เดิมทีกู้เย้นจงคิดว่าเย่เฉินไม่มีทางตอบตกลง แต่คิดไม่ถึงว่า เขากลับตอบตกลงอย่างง่ายดาย จึงได้ถามขึ้นมาทันทีว่า “คุณปู่ของคุณถ้ารู้ว่าคุณยินดีจะกลับไปร่วมงานไหว้บรรพบุรุษละก็ ต้องดีใจเป็นอย่างมากแน่ๆ ”

เย่เฉินยิ้ม แต่ในใจคิดว่า “เขาจะดีใจหรือไม่ คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผมจะกลับไปร่วมงานไหว้บรรพบุรุษหรือเปล่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าผมจะทำตามคำสั่งของเขาหรือไม่ กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้แต่งงานกับตระกูลอื่น ”

แต่ว่า คำพูดเหล่านี้เขาไม่ได้พูดกับกู้เย้นจง

ตอนนี้เอง กู้ชิวอี๋ก็เปิดปากพูดขึ้นมาอีกว่า “ใช่แล้ว พี่เยาเฉิน คอนเสิร์ตของฉันที่เมืองจินหลิงมีกำหนดแน่นอนแล้ว”

เย่เฉินถามขึ้นอย่างรู้สึกประหลาดใจ “คอนเสิร์ต? ที่เมืองจินหลิง?”

กู้ชิวอี๋พยักหน้ารับ พูดยิ้มๆว่า “เดิมทีกำหนดการทัวร์คอนเสิร์ตของฉันสถานที่ต่อไปก็คือเมืองจินหลิง แต่ว่าก่อนหน้านี้ยังไม่ได้มีกำหนดการที่แน่นอนเท่านั้น”

เย่เฉินเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ตอนนั้นที่จะพาภรรยากับกู้ชิวอี๋ไปกินข้าวด้วยกัน ภรรยาเคยบอกกับเขาอย่างตื่นเต้นว่า ในเวลาอันใกล้นี้กู้ชิวอี๋จะเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองจินหลิง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เรื่องนี้ได้ถูกกำหนดวันเวลาที่แน่นอนแล้ว

เย่เฉินก็เลยถามเธอว่า “หนานหนาน คอนเสิร์ตของเธออยู่ช่วงเวลาไหน”

กู้ชิวอี๋บอกว่า “อยู่ในช่วงวันที่สองเดือนสองตามปฏิทินจันทรคติ เวลาหนึ่งทุ่มในคืนวันเกิดของพี่ ที่สนามกีฬาโอลิมปิกเมืองจินหลิง”

เย่เฉินรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

วันที่สองเดือนสองตามปฏิทินจันทรคติ ก็คือวันเกิดของเขานั่นเอง

หรือว่าสาวน้อยคนนี้ จะจงใจเลือกวันนั้นเป็นวันเปิดคอนเสิร์ตเหรอ

ตอนนี้เอง กู้ชิวอี๋ก็พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง “พี่เยาเฉิน ฉันจะจองตั๋วที่นั่งที่ดีที่สุดไว้ให้พี่ ถึงเวลาพี่ต้องมาดูฉันแสดงคอนเสิร์ตให้ได้นะ”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ ถึงเวลาพี่ต้องไปแน่”

กู้ชิวอี๋พูดอย่างดีใจว่า “ถ้าอย่างนั้นถึงตอนนั้นพวกเราค่อยพบกันที่เมืองจินหลิง”

“ได้”

ขณะเดียวกัน การพูดคุยวิดีโอคอลกับกู้เย้นจงที่อยู่ในสายมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

กู้เย้นจงพูดว่า “เข้ามา”

จากนั้น น้องรองแห่งตระกูลกู้นั่นก็คือกู้เย้นเจิ้งก็ผลักประตูเข้ามา พูดอย่างนอบน้อมว่า “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ตระกูลซูมีคนมาส่งของขวัญแล้ว”

กู้เย้นจงขมวดคิ้ว ถามอย่างประหลาดใจว่า “คนตระกูลซู ฉันไม่เคยติดต่อกับพวกเขาเลย ทำไมพวกเขาจึงมาส่งของขวัญถึงบ้านเราได้”

กู้เย้นเจิ้งส่ายหน้า พูดขึ้นอย่างรู้สึกไม่เข้าใจเหมือนกัน “เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบ ที่มาครั้งนี้ มีลูกชายหญิงสองคนของซูโสว่เต้า ซูจือเฟยกับซูจือหยู ซูโสว่เต้าเองไม่ได้มาด้วย คิดว่าเขาเองก็คงจะรู้ดีอยู่แก่ใจ รู้ว่าตอนนั้นด้วยเรื่องของพี่เย่ พี่นั้นไม่พอใจเขามาตลอด”

กู้เย้นจงยิ่งรู้สึกกลัดกลุ้มเข้าไปอีก พูดว่า “ซูโสว่เต้าไม่มา คนรุ่นหลังของตระกูลซูจะมาทำไม เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าคนรุ่นหลังของตระกูลซูจะออกมาเยี่ยมเยียนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี่นา ”

ตระกูลซูอยู่ที่เย่นจิง วางมาดอย่างสูงส่งอยู่เสมอมา

ไม่ว่าจะเป็นซูเฉิงเฟิง หรือว่าลูกชายอีกหลายคนของเขา ไม่เคยออกเยี่ยมเยียนใครถึงบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ มากที่สุดก็แค่ไปเยี่ยมเยียนพ่อตาแม่ยายเท่านั้น

แม้แต่คนที่เป็นรุ่นเดียวกันกับซูจือหยูในตระกูลซู ก็ไม่เคยลดตัวลงมา ไปเยี่ยมเยียนผู้อื่นถึงบ้านด้วยตนเอง

เพราะฉะนั้น กู้เย้นจงไม่เข้าใจ ว่าทำไม่ลูกชายหญิงทั้งคู่ของซูโสว่เต้า ถึงมาเยี่ยมเยียนตนเอง

เย่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจ