ใต้เขาหุบเหวโลหิตเหล่าผู้กล้าเสียววาบ ไม่มีใครไม่สั่นสะท้านเพราะเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพพาเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งมายอดเขาหุบเหวโลหิต กระบวนทัพระดับนั้นทำให้คนส่วนใหญ่มั่นใจว่าหากจักรพรรดิเต้ายวนกล้าโผล่มา ต้องประสบการโจมตีปานทำลายล้างอย่างแน่นอน
ถึงขั้นล้วนสงสัยว่าจักรพรรดิเต้ายวนไม่กล้ามาตามนัดด้วยซ้ำ
ทว่าตอนนี้จักรพรรดิเต้ายวนไม่เพียงมาแล้ว ซ้ำยังมาคนเดียว ใช้อานุภาพบดขยี้ทลายพลังของเขาหุบเหวโลหิต สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่ม แผลงฤทธิ์ไร้ศัตรู!
นี่ทำลายความรู้ความเข้าใจของผู้คนโดยสิ้นเชิง
“อวี้คุนจื่อ จนป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่เรียกผู้ช่วยเหล่านั้นออกมาอีกหรือ”
บนยอดเขาเหลือเพียงอวี้คุนจื่อคนเดียว หลินสวินย่างเท้าไปเบื้องหน้า สายตาเย็นเยียบชวนสยอง อานุภาพทั้งร่างปิดครอบเวิ้งฟ้า
อวี้คุนจื่อสูดหายใจลึกกล่าวว่า “เจ้าได้ตามที่หวัง!”
ตูม!
ชั่วอึดใจในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพยับหมอกปกคลุมทั่วเขาหุบเหวโลหิตนั่น มีเงาร่างน่าสะพรึงสายแล้วสายเล่าพุ่งพรวดออกมา กรูเข้ามาทางยอดเขา
นั่นเป็นภิกษุชุดดำทั้งกลุ่ม ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มล้วนปลดปล่อยอานุภาพน่าสะพรึงระดับจักรพรรดิออกมา
โดยเฉพาะภิกษุเฒ่าที่เป็นผู้นำ ผิวหนังครึ่งหนึ่งเหี่ยวแห้งเน่าเปื่อย อีกครึ่งหนึ่งมีพลังมีชีวิตเปี่ยมล้น ปรากฏเป็นอนุภาพประหลาดที่รุ่งโรจน์ร่วงโรยสับเปลี่ยน เกิดดับไม่เที่ยง
นี่คือเฒ่าดึกดำบรรพ์แดนกษิติครรภ์ที่สถานะสูงส่งจนน่าตกใจคนหนึ่ง ฉายา ‘บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง’!
ข้างกายบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงมีมหาจักรพรรดิมรรคธรรมแดนกษิติครรภ์ทั้งกลุ่มติดตามมาเก้าคน แต่ละคนอยู่ในโลกมืดล้วนมีอานุภาพไม่อาจประเมินได้
เมื่อเห็นเช่นนี้หลินสวินชะงักเท้าที่รุกโจมตี สายตาลุ่มลึก สีหน้าเป็นปกติ
ก่อนหน้านี้ยามมาถึงยอดเขาหุบเหวโลหิต เขาก็สัมผัสได้ว่าทั่วบนล่างเขาลูกนี้ นอกจากพวกอวี้คุนจื่อแล้วยังมีกลิ่นอายแข็งแกร่งอื่นๆ บางส่วนซุ่มอยู่ที่นี่ด้วย
ดังนั้นเมื่อกลุ่มพวกบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงปรากฏตัว หลินสวินจึงไม่แปลกใจนัก
“แดนกษิติครรภ์ก็ถึงกับส่งคนมาซุ่มโจมตีที่นี่ด้วย!”
ในพื้นที่ละแวกเชิงเขากลับมีเสียงร้องอุทานดังขึ้นระลอกหนึ่ง คนนับไม่ถ้วนตกใจ ล้วนถูกภาพที่เกิดปุบปับทำให้ตกตะลึงไม่กล้าเชื่อ
“หากจัดการแค่จักรพรรดิเต้ายวน แน่นอนว่าคงไม่เคลื่อนกำลังพลขนานใหญ่เช่นนี้ จากที่ข้าเดา การนัดพบที่เขาหุบเหวโลหิตครั้งนี้ สองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์น่าจะร่วมมือกันนานแล้ว เพื่อจะกำจัดจักรพรรดิเต้ายวน รวมถึงกองกำลังที่เหลืออยู่ของหอวิหคทองแดงนั่นให้สิ้นซาก แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิเต้ายวนจะถึงกับมุ่งหน้ามาคนเดียว…”
“น่าจะเป็นเช่นนี้แหละ”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ดังขึ้นไม่หยุดราวหม้อเดือด
และบนยอดเขาหุบเหวโลหิต
หลังพวกบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงปรากฏตัว อวี้คุนจื่อกลับสีหน้าไม่น่ามองนัก ถึงขั้นเจือแววอึมครึมไม่สิ้น
จากสัญญาของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวสังหารหลินสวินครั้งนี้ให้สำนักโบราณจรัสเทพเป็นผู้นำ
ทว่าตอนนี้กำลังพลของสำนักโบราณจรัสเทพเหลือเพียงเขาอวี้คุนจื่อคนเดียว ถึงขั้นที่ชีวิตประสบอันตรายถึงตาย!
นี่จะไม่ให้ในใจอวี้คุนจื่อรู้สึกอับอายได้อย่างไร
โดยเฉพาะตอนนี้ยังต้องขอความช่วยเหลือจากคนของแดนกษิติครรภ์ ยิ่งทำให้เขารู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี
บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงเหลือบมองอวี้คุนจื่อปราดหนึ่งก็ยิ้มขึ้นมา“สหายยุทธ์อวี้คุนจื่อ เจ้าควรปล่อยพลังผนึกของเขาลูกนี้แล้วให้พวกข้ามาช่วยเสริมทัพนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้… ก็ยังไม่สายเกินการ”
อวี้คุนจื่อแค่นเสียงเย็นไม่พูดจา ในใจยิ่งไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ
นัดหมายที่เขาหุบเหวโลหิตครานี้ สิ่งที่เขาพึ่งพาที่สุดก็คือความสามารถควบคุมนัยเร้นลับระเบียบของเขาหุบเหวโลหิต เมื่อมีพลังนี้ก็ถึงขั้นกล้ามองข้ามบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงได้
แต่ตอนนี้…
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าพลังเขาหุบเหวโลหิตนี้ใช้กับหลินสวินไม่ได้สักนิด!
“ยังไม่สายเกินการจริงๆ นอกจากพวกเจ้าแล้วยังมีคนอื่นอีกหรือไม่” กลับเห็นหลินสวินเอ่ยปาก คำพูดสบายๆ ไม่มีความกลัวเกรงใดๆ เผยให้เห็นแม้แต่น้อย
บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงอึ้งไปเล็กน้อย ชี้หลินสวินแล้วหัวเราะด่า “ฮ่าๆ เดรัจฉานน้อยอย่าใจร้อน ข้าจะโปรดสัตว์เจ้าเดี๋ยวนี้”
ตูม!
พูดยังไม่ทันขาดคำ บาตรทองม่วงใบหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นกลางอากาศ สาดแสงธรรมสีดำแปลกประหลาดมากมายแผ่ครอบไปทางหลินสวิน
บาตรหมื่นเคราะห์!
สมบัติประจำตัวของบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง ลือกันว่าเขาดับทำลายความชั่วร้าย หลุดพ้นสลายเคราะห์มาชั่วชีวิตนี้ พลังแห่งการข้ามเคราะพ้นทุกข์ที่สั่งสมมาทั้งหมดล้วนหลอมเข้าไปในสมบัติบริสุทธิ์ชิ้นนี้
อย่าว่าแต่ระดับจักรพรรดิทั่วไป แม้แต่บรรพจารย์จักรพรรดิรุ่นเดียวกัน หากถูกบาตรนี้ปิดครอบก็จะจมสู่นรกพ้นทุกข์ อยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่สามารถ พบเจอความทรมานและการกัดกร่อนของการข้ามเคราะห์พ้นทุกข์ชั่วกัปชั่วกัลป์ น่ากลัวเป็นที่สุด
บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงลงมือ ทำให้ทุกคนล้วนกระปรี้กระเปร่า
ท่วงท่าแข็งแกร่งเผด็จการก่อนหน้านี้ของหลินสวิน ทำเอาคนที่ระดับต่ำกว่าบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างพวกเขาหวาดกลัวอยู่ในใจ
กล่าวได้ว่า ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงก็คือที่พึ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา!
‘เจ้าเฒ่านี่เหี้ยมได้ใจจริงๆ งัดไพ่ตายออกมาใช้ทันทีที่ลงมือ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะให้โอกาสหลินเต้ายวนนี่รอดชีวิตสักนิด” อวี้คุนจื่อสีหน้าเปลี่ยนสลับไปมา
เดิมทีโอกาสสังหารหลินสวินควรจะเป็นของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพ แต่ตอนนี้… เขาอวี้คุนจื่อกลับกลายเป็นผู้ชมเสียได้!
หากเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป หน้าตาและอำนาจบารมีของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพคงป่นปี้!
และในช่วงคับขันอันตรายหาใดเปรียบนี้
ปึง!
เงาร่างดุจมายาสายหนึ่งปรากฏขึ้นเงียบๆ มือเรียวดุจหยกกวาดเบาๆ บาตรหมื่นเคราะห์ที่น่าสะพรึงจนทำให้ระดับจักรพรรดิคนไหนๆ ล้วนสิ้นหวัง ราวพบเจอแรงโจมตีอย่างแรง ส่งเสียงดังวู้มคราหนึ่งก่อนซวนเซลอยคว่ำออกไป
หืม?
บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงนัยน์ตาหดรัดโดยพลัน
ขณะเดียวกันอวี้คุนจื่อและผู้ยิ่งใหญ่แดนกษิติครรภ์คนอื่นๆ ล้วนสั่นไหวไปทั้งร่าง หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ต่างมองไปทางเงาร่างอรชรที่ปรากฏปุบปับสายนั้น
คนผู้นี้ย่อมเป็นซี
“เดรัจฉานเฒ่านี่ใจร้อนรีบไปตาย ผู้อาวุโส ได้แต่มอบให้ท่านจัดการแล้ว”
หลินสวินกล่าวผ่านๆ
ซีพยักหน้า เงาร่างขยับไหว ละอองแสงดั่งภาพฝันสาดพรม ถักทอกลายเป็นเงาแสงประดุจระเบียบ พุ่งไปทางบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง
“สยบ!” บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงตะโกนลั่น
บนตัวเขาแสงเทพรุ่งเรืองโรยราเจิดจรัส ควบรวมเป็นขาวดำสองสี อานุภาพบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วร่างปลดปล่อยออกมาที่นี่อย่างไม่เคยมีมาก่อน
เวิ้งฟ้าแถบนี้สั่นสะเทือนปั่นป่วนรุนแรง
ก็เห็นบาตรหมื่นเคราะห์ส่องแสง ปรากฏภาพประหลาดดั่งนรกขวางอยู่ตรงหน้า
แต่เมื่อซีกดนิ้วออกไป
ปึง!
ภาพดุจนรกนั่นแตกออกราวกับผ็ษที่ถูกฉีก บาตรหมื่นเคราะห์ถูกซัดจนส่งเสียงครวญแสบหู กระแทกห้วงอากาศเสียงดังโครมคราม กระเด็นคว่ำออกไป
ขณะเดียวกันบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงก็กระอักเลือด
ภาพเช่นนี้ทำให้พวกอวี้คุนจื่อหน้าเปลี่ยนสีกันเป็นแถบ หวาดหวั่นสุดขีด มีหรือจะคิดว่าบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงที่ถูกพวกเขามองเป็นที่พึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดกลับส่อแววพ่ายแพ้!
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!?
สวบ!
ไม่รอให้พวกเขาเข้าใจ หลินสวินที่อยู่ไกลออกไปก็ลงมือแล้ว เตากระบี่ส่องแสง ส่งเสียงดังกระหึ่ม พาดขวางกลางอากาศ กระบี่มรรคเล่มหนึ่งลากรุ้งเทพเจิดจรัสหมื่นจั้งฟันออกมา
“รีบลงมือพร้อมกันเร็ว!”
อวี้คุนจื่อตะโกนลั่น
ไม่ต้องให้เขาเตือนเลยด้วยซ้ำ ระดับจักรพรรดิแดนกษิติครรภ์เหล่านั้นก็ตอบสนองทันที
ตูมโครม!
พวกเขาบ้างอานุภาพดุจเหล็กกล้า บ้างราวพระเวทสยบมาร บ้างเหมือนมุนินทร์เยือนโลก บ้างก็ดุจพระโพธิโปรดสัตว์…
ศาสตราจักรพรรดิที่แสงธรรมสีดำไหลเวียนเหล่านั้นส่งเสียงกึกก้องทะยานขึ้นไป มีลูกประคำ แส้หางม้า โคมเขียว ม้วนตำราโบราณ ดอกบัว บรรทัดทัณฑ์ ปลาไม้…
มากมายสารพัด หลากหลายสีสัน
ขณะเดียวกันก็มีวิชาไหลหลั่งราวกระแสน้ำเชี่ยวพาดผ่าน กลบทับยอดเขาหุบเหวโลหิตนั่นในชั่วขณะเดียว ทำเอาฟ้าดินเปลี่ยนสี
อานุภาพปิดล้อมระดับนี้ น่ากลัวยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถทำให้เทพผีหวาดหวั่น สรรพชีวิตสิ้นหวังได้
แต่หลินสวินในตอนนี้เป็นคนระดับใด เดินทางผ่านสองโลกอย่างเจินหลงและหงส์เซียน ระดับจักรพรรดิที่ฆ่าตายนับไม่หวาดไม่ไหว
ผู้แข็งแกร่งระดับบรรพจารย์จักรพรรดิก็ต้องหลั่งเลือดใต้เงื้อมมือเขา นับประสาอะไรกับการจัดการพวกที่ห่างชั้นกับบรรพจารย์จักรพรรดิไกลโขกลุ่มหนึ่ง
ก็เห็นว่า…
กระบี่ครวญใสก้องกระหึ่มดุจอสนีสวรรค์ กระบี่มรรคฟาดฟันตัดขวาง ปรากฏอานุภาพบดขยี้ทั่วลาน ฟันศาสตราจักรพรรดิแตกกระจุย กำจัดวิชามรรคสิ้นซาก พุ่งสังหารไร้อุปสรรค
และเบื้องหน้าหลินสวิน เตากระบี่แผ่ประกายเทพจรัสตา กายมรรคทั้งห้าพริบไหวเคลื่อนทะยาน โจมตีสังหารในที่นี้พร้อมกับร่างเดิมของเขา
ทันใดนั้นอานุภาพกวาดล้างดั่งไร้ศัตรูก็ปรากฏขึ้นในที่นั้นอีกครั้ง
พรูด! พรูด!
เพียงชั่วอึดใจระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดแดนกษิติครรภ์สองคนก็ถูกสังหาร คนหนึ่งถูกกระบี่มรรคฟันหัว บดขยี้ร่างกายและจิตวิญญาณ อีกคนถูกพลังหมัดของหลินสวินซัดเข้าใส่ ร่างกายแยกส่วน แตกระเบิดกลางอากาศ ละอองเลือดสาดกระเซ็น
และพลังโจมตีของหลินสวินยิ่งกร้าวแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดุจไม่มีสิ่งใดต้านได้ เต็มไปด้วยมาดสง่าที่ไร้ใครเทียม อานุภาพกดดันที่ปลดปล่อยในทุกอิริยาบถก็กดบีบจนคู่ต่อสู้แตกพ่าย
อย่าว่าแต่ล้อมกรอบและกดดันเลย แม้แต่ต้านหลินสวินซึ่งๆ หน้าก็ไม่มีใครทำได้!
ตูมโครม!
เลือดนองสาดกระเซ็น อสนีสั่นไหว บนยอดเขาหุบเหวโลหิตนั่นเกิดภาพวันสิ้นโลกอันเดือดคลั่ง สั่นสะท้าน และโกลาหล
ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้ามองอยู่ไกลๆ มีหรือจะเคยเห็นภาพ ‘เลือดนองดั่งบุปผา จักรพรรดิร่วงหล่นดั่งสายฝน’ เช่นนี้มาก่อน แต่ละคนสั่นสะท้านหนังหัวชาหนึบ จิตใจหลุดลอย
ภาพเหตุการณ์ต่างๆ นั้นทำให้ผู้คนล้วนสงสัย ว่าศึกมรรคจักรพรรดิบรรพกาลจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
และหลินสวินที่เคลื่อนตัวอยู่ในสนามรบก็กลายเป็นจุดดึงดูดสายตาที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
พรูด!
พรูด!
พรูด!
พร้อมกับเวลาที่เคลื่อนคล้อย ระดับจักรพรรดิร่วงหล่นคนแล้วคนเล่า เลือดสาดย้อมฟ้าคราม
พวกเขาสู้สุดชีวิต แต่สุดท้ายกลับเปลืองแรงเปล่า และลองพยายามหนีตายแล้ว ทว่าในจังหวะที่หมุนตัวก็ถูกสังหารคาที่
หลินสวินไม่คิดจะให้โอกาสพวกเขารอดชีวิตออกไป!
ไม่นานนักก็เหลือเพียงอวี้คุนจื่อและระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ เพียงแต่เวลานี้สีหน้าพวกขาเขียวคล้ำไม่น่าดู เต็มไปด้วยแววตื่นตระหนกและสะพรึงกลัว
ต่อสู้จนถึงตอนนี้ ระดับจักรพรรดิที่ร่วงหล่นภายใต้น้ำมือหลินสวินมีสิบกว่าคนแล้ว ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่มีใครสามารถทำร้ายหลินสวินได้แม้แต่น้อย!
ตรงกันข้าม ความแข็งแกร่งในพลังของอีกฝ่ายยิ่งกร้าวแกร่งกว่าเมื่อครู่!
ตูม!
เตากระบี่เคลื่อนขวาง กำราบใส่ระดับจักรพรรดิแดนกษิติครรภ์คนนั้น ฝ่ายหลังเห็นเช่นนี้ก็อดร้องเสียงหลงดังลั่นไม่ได้
“ผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย…”
เสียงเจือแววสิ้นหวัง
ตูม!
และในขณะเดียวกัน ส่วนลึกของชั้นเมฆบนเวิ้งฟ้าเกิดเสียงระเบิดดังลั่น ละอองเลือดสาดทั่วฟ้า สมบัติชำรุดชิ้นหนึ่งร่วงลงมาดุจดาวตกที่ร่วงหล่น
เมื่อมองโดยละเอียด นั่นถึงกับเป็นบาตรหมื่นเคราะห์! เพียงแต่ถูกซัดกระจุย อับแสงหมองศรี!
และในที่นั้นไม่มีเงาร่างของบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงนานแล้ว
ในหมอกควันคละคลุ้ง มีเพียงเงาร่างอรชรดุจภาพฝันของซีเดินลงมาจากเวิ้งฟ้า กล่าวเสียงใสกังวาน
“ผู้อาวุโสของเจ้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”
ผู้แข็งแกร่งแดนกษิติครรภ์ระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนนั้นมองเห็นภาพเช่นนี้ก็ตาแทบถลน ในใจเกิดความสิ้นหวังรุนแรง
นี่เพิ่งไม่นานเท่าไหร่เอง ผู้อาวุโสก็ถูกสังหารแล้วหรือ!?
และขณะที่เขาเพิ่งเกิดคำถามข้อนี้ในใจ
ตูม!
เตากระบี่เจิดจ้าแสบตาราวอาทิตย์ดวงใหญ่กดทับลงมา กระแทกร่างกายที่เรียกได้ว่าเป็นดั่งเหล็กกล้าทนทานของเขาจนระเบิดเป็นเสี่ยง เลือดสดพุ่งกระฉูดสูงลิ่ว
——