บทที่ 1972 ความฝันของคนโง่

The king of War

The king of War บท 1972 ความฝันของคนโง่
สงครามนอกห้องสมุดยังคงดำเนินต่อไปลี่เฉินและ เจียงหยวนหลงยืนตรงข้ามกัน ขณะที่ร่างของ ลี่เฉินเต็มไปด้วยอานุภาพมารที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

ในทางกลับกัน เจียงหยวนหลงกำลังยืนมือไพล่หลัง ใบหน้าสงบนิ่ง เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับสงครามตรงหน้าเลยสักนิด เขาไม่จำเป็นต้องกังวล

ตราบใดที่ไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ของสำนักมารจะต้องตาย

การต่อสู้ระหว่างตู้ป๋อและสงอันนั้นร้อนแรงที่สุด พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดรองจากแดนนภาทั้งคู่ ในเวลานี้ ทั้งคู่ระเบิดพลังออกมาและใช้วิธีการลับเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง

ตู้ป๋อเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ ในมือของเขาถือปืนเทพบู๊ ราวกับมันเป็นอาวุธสวรรค์ที่กำลังกลืนกินออร่าอันน่าสะพรึ่งกลัว

ดวงตาของสงอันเป็นสีแดงก่ำ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อปูดโปน ทั้งร่างเต็มไปด้วยความฮึกเหิมแผ่ไปทุกทิศทุกทาง แม้แต่นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้

“ติ้ง!”

ชายทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง ภายใต้การปะทะกัน พวกเขาต่างล่าถอยออกไป

ทุกสิ่งรอบๆ ตัวคนทั้งสองตอนนี้ได้ถูกทำลายลงด้วยออร่าอันทรงพลังของการปะทะกันของของอาถรรพ์ทั้งสอง

การโจมตีของตู้ป๋อรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นั่นเพราะเขาสังเกตเห็นว่ายอดขุนพลมารของสำนักมารได้เริ่มล่าถอยแล้ว เงามารและมารแดงยังคงไม่เป็นไร แต่เหมิงคุน และ มู่ชิงที่มีความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก แต่พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นจากโลกบู๊โบราณ หากยึดจากภูเขามาร ก็ถือเป็นหนึ่งในห้าผู้แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ในภูเขามาร

ตอนนี้ มีแค่เมื่อตู้ป๋อเอาชนะ สงอันเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันได้

“ปัง!”

ก่อนที่ตู้ป๋อจะจัดการ สงอันได้ มู่ชิงก็ไม่สามารถทนได้อีก เขาถูกผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงกระแทกอย่างแรงและอาเจียนเป็นเลือด

“มู่ชิง!”

เหมิงคุนคำราม

เมื่อเห็นว่าน้องชายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระเด็นออกไป เขาก็กังวลมากและต้องการไปช่วยเหลือแต่กลับไม่มีเวลาเลย แม้กระทั่งเขาก็โดนโจมตีจนล่าถอยติดๆ และไม่มีโอกาส

ใบหน้าของลี่เฉินมืดมนถึงขีดสุด ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าเงามารเองก็จะถูกกำจัดในไม่ช้า

เขาต้องการจะเคลื่อนไหว แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อเขาเคลื่อนไหว ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์จะต้องปรากฏตัวขึ้นอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ เจียงหยวนหลงกล่าวว่า “ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสนายเข้าร่วมตระกูลเจียงอีกครั้ง แล้วฉันจะไว้ชีวิตคนของนาย”

ลี่เฉินกัดฟันมองเจียงหยวนหลงอย่างโกรธจัด และกล่าวว่า “ในฐานะผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊โบราณ กลับมาใช้คำขู่บังคับคนโลกฆราวาสให้เข้าร่วมตระกูลเจียง นายไม่คิดว่าน่ารังเกียจมากเลยหรือ?”

“ฮึ่ม!”

