดาราที่ราวกับภาพฝันมายา ลึกลับและทำให้คนใจสั่น

ส่วนหลินสวิน คุ้นกับทวนกระดูกขาวนี้เกินไปแล้ว!

ตั้งแต่ยามออกจากคุกใต้เหมืองเมื่อครั้งยังเด็ก ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านเฟยอวิ๋น เขาก็เคยเห็นทวนกระดูกขาวนี่แล้ว

เขาพลันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าฟ้าดาราไกลลิบ เงาร่างสูงเพรียวสายหนึ่งอาบอยู่ในความมืด เสื้อผ้าพลิ้วไหว กำลังพุ่งทะยานมาทางตน

นางเหมือนกับตอนนั้น ทั่วร่างอยู่ภายใต้อาภรณ์สีดำ หมวกม่านบดบังใบหน้า

แต่นางไม่เหมือนตอนนั้นนานแล้ว เงาร่างสูงเพรียวแบบบาง ยามก้าวเดินมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สันโดษเย็นชา

ในใจหลินสวินรู้สึกผิดคาดอย่างไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้โดยพลัน จากนั้นทั้งตัวพลันตื่นเต้นขึ้นมา ในแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและดีใจ

ซย่าจื้อ!

นาง…

มาได้อย่างไร

นี่เหลือเชื่อเกินไป ควรรู้ว่าที่นี่เป็นถึงแดนปรินิพพาน แต่ซย่าจื้อกลับมาจากฟ้าดาราไกลออกไป

“เอ๋!”

การปรากฏตัวของซย่าจื้อทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่กำลังโศกเศร้าตาเป็นประกาย ราวกับมองเห็นเทพช่วยชีวิตคนหนึ่งปรากฏตัว ทั้งร่างล้วนเดือดพล่านขึ้นมา

ในที่สุดก็เกิดความพลิกผันแล้ว!

ส่วนที่อื่นๆ ของกำแพงเมืองหมื่นมรรค พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่รอคอยให้หลินสวินตายต่างรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน

“นางเป็นใคร”

“เหตุใดจึงพุ่งออกมาจากฟ้าดาราในยามนี้”

“สมควรตาย! เจ้าหมอนั่นรอดไปได้อีกครั้งแล้ว!”

เสียงที่ปะปนความประหลาดใจ เดือดดาล และอัดอั้นดังขึ้น ชั่วขณะนี้สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไหร่ขึ้งโกรธ ถึงขั้นมีความคิดอยากจะฆ่าคนแล้ว

แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อซย่าจื้อสักนิด

นางเดินมากลางอากาศ ราวกับแสงมืดมิดลอดผ่านฟ้าดาราอันกว้างใหญ่ ทั่วร่างกายแผ่กลิ่นอายที่อันตรายอย่างที่สุดออกมา

ชิ้ง!

ทวนกระดูกขาวโฉบพุ่ง ราวกับแม่น้ำยาวสีเงินพร่างพราว พริบไหวตามใจคราหนึ่งก็ทะลุผ่านศีรษะของสัตว์ประหลาดฟ้าดารา นำพาฝนเลือดท่วมฟ้า

หลายปีมานี้นางหนึ่งคนหนึ่งทวนต่อสู้อยู่ในโลกรกร้างแห่งนั้น สังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเช่นนี้ไปไม่รู้เท่าไหร่ คุ้นเคยกับพลังต่อสู้และจุดอ่อนของพวกมันนานแล้ว

ก็เห็นว่าเมื่อนางเคลื่อนตัวมา สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่พบเจอระหว่างทางยังไม่ทันขวางหรือโต้ตอบ ก็ถูกนางใช้วิธีอันเด็ดขาดกำราบสังหารแล้ว

ชั่วขณะเดียวในฟ้าดาราฝนเลือดโปรยปราย เสียงโหยหวนสะเทือนฟ้า สัตว์ประหลาดฟ้าดาราระดับจักรพรรดิแต่ละตัวถูกสังหารคาที่

ทุกที่ที่นางผ่าน ล้วนปูด้วยเลือด!

“เป็นไปได้อย่างไร นาง… นางเป็นใครกันแน่”

“คงไม่ใช่เศษเดนคีรีดวงกมลกระมัง ไม่เช่นนั้นพลังต่อสู้จะน่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร”

“น่าชังนัก…”

มองเห็นแต่ละภาพเหล่านี้ ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นไม่สามารถสงบได้ แต่ละคนทั้งอึ้งทั้งโกรธ ไม่อาจเชื่อได้

เงาร่างที่พุ่งออกมาจากในฟ้าดารา หญิงลึกลับที่อาบอยู่ในเงาแสงมืดมน กลับมาเยือนด้วยการเหยียบย่างบนศพของสัตว์ประหลาดฟ้าดารา

พลังต่อสู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!

นางเป็นใคร

มาจากไหน

เหตุใดต้องไปช่วยเศษเดนคีรีดวงกมลนั่น

ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจพวกเขา

และพอเห็นภาพเหล่านี้ หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เผยรอยยิ้มแล้ว

ซย่าจื้อยังคงแข็งแกร่งเหมือนตอนนั้น สร้างความตะลึงและความประหลาดใจให้ตนได้ทุกครั้งไป

ตูมโครม!

ห้วงอากาศสั่นไหว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ล้อมโจมตีหลินสวินล้วนถูกสังหารสิ้นซาก เลือดและศพมากมายเกลือกกลิ้งกระจัดกระจาย

ส่วนซย่าจื้อมาถึงตรงหน้าหลินสวินแล้ว

เงาร่างอ่อนช้อยงดงามรอบล้อมด้วยแสงประกายมืดมิดอันคลุมเครือ อาภรณ์สีดำโบกสะบัดจนเกิดเสียง ทวนกระดูกขาวส่องประกาย ขับให้นางราวกับเทพที่เดินออกจากความมืด

นางยืนอยู่ตรงนั้น เงาร่างสูงเท่าหลินสวินแล้ว กลิ่นอายเข่นฆ่าที่แผ่ออกจากทั่วร่างทำให้หลินสวินลอบตกใจ

ไม่กล้าจินตนาการว่าหลายปีมานี้ ซย่าจื้อที่อยู่ตรงหน้าผ่านการเข่นฆ่าและต่อสู้มาเท่าไหร่ ถึงขัดเกลาอานุภาพที่น่ากลัวยิ่งยวดเช่นนี้ออกมาได้

“หลินสวิน เจ้าบาดเจ็บแล้ว”

ซย่าจื้อเอ่ยปาก เสียงกระจ่างราบเรียบดุจเสียงสวรรค์

หลินสวินกดความตื่นเต้นในใจ ยกมือคิดจะลูบศีรษะของหญิงสาว แต่เพิ่งพบว่านางสูงเท่าตนนานแล้ว

ซย่าจื้อย่อตัวลงเล็กน้อย

หลินสวินอึ้งไป ยกมือวางบนศีรษะของนางอย่างเป็นธรรมชาติ แม้ผ่านไปหลายปี แต่ในใจเขา ซย่าจื้อที่อยู่ตรงหน้ายังคงเป็นเด็กสาวในตอนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ชั่วขณะหนึ่งความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว ความทรงจำในตอนนั้นพวยพุ่งขึ้นในใจ

“หลินสวิน เจ้ารักษาบาดแผลก่อน ข้าไปฆ่าศัตรูเอง ตั้งแต่นี้ไป ไม่ว่าใครคิดทำร้ายเจ้า ก็ต้องถามความยินยอมของข้าก่อน”

ประโยคเดียวของซย่าจื้อทำให้หลินสวินได้สติจากภวังค์ความคิด ไม่รอเขาตอบสนอง ซย่าจื้อก็หมุนตัวพุ่งไปยังฟ้าดาราไกลออกไปแล้ว

หลินสวินไม่รู้ว่าตอนเห็นเขาตัวอาบเลือด บาดแผลเต็มตัว ในใจซย่าจื้อเกิดความเดือดดาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เขายิ่งไม่รู้ว่าหลายปีมานี้ ต่อให้เป็นตอนที่ตัวซย่าจื้อเองเผชิญความตาย ก็ไม่เคยเดือดดาลขนาดนี้มาก่อน

ทุกอย่างล้วนเพราะเขา

โกรธเพราะเจ้า สู้เพื่อเจ้า!

ยามเห็นเงาร่างของซย่าจื้อพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง เข้าสังหารฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ถูกพลังระเบียบสกัดกั้นในฟ้าดาราไกลออกไป สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคยังล้วนรู้สึกงุนงงอย่างอดไม่ได้

ขึ้นไป… สังหารหรือ

นั่นเป็นถึงฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนสิ้นหวังเชียวนะ!

ในใจหลินสวินเองก็บีบรัดระลอกหนึ่ง จับตามองอย่างใกล้ชิด

การต่อสู้ปะทุขึ้น เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้น ซย่าจื้อคนเดียวดูเล็กจ้อยอย่างที่สุด แต่ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่นางเผยออกมา กลับทำให้ทุกคนตกใจ

ไม่มีแสงมรรคที่พร่างพราวสะดุดตา ไม่มีอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน การเคลื่อนไหวของนางเรียบง่ายเด็ดขาด ทวนเล่มเดียว ทั้งแทง ทั้งผ่า ทั้งกวาด ทั้งทะลวง… มองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมหัศจรรย์ใดๆ

แต่ก็เป็นวิธีต่อสู้เช่นนี้ ที่สร้างลมคาวฝนเลือดบนฟ้าดารานั่น

ร่างของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวแล้วตัวเล่าระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ในอากาศ ฝนเลือดสาดพรมราวกับน้ำตก เสียงโหยหวนไม่ขาดสาย

สัตว์ประหลาดที่เทียบเท่าระดับจักรพรรดิเหล่านั้น ไม่ว่าพลังต่อสู้สูงหรือต่ำ ล้วนถูกซย่าจื้อใช้ทวนสังการทั้งหมด

เด็ดขาดเพียงนี้ ทั้งดุดันและแข็งกร้าวเช่นนี้!

นี่ชวนให้คนขนลุกซู่ ระดับจักรพรรดิเหล่านี้เริ่มรู้สึกใจสั่น ถูกสะท้านสะเทือน ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินสวินใช้พลังปราณของมกุฎกึ่งจักรพรรดิต่อสู้เย้ยฟ้า สังหารฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดารา ก็แทบจะล้มล้างความรู้ความเข้าใจของพวกเขาแล้ว

แต่ตอนนี้ท่าทางอันดุดันที่ซย่าจื้อเผยออกมา ถึงขั้นทำให้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นต่างรู้สึกต้อยต่ำ ตกใจและหนาวเยือก

นาง… เป็นใครกันแน่

ไม่มีใครรู้

หลินสวินจ้องมองเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ในใจจึงค่อยๆ ผ่อนคลาย ย้อนกลับไปในป้อมปราการ เริ่มนั่งสมาธิ

บาดแผลที่ได้รับครั้งนี้รุนแรงเกินไป และพลังกายก็เสียไปมาก นี่ทำให้ลูกกลอนกำเนิดโลหิตที่หลินสวินสร้างออกมาเหมือนกลายเป็นเมล็ดถั่ว ถูกหลอมและใช้ไปอย่างต่อเนื่อง

เขานั่งสมาธิพลางมองดูการต่อสู้ของซย่าจื้อ ในใจอดประหลาดใจไม่ได้ หลายปีมานี้ซย่าจื้อไปที่ไหนกันแน่!

