บทที่ 1998

ซ่งหรงวี่โดนเย่เฉินจ้องมองจนรู้สึกร้อนตัว รีบกัหน้านที แสร้งทำเป็นเคารพและพูด:”อาจารย์เย่ ทางฝั่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวได้
ส่งเจ้าหน้าที่จำนวนมากออกไปค้นหาที่เขตนิชิทามะโตเกียว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบหวั่นถึงเลย”

ขณะพูด ซ่งหรงวี่ก็รีบพูดเสริมทันที:”แต่พวกเรากำลังเพิ่มกำลังตำรวจเพื่อขยายพื้นที่ในการคันหามากขึ้น หวังว่าพวกเราจะหาเบาะแส
อันมีค่าได้อย่างรวดเร็ว แน่นอน ถ้าดีที่สุดคือหาหวั่นถิงให้เจอโดยเร็วที่สุด”

เย่เฉินโบกมือและพูดเบาๆ”ฉันไม่ได้ถามข้อนี้ ฉันถามว่าทางฝั่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ได้ข้อสรุปของเรื่องนี้หรือยัง รถตู้ตกหน้าผา
ครั้งนี้ มันเป็นอุบัติเหตุหรือเรื่องบังเอิญ? เป็นอุบัติเหตุจริงๆหรือมีคนต้องการลอบสังหารเธอ?”

เมื่อได้ยินคำว่าลอบสังหาร ซ่งหรงวี่รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

เขารู้สึกว่าแผ่นหลังของตัวเองเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ยังดีที่ตัวเองใส่เสื้อแจ็กเกต ทำให้มองเห็นได้ยาก

อันที่จริง ทางฝั่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวได้มีข้อสรุปเรื่องนี้แล้ว พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นการลอบสังหาร เพราะสถานที่เกิดเหตุ
มีคนเก็บกวาดร่องรอยอย่างชั่ดเจน

แต่ตอนนี้ พวกเขายังหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย

ตอนนี้เย่เฉินถามเขาตรงไปตรงมา ทำให้ซ่งหรงวี่ยิ่งกระวนกระวายใจ

เดิมที่เขาคิดว่าเย่เฉินมาญี่ปุ่นแค่คนเดียว ถึงแม้เย่เฉินจะอยู่ที่โตเกียวก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เพ
ราะเย่เฉินกับตระกูลอิโตะมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ขอแค่เขาพูดเพียงคำเดียว ตระกูลอิโตะคงหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาสืบสวนเรื่องนี้อย่าง
แน่นอน

ตระกูลอิโตะเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมากๆในญี่ปุ่น ถ้าพวกเขาเข้ามาสืบสวนเรื่องนี้ พวกเขาอาจจะใช้วิธีที่ไม่ธรรมดาและสามารถคันพบ
ความจริงก่อนตำรวจก็ได้

ซ่งหรงวี่รู้สึกประหม่ามากๆ และไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของเย่เฉินยังไง

ในเวลานี้ เย่เฉินก็ถามอีกครั้ง:”หรงวี่ ทำไมคุณถึงไม่พูดละ?”

ซ่งหรงวี่ได้สติกลับมาและรีบพูดทันที”เอ่อ อาจารย์ย่ ฉืนต้องขอโทษจริงๆ เมื่อสักครู่ฉันนึกถึงหวั่นถึง และกังวลเรื่องความปลอดภัยของ
เธอมากๆ ทำให้ฉันคิดฟุ้งซ่าน….

พูดจบ เขานั่งตัวตรงและพูดตามความจริงว่า:”อาจารย์เย่ กรมตำรวจนครบาลโตเกียวสรุปเรื่องนี้น่าจะเป็นการลอบสังหาร แต่เนื่องจาก
ไม่พบเบาะแสอะไรเลย ดังนั้นต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ สำหรับการลอบสั่งหาร มันก็เป็นเพียงการขาดเดาเท่านั้น”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชา:”กรมตำรวจนครบาลโตเกียวมีชื่อเสียงโด่งดังว่าเป็นกรมตำรวจที่ไร้ประโยชน์มากๆ ก่อนหน้านี้ความ

ปลอดภัยในโตเกียวแย่มากๆ มีคดีสำคัญเกิดขึ้นมากมาย กรมตำรวจนครบาลโตเกียวยังไม่สามารถไขคดีพวกนั้นได้เลย ถ้าเรื่องของหวั่นถึงต้อง
พึ่งพาพวกเขา ไม่รู้ว่าต้องรอถึงชาติไหน”

หลังจากนั้น เย่เฉินชี้ไปที่อิโตะนานโกะ และพูดกับซ่งหรงวี่ว่า”หรงวี่ คุณนานโกะกับฉันสนิทกันมาก และฉันกับตระกูลอิโตะก็มีความ

สัมพันธ์ที่ดีด้วย ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของตระกูลพวกเขาที่อยู่ในญี่ปุ่น ฉันเชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ เมื่อมีความช่วยเหลือจากคุณนานาโกะ ฉัน
เชื่อว่าพวกเราสามารถค้นหาหวั่นถึงให้เจอและน่าจะเร็วกว่ากรมตำรวจนครบาลโตเกียวอย่างแน่นอน

อิโตะนานโกะพูดด้วยความเคารพว่า:”เย่เฉินซังโปรดวางใจ ขอเพียงคุณพูดออกมา ทุกคนในตระกูลอิโตะจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณ!”

คำพูดของนานาโกะ ทำให้ซ่งหรงวี่หวาดกลัวมากๆ

เขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งและอิทธิพลของตระกูลตระกูลอิโตะ ถึงแม้พวกเขาอาจจะหาซ่งหวั่นถึงที่ยังรอดชีวิตไม่ได้ แต่พวกเขาต้องหา
ความจริงเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่ตระกูลอิโตะได้ส่งเครื่องบินจำนวนมากไปรับตัวเองอย่างอลังการ แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าตระกูลอิโตะให้ความ
สำคัญกับคำสั่งของเย่เฉินอย่างมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเย่เฉินเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ตระกูลอิโตะต้องทำอย่างสุดความสามารถเพื่อค้นหาซ่งหวั่นถึง
และสืบหาความจริงของเรื่องนี้

เมื่อถึงเวลานั้น ฉันคงจบเห่แน่ๆ…

ในเวลานี้ ซ่งหรงวี่รู้สึกสิ้นหวังมากๆ

และหน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเล็กๆ

เย่เฉินมองเห็นท่าทางและปฏิกิริยาทุกอย่างของเขา และเขาก็มั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งหรงรี่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน!