เฉียนหงเย่นถึงกับเข่าทรุดแล้วร้องตะโกน”พวกแกมีสิทธิ์อะไรลากฉันออกไป?มีสิทธิ์อะไรไม่จ่ายค่าจ้างให้ฉัน!?!”

แต่ทว่า ไม่ว่าเธอจะร้องตะโกนอย่างไร ต่างไม่มีคนสงสารเธอ และไม่มีใครเห็นใจเธอ

เมื่อเห็นว่าเฉียนหงเย่นถูกลากตัวออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตไป ผู้จัดการคนนั้นพูดกับเย่เฉินและเซียวฉางควนอย่างรู้สึกผิด”ทั้งสองท่านครับ เรื่องนี้ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ผมใช้คนผิด ผมต้องขอโทษทั้งสองท่านด้วยนะครับ!”

เซียวฉางควนพยักหน้า จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า”เรื่องนี้ความผิดไม่ได้อยู่ที่คุณหรอกครับ แต่คุณเองก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน นี่เรียกว่าการใช้คนไม่เหมาะกับงาน!”

หลังจากนั้น เซียวฉางควนถอนหายใจ แล้วพูดอย่างทอดถอนใจ”ใช่แล้วสุดท้าย วิสัยทัศน์ของคุณไม่ค่อยไหวเท่าไร”

ผู้จัดการพยักหน้าอย่างอึดอัดใจ”คุณวิจารณ์ได้ถูกต้องครับ หลังจากนี้ผมจะปรับปรุงตัวครับ!”

เซียวฉางควนยื่นมือออกไปตบบ่าของเขาเบาๆ แล้วพูดด้วย น้ำเสียงผู้อาวุโสกล่าวสั่งสอนคนรุ่นใหม่”ฝึกฝนให้มากๆเถอะครับ!”

“ครับๆๆ!”ผู้จัดการพยักหน้าติดต่อกันไม่หยุด หลังจากนั้นก็รีบเรียกแคชเชียร์ที่พึ่งทานข้าวเสร็จกลับมาเปลี่ยนกะ”จางเสี่ยวลี่ รีบมาคิดเงินให้ลูกค้าสองท่านนี้เร็วเข้า อย่าทำให้พวกเขาเสียเวลานานล่ะ!”

พนักงานแคชเชียร์คนนั้นรีบวิ่งเข้ามา เปิดคอมพิวเตอร์ ช่วยเย่เฉินกับเซียวฉางควนคิดเงิน

พ่อตากับลูกเขยทั้งสองเดินออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วขับรถตรงไปยังตลาดขายผักที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองจินหลิง สำหรับนายหญิงใหญ่เซียวกับเฉียนหงเย่น ทั้งสองไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

หลังจากที่เฉียนหงเย่นถูกคนไล่ออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว เธอไม่มีอาหารลงท้องมาเป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงแล้ว เธอหิวจนหน้ามืดตาลาย หน้าอกด้านหน้าแทบแนบไปกับแผ่นหลัง เหมือนจะล้มเป็นลมเต็มทีแล้ว

เธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปหางานพาร์ทไทม์อีกแล้ว จึงทำได้เพียงแค่เดินกลับบ้าน

เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์Tomson Riviera เฉียนหงเย่นนั่งก้นจ้ำเบ้าไปกับโซฟา แม้แต่แรงที่จะเลิกเปลือกตาขึ้นก็ไม่มี

เซียวเวยเวยที่อยู่บ้านดูแล เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงสองพ่อลูก พอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของด้านล่าง จึงรีบลงไปตรวจสอบดู พอเห็นว่าเฉียนหงเย่นกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่โซฟา เธอจึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจว่า”แม่คะ แม่ออกไปหางานทำไม่ใช่หรอคะ?ทำไมกลับมาแล้วล่ะ?”

เฉียนหงเย่นสบถด่าในทันที”อย่าพูดถึงเลย!แม่งเอ้ย!โมโหจะตายอยู่แล้วเนี่ย!”

เซียวเวยเวยรีบถาม”แม่คะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เฉียนหงเย่นดวงตาแดงก่ำ น้ำตารื้นออกมา แล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า”แม่กับคุณย่าของลูกออกไปหางานทำ เห็นว่าตอนนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตกำลังหาพนักงานพาร์ทไทม์จำนวนมาก อีกทั้งยังคิดเงินเป็นรายวันอีกด้วย เราสองคนเลยเข้าไปสอบถาม คุณย่าของลูกอายุเยอะมากแล้ว เขาเลยให้ท่านไปช่วยลูกค้าดึงถุงพลาสติกที่โซนขายผัก ให้แม่ไปเป็นแคชเชียร์ สุดท้าย……”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของเฉียนหงเย่นก็ตื่นเต้นแล้วร้องไห้เสียงดังออกมา”สุดท้ายใครจะไปรู้ว่า จะบังเอิญเจอเข้ากับเซียวฉางควนกับเย่เฉินไอ้เหี้ยสองคนนั้น!มันทำให้แม่เสียงานไป……”

เซียวเวยเวยที่ได้ยินแบบนั้น โมโหจนกัดฟันกรอด”พวกเขาทำเกินไปแล้ว!ทำไมถึงรังแกคนอื่นแบบนี้!”

พูดจบ เธอก็รีบถามว่า”แม่คะ งั้นค่าจ้างที่ทำงานครึ่งวันแม่ได้ขอมาไหมคะ?ถ้าขอมา ให้หนูหน่อยนะ หนูจะไปซื้อหมั่นโถว แล้วค่อยไปร้านอาหารเล็กๆซื้ออาหารสองอย่างกลับมา……”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เซียวเวยเวยก็ดวงตาแดงก่ำ แล้วร้องไห้”พ่อกับพี่หิวจนร้องไห้อยู่บนเตียงหลายครั้งแล้วค่ะ น่าสงสารจริงๆ……”

เฉียนหงเย่นที่ได้ยินดังนั้น จึงร้องไห้เสียงดังออกมาทันที แล้วพูดอย่างตีอกชกหัว”โทษไอ้เหี้ยเซียวฉางควนนั่นคนเดียวเลย!ทำให้แม่ถูกผู้จัดการไล่ออกมา ทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตฟรีๆมาครึ่งวัน แถมไม่ให้เงินแม่แม้แต่บาทเดียว……”