บทที่ 1987

เวลาเที่ยงวัน ในภูเขาของเขตนิชิทามะโตเกียว

วันนี้อากาศของโตเกียวดีมากๆ

ท้องฟ้าปลอดโปร่ง

พระอาทิตย์อันอบอุ่นลอยอยู่บนท้องฟ้า แผ่ความอบอุ่นและแสงสว่างไปทั่วโตเกียว

อากาศที่ดีแบบนี้ สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ดีมากๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการค้นหาและกู้ภัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจของกรมตำรวจนครบาลโตเกียวค้นหามาแล้วหนึ่งคืน ก็ยังหาเบาะแสของซ่งหวั่นถึงไม่เจอเลยส้กนิด ทำให้ทุกคนในกรม
ตำรวจนครบาลสิ้นหวังมากๆ

ระยะทางในการค้นหา มีศูนย์กลางอยู่ที่ตำแหน่งที่เกิดเหตุ ตอนแรกขยายออกไปห้ากิโลเมตร จากนั้นก็ขยายเป็นสิบกิโลเมตร แต่ก็ไม่
พบอะไรเลย

กรมตำรวจนครบาลตัดสินใจ จะขยายการค้นหาออกไปเป็นยี่สิบกิโลมตร ถ้าในระยะทางยี่สิบกิโลเมตรยังหาไม่เจอ ถ้างั้นคงต้อง
ประกาศให้ทุกคนทราบว่าเธอหายตัวไป และหาตัวไม่เจอ

ในขณะนี้ ซ่งหรงวี่รู้สึกกังวลใจมากๆ

ตอนที่สิ่งที่เขาต้องการคือหาศพของซ่งหวั่นถึงให้จอโดยเร็วที่สุด ถ้าไม่ได้รับการยืนยันว่าซ่งหวั่นถึงเสียชีวิตแล้ว เขาคงอยู่ไม่เป็นสุข
ฮาชิโมโตะชินคิจิก็กังวลมากๆเช่นกัน ตอนนี้กรมตำรวจนครบาลโตเกียวได้ตั้งข้อสงสัยว่าซ่งหวั่นถิงและคนอื่นๆโดนคนวางแผนลอบ
สังหาร ดั่งนั้นพวกเขาเริ่มสอบสวนคดีจากสถานที่เกิดเหตุแล้ว

ถึงแม้ลูกน้องของฮาชิโมโตะชินคิจิ ได้เก็บกวาดร่องรอยในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว แต่ในโลกนี้ไม่มีการก่ออาชญากรรมที่สมบูรณ์
แบบ ถึงแม้พวกเขาจะเก็บกวาดร่องรอยทั้งหมดแล้ว แต่ก็คงเหลือเบาะแสบางอย่างไว้อย่างแน่นอน

ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอเบาะแสดังกล่าว ก็สามารถสีบคันจากเบาะแสนี้ และค่อยๆเกาะรอยจากเบาะแสนี้และรู้เรื่องราวทั้งหมด
เมื่อถึงเวลานั้น ก็สามารถจับกุมฆาตกรที่ลงมือ สึบจนไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังอย่างฮาชิโมโตะชินคิจิ ไม่มีใครสามารถหนีรอดไปได้
คุณท่านซ่งที่อยู่ไกลออกไปในเมืองจินหลิง ในเวลานี้ เขายังคงกังวลมากๆกับการหายตัวไปของซ่งหวั่นถิง

เขาได้โทรหาซ่งหรงวี่หลายครั้งในช่วงเช้า เพื่อถามความคืบหน้าคดีนี้จากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว แต่คำตอบที่ซ่งหรงวี่แจ้งเขาคือหา
เบาะแสของเธอไม่เจอเลย

เรื่องนี้ทำให้จิตใจของคุณท่านกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

ถึงแม้เขาจะหวั่งเป็นอย่างยิ่งว่าหลานสาวของเขาจะปลอดภัย แต่ผ่านไปนานขนาดนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราว ทำให้เขาเตรียมใจเรื่องที่เลวร้าย
ที่สุดไว้แล้ว

เขารู้ดี ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หลานสาวจะมีโอกาสรอยชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ
ดังนั้น เขาก็เลยรีบโทรศัพท์ไปหาเย่เฉินทันที

ทันทีที่เย่เฉินรับสาย เขาก็พูดด้วยความอ้อนวอนว่า:”อาจารย์เย่ ฉันขอร้อง คุณช่วยหาวิธีช่วยหวั่นถึงด้วย!”
ขณะพูด คุณท่านกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ และร้องไห้ออกมา

เย่เฉินรีบพูดปลอบใจทันที:”คุณท่าน คุณใจเย็นๆ เรื่องของหวั่นถิง ฉันจะช่วยอย่างสุดความสามารถ”
คุณท่านซ่งถอหายใจและพูด:”อจารย์เ คุณอาจจะไม่รู้ หรงวี่ได้เดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้ แต่ทางฝั่งญี่ปุ่นค้นหาหวั่นถิงจนถึงตอนนี้ก็
ยังหาเธอไม่เจอเลย คนที่ไปพร้อมกับหวั่นถึงอีกสามคนเสียชีวิตหมดแล้ว แต่ยังไม่รู้ชะตากรรมของหวั่นถึงเลยว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
เรื่อง…เรื่องนี้จะไม่ให้ฉันกังวลใจได้ยังไง…”

เดิมที่เย่เฉินยังคิดอยู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับคุณท่านซ่งดีไหม บอกเขาว่าซ่งหวั่นถิงปลอดภัยแล้ว

แต่หลังจากไตร่ตรองแล้ว เขารู้สึกว่ายังไม่ควรบอกเรื่องนี้ให้เขาทราบ ในเมื่อเคยพูดแล้วว่าห้ามบอกคนอื่น ถ้างั้นก็ไม่ควรบอกคนอื่น
จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นคุณท่านซ่ง หรือมีคนอื่นถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันก็ไม่ควรเปิดเผยให้คนอื่นทราบ
ดังนั้น เขาก็เลยพูดกับคุณห่านซ่ง:”คุณท่าน คุณโปรดวางใจ ฉันได้ขอให้เพื่อนที่อยู่โตเกียวช่วยคันหาหวั่นถึงแล้ว ถ้ามีข่าวคราวอะไร
ฉันจะแจ้งคุณเป็นคนแรก”

คุณท่านซ่งพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น:” อาจารย์เย่ ฉันขอพูดตรงๆ ครั้งนี้ฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลย เรื่องที่เกิดกับหวั่นถึงน่าจะมีคนคิดลอบ
สั่งหารเธอ และคนอื่นๆทั้งหมดก็เสียชีวิตแล้ว มีเพียงเธอหายตัวไปคนเดียว ฉันรู้สึกว่าเธออาจจะตายไปแล้ว หรือไม่ก็กำลังเผชิญกับเรื่อง
อันตรายถึงชีวิต…”

เย่เฉินเอ่ยปากพูด:”คุณท่าน เรื่องนี้ยังไม่ได้ขอสรุป ดั่งนั้นคุณอย่าพึ่งมองโลกในแง่ร้าย ฉันเชื่อว่าหวั่นถึงเป็นคนดีและสวรรค์ต้อง
คุ้มครองเธอ เธอน่าจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้”

คุณท่านซ่งนิ่งไปชั่วครู่และพูดอ้อนวอน:”อาจารย์เย่ ถ้าเป็นไปได้ ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะรบกวนคุณ….