เสียงโหยหวนดังจากมาระดับบรรพจารย์จักรพรรดิเผ่าเต่าดำคนหนึ่ง
เพื่อช่วยอู่ซิวสิงที่ถูกซีจับจ้อง เขาจึงถูกซีฉวยโอกาสโจมตีสังหาร แม้แต่พลังจิตยังไม่อาจหนี ถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิงแล้ว
นี่เป็นบรรพจารย์จักรพรรดิคนที่สามที่ร่วงหล่นแล้ว!
ทั้งที่นั้นสั่นไหวขึ้นมา โดยเฉพาะไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิง เพิ่งหนีพ้นความตายก็เห็นภาพนองเลือดโหดร้ายนี้ ทำเอาตกใจจนหนังหัวชาวาบ
ก่อนที่หลินสวินจะมา พวกเขายังได้เปรียบอย่างเด็ดขาด คิดว่าครั้งนี้การทำลายเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงและสังหารเผ่าหงส์เซียนก็เหลือแค่รอเวลาเท่านั้นแล้ว
ใครจะคิดว่าหลังจากหลินสวินมาถึง มกุฎมหาจักรพรรดิขั้นสามที่ไม่ถูกพวกเขาเห็นอยู่ในสายตาคนหนึ่ง กลับใช้พลังของตนทำให้ทั้งสนามรบเกิดการเปลี่ยนแปลง!
เหมือนเช่นยามนี้ รวมแล้วเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็มีบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนทยอยร่วงหล่น!
ต่อให้เป็นเผ่าวิญญาณฟ้าประทานอย่างเสือขาวและเต่าดำ นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นแรงโจมตีที่หนักหน่วงหาใดเปรียบ
ถึงอย่างไรครั้งนี้พวกเขาเคลื่อนกำลังมาทั้งหมด รวมกันแล้วก็มีระดับบรรพจารย์จักรพรรดิแค่สิบเก้าคนเท่านั้น
และบรรพจารย์จักรพรรดิส่วนหนึ่งในนั้น ยังมาจากขุมอำนาจที่อยู่ใต้อาณัติเผ่าของพวกเขา
ครั้นหันมองผู้แข็งแกร่งเผ่าหงส์เซียนอย่างพวกหวงชางเทียน เดิมทีที่สิ้นหวัง ขวัญกำลังใจตกต่ำ แต่ตอนนี้ล้วนฮึกเหิมเลือดร้อนพลุ่งพล่าน ความเสียเปรียบสาบสูญ
“ฆ่า!”
พูดแล้วเหมือนช้าแต่ความจริงนั้นรวดเร็วยิ่งนัก หลินสวินที่เพิ่งรับประทับฝ่ามือนั้น ตอนนี้พุ่งไปยังไป๋หลิงเจินที่อยู่ห่างออกไปนั่นอีกครั้ง
เขาท่าทางอหังการ รูขุมขนบนร่างพรั่งพรูแสงมรรคเจิดจ้า แม้พลังปราณทั้งร่างดูต่ำต้อยในสนามรบแห่งนี้ แต่ตอนนี้ใครจะกล้าดูถูกกัน
บรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งมาขวาง ประทับฝ่ามือราวกับลุกโหม ประหนึ่งเปลวเพลิงธารสวรรค์พุ่งโจมตี น่าหวาดหวั่นยิ่งยวด
หลินสวินใช้เตากระบี่หนึ่งเดียวต้านทาน เข้าปะทะหนักหน่วง สำแดงมรรควิถีเต็มกำลัง
ไม่อาจไม่พูดว่าอานุภาพของเตากระบี่หนึ่งเดียวเย้ยฟ้าอย่างมาก เผยอานุภาพมหัศจรรย์ของสมบัติอย่างขวดไร้ขอบเขต ดาบไร้วิชา ธงไร้ระเบียบ ประทับไร้ชีพ ทวนไร้สวรรค์เป็นต้นเต็มกำลัง ผสานเข้าไปในกระบี่มรรค อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็แข็งแกร่งเหนือคาด
แม้ในการปะทะซึ่งหน้า หลินสวินยังคงถูกซัดจนเลือดลมพลิกตลบ ตกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างชัดแจ้ง ทว่าระดับบรรพจารย์จักรพรรดินั่นก็ทำอะไรเขาไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นกัน
นี่ทำให้จิตต่อสู้ของหลินสวินประหนึ่งเพลิงโหม ยิ่งต่อสู้ยิ่งห้าวหาญ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากเจอบรรพจารย์จักรพรรดิเขาก็ทำได้เพียงหนีกระเจิง แต่ตอนนี้ต่างไปแล้ว อย่างน้อยก็สามารถใช้เตากระบี่หนึ่งเดียวเข้าปะทะได้
แค่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็เป็นเรื่องน่าตกใจมากแล้ว!
ตูมโครม!
การต่อสู้ในสนามรบยิ่งดุเดือดรุนแรง เต็มไปด้วยภาพปานทำลายล้างทุกแห่งหน พื้นที่ในรัศมีสองสามหมื่นลี้โดยมีเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงเป็นศูนย์กลาง ล้วนจมสู่สภาพเสื่อมสลายอย่างไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ภูผาธาราไม่คงอยู่ พื้นดินทรุดทลาย
“ไปตายซะ!”
ไม่นานเสียงตะโกนของต้าหวงดังก้อง คล้ายจะตะโกนจนท้องฟ้าทลาย
ก็เห็นว่าในกรงเล็บของมันถือกระบองกระดูกขาวยาวหนึ่งจั้งสองฉื่อ กระแทกใส่ชายชุดดำที่ดุดันหาใดเปรียบอย่างรุนแรง
ชายชุดดำนั่นเป็นหนึ่งในสามบรรพจารย์จักรพรรดิที่ปิดล้อมพวกต้าหวง เห็นดังนี้ก็กวัดแกว่งทวนยาวสีเงินในมืออย่างไม่ลังเล กวาดขวางออกไป
เคร้ง!
ทั้งสองปะทะกัน สาดแสงมรรคไร้จำกัด ก็เห็นทวนยาวสีเงินถูกกดทับจนงอโดยพลัน พลังน่ากลัวบนกระบองกระดูกขาวนั่นพวยพุ่ง ซัดจนเงาร่างชายชุดดำโซซัดโซเซ
ตูม!
ในเวลาเดียวกันศรนภาครามที่ดุจดั่งลำแสงนอกโลกฉีกห้วงอากาศเป็นแนวยาวเข้ามา มุมและจังหวะที่เลือกเฉียบคมอย่างที่สุด เป็นชั่วขณะที่ชายชุดดำเซพอดี
“ทลาย!” ชายชุดดำคำราม เบื้องหน้ามีกฎเกณฑ์พาดสลับราวกับกระแสน้ำ ปรากฏต้นแบบโลกแห่งหนึ่งต้านศรนี้เอาไว้ในทันใด
แต่ไม่รอเขาโล่งอก ซ้ายขวาสองฝั่งล้วนมีไอสังหารที่อันตรายถึงชีวิตลอบโจมตีมา
หนึ่งคือดาบหักที่ดุดันแข็งกร้าว
อีกหนึ่งคือซย่าจื้อที่ฉวยโอกาสเข้ามา
ชายชุดดำสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทว่าด้วยฐานะระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ ทั้งชีวิตเขาต่อสู้มานับไม่ถ้วน จะถูกสถานการณ์เช่นนี้กักขังได้อย่างไร
“ทลาย!”
ผมยาวของเขาพลิ้วไหว ส่งเสียงคำราม สองมือทำมุทรา ปรากฏศิลามรรคที่แปลกประหลาดสองหลัก ขวางการโจมตีของดาบหักกับซย่าจื้อไว้
“ก็แค่นี้เท่านั้น!”
ชายชุดดำแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา ในสายตาเผยความเย่อหยิ่งสูงส่ง ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิจะถูกลอบโจมตีจนพ่ายแพ้ได้อย่างไร
ทว่าตอนนี้เอง มีคนตะโกน “ระวัง!”
เสียงราวกับฟ้าร้อง
ชายชุดดำนัยน์ตาหดรัด รับรู้ได้ถึงอันตรายยิ่งยวดทันที จึงหลบหลีกอย่างไม่ลังเล
แต่ในชั่วขณะที่เขาหลบหนี จู่ๆ เงาร่างของซีก็ปรากฏ
สิ่งที่ไวกว่าซีคือละอองแสงที่สะดุดตาหาใดเปรียบ ลึกลับไม่อาจคาดเดาปานระเบียบเข้าปกคลุมชายชุดดำนั่น
ตูม!
ทันใดนั้นระดับบรรพจารย์จักรพรรดิคนนี้ก็กลายเป็นเถ้าถ่านลอยล่อง
ตั้งแต่ต้าหวงลงมือ จนถึงอู้เชวีย วิญญาณแห่งดาบหัก และซย่าจื้อโจมตีขนาบ กระทั่งซีปรากฏตัวกลางอากาศในตอนสุดท้าย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแทบจะในชั่วพริบตา เร็วจนน่าเหลือเชื่อ
และเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น บรรพจารย์จักรพรรดิคนที่สี่… ก็ร่วงหล่น!
ไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิงใจสั่นสะท้าน แทบจะบ้าแล้ว ต่างตะโกนออกมา “รีบไปสกัดผู้หญิงคนนั้น! เร็ว!”
พวกเขาตระหนักได้ว่าภัยคุกคามที่อันตรายถึงชีวิตจริงๆ ก็คือซี ขอเพียงนางหลุดไป นั่นก็เท่ากับมังกรคลั่งทะยานฟ้า
ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสายไปแล้ว
ด้วยความสามารถของซี จะถูกอีกฝ่ายสกัดไว้อีกครั้งได้อย่างไร
ก็เห็นเงาร่างของนางพริบไหว พุ่งตัวอยู่ในสนามรบ แม้ถูกขวางอย่างต่อเนื่อง แต่ล้วนถูกนางสลายสิ้นทั้งหมด
ไม่ทันไรนางพลันปรากฏตัวที่ฝั่งหลินสวิน พลิกมือหยก ละอองแสงซึ่งประหนึ่งฝันมายาสาดพรมออกมา
ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับหลินสวิน แม้จะตอบสนองในทันที ดำเนินการต้านทาน กลับยังคงถูกโจมตีจนบาดเจ็บหนัก
โอกาสดีเช่นนี้หลินสวินจะพลาดได้อย่างไร ใช้เตากระบี่หนึ่งเดียวกำราบทันที
ตูม!
บรรพจารย์จักรพรรดิที่บาดเจ็บสาหัสคนนั้นถูกกระแทกจนร่างแยกกระจายไปทั่ว เลือดสาดกระเซ็น เหลือเพียงเจตจำนงพลังจิตที่โชคดีหนีไปได้ ส่งเสียงตะโกนด้วยความเดือดดาลคับแค้น
หลินสวินอดเสียดายไม่ได้ ว่ากันถึงที่สุด พลังปราณของเขาต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้นโอกาสงามเช่นนี้มีหรือจะไม่สามารถฆ่าบรรพจารย์จักรพรรดิให้ตายได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรบรรพจารย์จักรพรรดิคนที่ห้านี้ก็บาดเจ็บหนักเจียนตายแล้ว ต่อให้ภายหลังสามารถฟื้นกลับมาได้ ทว่าตอนนี้ก็ไม่ได้สร้างภัยคุกคามสักเท่าไรแล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้สภาวะจิตของสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกไป๋หลิงเจิน อู่ซิวสิงหนาวสะท้านขึ้นมา สถานการณ์เปลี่ยนเป็นวุ่นวายอย่างสิ้นเชิงแล้ว และฝั่งพวกเขายิ่งเสียเปรียบอย่างต่อเนื่อง
หากสถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป การบุกโจมตีครั้งใหญ่คราวนี้ของพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะพ่ายแพ้เช่นนี้!
“ไม่ว่าอย่างไรก็บุกเข้าไปในแดนลับที่บรรพชนหงส์เซียนนิพพานก่อน!”
ไป๋หลิงเจินส่งเสียงคำราม ก่อนหน้านี้พวกเขามั่นใจในชัยชนะ จึงไม่ได้เร่งรีบ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกถึงความบีบคั้นหาใดเปรียบ
ทันใดนั้นมีบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนแยกตัวออกไป เคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งสุดกำลัง
นี่ทำให้พวกหวงชางเทียนหัวใจกระตุก สีหน้าเปลี่ยนไปโดยพร้อมเพรียง หมายเปิดฉากไล่ล่าโจมตีโดยไม่ลังเล แต่กลับถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นๆ ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำขวางอย่างแทบจะบ้าคลั่ง
“ข้าจะไปฆ่าพวกเขา”
ซีว่าพลางเงาร่างก็พริบวาบ ไล่ตามไปแล้ว
เพียงแต่เพิ่งอยู่ระหว่างทาง ก็เห็นบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนนั้นที่อยู่ห่างออกไปถูกเพลิงแดงขวางไว้
ตูมโครม!
เพลิงเทพที่ศักดิ์สิทธิ์สูงส่งกำลังระบายความโกรธล้นฟ้า อหังการและเผด็จการ อานุภาพสูงส่งตัดสลับ
ชั่วพริบตาเท่านั้นบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งส่งเสียงโหยหวนน่าอนาถ ทั้งร่างถูกเผาทั้งเป็น ร่างและจิตล้วนสิ้นสูญ!
บรรพจารย์จักรพรรดิอีกสองคนหลบทัน พ้นเคราะห์ไปได้ แต่ตอนที่เห็นภาพนี้ก็ตกใจจนเหงื่อตกเช่นกัน
ยามนี้พวกเขาถึงเพิ่งเห็นชัด เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่โผล่มากะทันหันนั้นกลายเป็นเงาร่างหญิงสาวที่งดงามหาใดเปรียบคนหนึ่ง อานุภาพเทียบฟ้าประหนึ่งไร้เทียบทานไหลหลั่งทั่วร่าง
เป็นจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิง!
เพียงแต่จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงในตอนนี้ต่างจากก่อนหน้านี้อย่างชัดแจ้ง มีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่กดข่มทั่วหล้าเพิ่มเข้ามา
เห็นชัดว่าเพราะก่อนหน้านี้ได้รับสืบทอดและหลอมรวมมรรควิถีทั้งร่างของบรรพชนหงส์เซียนแล้ว!
“พวกเจ้า… สมควรตาย!”
ในสายตาของจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงเผยความชิงชังเย็นเยียบ พร้อมกับที่นางพูดขึ้น เปลวเพลิงระเบียบมากมายพุ่งออกมา ประหนึ่งโซ่เทพโฉบพุ่งดุเดือด
บรรพจารย์จักรพรรดิสองคนนั้นสีหน้าคร่ำเคร่ง เลือกถอยอย่างไม่ลังเล การร่วงหล่นของพวกพ้องก่อนหน้านี้ยังติดตา พวกเขาจะกล้ากระหายการต่อสู้ได้อย่างไร
ทว่าเพิ่งหันหลังกลับก็เห็นเงาร่างของซีขวางอยู่ตรงนั้น ชั่วขณะเดียวหัวใจของพวกเขาล้วนตกไปที่ตาตุ่ม
ตูม!
การต่อสู้ปะทุขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงและซีโจมตีขนาบหน้าหลัง พลังต่อสู้ของทั้งสองล้วนเหี้ยมหาญและน่ากลัว แทบจะกำราบโจมตีบรรพจารย์จักรพรรดิสองคนให้ตายคาที่ได้ในชั่วพริบตา!
ห่างออกไปยามมองเห็นภาพนี้ สัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าเสือขาวและเต่าดำอย่างพวกไป๋หลิงเจิน อู่ซิวสิงสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสินเชิง ในใจเกิดความหนาวเยือก
มีบรรพจารย์จักรพรรดิร่วงหล่นอีกสามคน!
ความสูญเสียระดับนี้ประหนึ่งฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ นำพาความกระทบกระเทือนยิ่งยวดมาให้พวกเขา
และการปรากฏตัวของจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็เหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทับอูฐจนล้ม ทำให้จิตต่อสู้ในใจพวกเขาสั่นไหว
“ถอย!”
ไป๋หลิงเจินตะโกนออกคำสั่งที่เจือความไม่จำยอมและเดือดดาลถึงที่สุด
สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับบรรพจารย์จักรพรรดิสิบสองคนที่เหลือในที่นั้นต่างลอบถอนหายใจ ยังจะกล้าลังเลเสียที่ไหน ต่างเลือกถอยทันที
“คิดหนีหรือ ไม่มีทาง!”
กว่าต้าหวงจะรอจนสถานการณ์พลิกผันได้ไม่ง่ายเลย จะยอมปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้อย่างไร ส่งเสียงตวาดไล่สังหารไป
ทว่ากลับถูกหลินสวินขวางไว้ “ไม่ต้องตามแล้ว”
ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิจะหนี ยากมากที่จะขวาง
ยิ่งไปกว่านั้นผู้แข็งแกร่งเผ่าหงส์เซียนอย่างพวกหวงชางเทียนในตอนนี้ก็บาดเจ็บแทบทั้งหมด ถ้าไล่ตามศัตรูไปอีกย่อมไม่ใช่เรื่องฉลาด
ในเวลานี้ซีและจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็มาถึงสนามรบแล้ว สายตากวาดมองถ้วนทั่ว ล้วนส่งเสียงถอนหายใจเบาๆ
โดยเฉพาะจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิง ในสายตาแฝงความรู้สึกผิด “ขอโทษ… ข้ามาช้าไปก้าวหนึ่ง…”
พวกหวงชางเทียนต่างส่ายหน้า
ครั้งนี้สามารถรอดชีวิตจากการต่อสู้ได้ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความโชคดีแล้ว
สวบๆๆ!
ห่างออกไป ซย่าจื้อ ต้าหวง อู้เชวีย วิญญาณกระบี่เย่จื่อ วิญญาณดาบหักต่างพุ่งมารวมตัวข้างๆ หลินสวิน
นี่ทำให้หลินสวินแอบโล่งใจ อย่างน้อยคนข้างกายตนก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร นี่ทำให้เขารู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด
ถึงอย่างไรการต่อสู้กับบรรพจารย์จักรพรรดิที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็น่ากลัวเกินไป หากไม่มีซีเป็นกำลังหลัก ผลลัพธ์ย่อมไม่อาจคาดเดา
——