เจียงหยวนหลงดูถูกเหยียดหยามและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “โลกบู๊โบราณเป็นสถานที่ที่เคารพในความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ถ้านายแม้กระทั่งจุดนี้ก็ไม่เข้าใจ อย่างนั้นแม้ว่านายจะไปที่โลกบู๊โบราณ ก็จะต้องตายอย่างรวดเร็วไม่ช้าก็เร็ว”

“ปัง!”

ในเวลานี้ เหมิงคุนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคู่ต่อสู้ของเขาและอาเจียนเป็นเลือด

ชั่วขณะหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งสูงสุดสี่คนของสำนักมาร มีเพียงเงามารและมารแดงเท่านั้นที่ยังคงมีพลังในการต่อสู้ ในขณะที่ทางตระกูลเจียงกลับยังคงมีห้าผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

เงามารมารแดง และ ตู้ป๋อ ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย

อย่างไรก็ตาม เงามารและมารแดงยังไม่มีความตั้งใจที่จะถอยกลับ พวกเขาปล่อยพลังการต่อสู้ออกมาจนถึงขีดสุดและปะทะกับผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงอย่างบ้าคลั่ง

“แค่มดปลวกโลกฆราวาส กล้าดียังไงมาแข่งขันกับผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงจากโลกบู๊โบราณ ฝันไปซะเถอะ!”

ผู้แข็งแกร่งแห่งตระกูลเจียงคนหนึ่งตะโกนขึ้น ออร่าบู๊บนตัวเขาเพิ่มขึ้นมา ในมือถือของอาถรรพ์เพื่อโจมตีเงามาร

“ฆ่า!”

เงามารมีเลือดไหลไปทั่ว เขาแผดเสียงด้วยความโกรธและพุ่งไปข้างหน้า

มารแดงที่ปกคลุมไปด้วยเลือดก็เช่นกัน แต่ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง และไม่มีทีท่าจะถอยกลับแม้แต่น้อย อีกทั้งยังสะบัดของอาถรรพ์ในมืออย่างบ้าคลั่ง

“ติ้งติ้งติ้ง!”

ของอาถรรพ์ชนกันทำให้เกิดเสียงดัง

ในทางกลับกัน การต่อสู้ระหว่างตู้ป๋อและสงอันก็ถึงจุดสูงสุดแล้วเช่นกัน การโจมตีแต่ละครั้งของคนทั้งสองเป็นเหมือนการลงโทษจากสวรรค์และกระหน่ำใส่กันอย่างบ้าคลั่ง

“ดูเหมือนว่านายได้ตัดสินใจทิ้งลูกน้องของนายแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนั้น ฉันก็จะไม่เสียเวลาอีกต่อไป”

เมื่อเห็นว่าลี่เฉินปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับตระกูลเจียง เจียงหยวนหลงก็พูดขึ้นทันที

พูดจบ เขาก็มองไปที่ สงอันและคนอื่น ๆ และพูดว่า “ในที่สุดฉันจะให้เวลานายห้านาทีเพื่อยุติการต่อสู้!”

“ครับ!”

ผู้แข็งแกร่งทั้งห้าคนตอบมาตามๆ กัน

วินาทีถัดมา กลิ่นอายบูโดที่น่าสยดสยองก็ปะทุออกมาจากผู้แข็งแกร่งทั้งห้าของตระกูลเจียง

ใบหน้าของลี่เฉินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ตระกูลเจียงจะจริงจังแล้ว หากการต่อสู้ไม่สามารถยุติลงได้ ผู้แข็งแกร่งของสำนักมารขะไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่ได้

“ใครกล้า!”

ลี่เฉินคำรามเสียงดัง เขตแดนวิถีมารอันน่าสะพรึงกลัวเข้าปกคลุมสำนักมารทั้งหมดทันที

ชั่วขณะหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งทั้งห้าคนในตระกูลเจียงล้วนหน้าซีดเผือด เขตแดนวิถีมารที่ปลดปล่อยโดยผู้แข็งแกร่งแดนนภาทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในทะเลแห่งมาร

“ฮึ่ม!”

เจียงหยวนหลงพ่นลมอย่างเย็นชาและโบกมือของเขา จากนั้นเขาก็ปล่อยพลังเขตแดนที่แข็งแกร่งออกมา และพลังวิถีมารที่ลี่เฉินเพิ่งปล่อยออกมาก็สลายไปทันที

ไม่เพียงเท่านั้น สำนักมารทั้งหมดถูกห่อหุ้มด้วยพลังเขตแดนของ เจียงหยวนหลง

เงามาร และมารแดงหน้าซีดขาวอย่างมาก พวกเขารู้สึกว่าลมหายใจถูกควบคุม และได้แต่หอบหายใจหนักไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

“นายคิดจะลงมือ?”

ลี่เฉิน มองไปที่ เจียงหยวนหลงและถามด้วยความโกรธ

แม้ว่าเขาเพิ่งจะเข้าสู่แดนนภาขั้นหนึ่ง แต่ ลี่เฉินจะไม่มีวันยอมมองผู้แข็งแกร่งของสำนักมารตายด้วยน้ำมือของคนภายนอกเหล่านี้

แม้ว่าต้องตาย เขาเองก็จะตายต่อหน้าคนพวกนี้ก่อน

อิงเทียนสิง และเหรินจิงหลุนต่างตกตะลึงลี่เฉินจะต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนนภาของตระกูลเจียงจากโลกบู๊โบราณหรือ?

เจียงหยวนหลงไม่ได้พูด แต่เขากลับปล่อยจิตวิญญาณการต่อสู้ออกมา ขอแค่ลี่เฉินลงมือ เขาก็จะต่อสู้กลับในทันที

ในฐานะผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณ เขารู้ดีอย่างยิ่งเกี่ยวกับกฎของพันธมิตรพิทักษ์ แม้ว่าเขาจะฆ่าลี่เฉิน เขาก็ไม่เป็นไร อย่างมากเขาก็แค่ถูกลงโทษโดยพันธมิตรพิทักษ์ก็เท่านั้น

แน่นอน หลักฐานคือลี่เฉินเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

ขณะที่สงครามของแดนนภากำลังจะปะทุขึ้นที่สำนักมาร ภัยพิบัติสวรรค์เหนือห้องสมุดก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ และคล้ายจะหายไปเมื่อใดก็ได้ มีก็เพียงทัณฑ์สายฟ้าฟาดลงมาเป็นครั้งคราว

เจียงหยวนหลงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือห้องสมุด เขาขมวดคิ้วและคล้ายกำลังพูดกับตัวเองว่า “ภัยพิบัติสวรรค์กำลังจะหายไป!”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปที่ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงที่เพิ่งเล่นงานมู่ชิงกับเหมิงคุนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า “ไม่ไปทำลายภัยพิบัติสวรรค์ตอนนี้ แล้วจะรอตอนไหน?”

คำพูดของ เจียงหยวนหลงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

สองผู้แข็งแกร่งของตระกูลเจียงตัวสั่นทันทีและตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบไปที่ห้องสมุดทีละคน

เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของลี่เฉินก็มืดมนสุดขีด

เขาอยากลงมืออย่างยิ่ง แต่เขาก็รู้ด้วยว่าเมื่อลงมือไปแล้วก็จะไม่มีประโยชน์อะไร เขาจะถูก เจียงหยวนหลงควบคุมและไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้

เพื่อหยางเฉิน เขาได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แม้ว่าภัยพิบัติสวรรค์จะโดนทำลายก็โทษเขาไม่ได้แล้วจริงๆ เพราะเขาทำดีที่สุดแล้ว

นอกจากนี้ ผู้แข็งแกร่งสองคนในตระกูลเจียงซึ่งอยู่กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นจะทำลายภัยพิบัติสวรรค์ได้อย่างไร?