พลังต่อสู้ของนางแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ควรรู้ว่าปีนั้นที่ซย่าจื้อจากไป คือก่อนหลินสวินจะปิดด่านในทะเลหมากดาราในดินแดนรกร้างโบราณ เพื่อเตรียมเข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุน

ถ้านับจากตอนนั้น ซย่าจื้อจากไปนานหลายสิบปีแล้ว

แต่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบปี กลับทำให้ซย่าจื้อเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นนี้ นี่เห็นชัดว่าเหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย

“สหายน้อย ไม่คิดว่าเจ้าจะรอดมาได้จริงๆ ดีเกินไปแล้ว!”

เสียงที่ทั้งตื่นเต้นและดีใจของจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงดังมาจากไกลๆ

“ข้าบอกแล้วว่าจะไม่ให้พวกเฒ่าชราที่รอคอยให้ข้าตายสมปรารถนา”

หลินสวินยิ้ม เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงจับตามองการต่อสู้มาโดยตลอดด้วยกังวลแทนเขา

“เฮ้อ พูดตามจริง ก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกสิ้นหวังแล้ว แต่การปรากฏตัวของแม่นางคนนั้นช่างราวกับฟ้าประทานดาวช่วยชีวิต ทำเอาข้ายังอึ้งงัน…”

บ่นอยู่ครู่ใหญ่ จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่คึกคักถึงเพิ่งเอ่ยว่า “จริงสิ แม่นางคนนั้นเป็นเทพมาจากไหนกันแน่”

“ซย่าจื้อ” หลินสวินพูดสั้นๆ

คำสั้นๆ สองคำ แต่ชื่อนี้ได้มอบพลังอันไร้ที่เปรียบในใจเขานานแล้ว จึงสำคัญอย่างที่สุด

“ซย่าจื้อ…” จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงขมวดคิ้วใคร่ครวญอยู่นาน ก็นึกไม่ออกว่าทั่วหล้าฟ้าดารานี้มีบุคคลที่สุดยอดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

แม้แต่ในหมู่ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ก็ไม่มีคนชื่อนี้

อีกอย่างสิ่งที่ทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อคือ ซย่าจื้อคนนี้ทะยานมาจากฟ้าดาราไกลโพ้น ไม่ใช่คนที่อยู่ในแดนปรินิพพาน!

ทว่าแม้ในใจจะสงสัย จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็ไม่ได้ถามมากความ

หนึ่งเค่อหลังจากนั้น

บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคเงียบสงัด สัตว์ประหลาดเฒ่านับไม่ถ้วนตกอยู่ในความตะลึงยิ่งยวด แต่ละคนเปลี่ยนเป็นเงียบกริบ

ในฟ้าดารานั่น สัตว์ประหลาดฟ้าดารานับร้อยถูกสังหารจนกระจัดกระจาย สุดท้ายพ่ายแพ้ยับเยิน หนีไปยังส่วนลึกของฟ้าดารา

ใช่แล้ว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เหี้ยมโหดกระหายเลือดนั่น ถูกสังหารจนหนีไปในหนึ่งเค่อนี้!

นี่เป็นเรื่องสะท้านสะเทือนอย่างแท้จริง ปกปักษ์กำแพงเมืองหมื่นมรรคมาเจ็ดปี เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่มีเพียงการรับรู้ตามสัญชาตญาณหนี…

และตอนนี้ซย่าจื้อถือทวนเดินมายังป้อมปราการที่หลินสวินอยู่ เงาร่างชดช้อยแบบบางล้อมด้วยความมืดมิด ดุจเทพดั่งเซียน

เพียงแต่ยามนางจะเข้าใกล้ป้อมปราการที่หลินสวินอยู่ ร่างกายกลับสั่นเล็กน้อย ถูกพลังระเบียบอันยิ่งใหญ่ทรงพลังขวางกั้นไว้ด้านนอก

………………………..