บทที่ 2067

ตระกูลซูและกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น ต่างก็เริ่มตามหาซูรั่วหลีในละแวกน่านน้ำของโตเกียว

แต่ว่า ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ กลับไร้เบาะแสใดๆ ทำให้พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้เลย

ในขณะที่กองกำลังป้องกันตนองภาคพื้นดินญี่ปุ่นกำลังตามหาซูรั่วหลีอย่างคนเสียสติ เรื่อของเย่เฉิน ก็แล่นออกมาจากญี่ปุ่นแล้ว
เรียบร้อย

เรือลอยลำมุ่งสู่ประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปคืนหนึ่ง ก็เดินทางได้หนึ่งส่วนสามของระยะทางแล้ว

เช้าตรู่ ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นบนผิวน้ำทางทิศตะวันออก

แม้ว่าอุณหภูมิในทะเลฤดูหนาวจะหนาวเย็นมากแค่ไหน แต่เย่เฉินก็ยังสวมใส่เสื้อผ้าแค่ชั้นเดียว เดินขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ
ทิศทางเดินเรือ คือทิศตะวันออกมุ่งสู่ทิศตะวันตก ดังนั้นเย่เฉินจึงมายืนดูดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกตรงท้ายเรือ
ขณะนี้ดวงอาทิตย์กำลังโผลขึ้นมาช้าๆ แสงของมันสาดส่องลงบนผิวน้ำจนตกกระทบเป็นดวงอาทิตย์อีกดวงที่เคลื่อนไหวตามคลื่นทะเล
ก่อเกิดเป็นภาพวิวตระการตา ชวนรู้สึกผ่อนคลาย

ถึงแม้เย่เฉินจะกำลั่งเพลิดเพลินกับธรรมชาติ แต่ลึกในใจกลับกำลังขบคิดถึงอนาคตของตัวเอง

แม้ว่าก่อนหน้านี้เยเฉินไม่เคยคิดอยากไปจากเมืองจินหลิง แต่ว่าในตอนนี้เขารู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องไปจากสถานที่ที่ใช้ชีวิตมาสิบ
กว่าปีอย่างเมืองจินหลิงและมุ่งหน้าสู่เนจิง เพื่อทำเป้าหมายของชีวิตให้สำเร็จ

อันดับแรกคือการสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่ หลังจากที่ได้เจอและขัดแย้งกับเย่ฉางหมิ่น เย่เฉินก็ยิ่งอยากทวงคืนทุก
อย่างที่เป็นของพ่อกลับมา

เดิมที่คุณฟอคือลูกหลานของตระกูลเย่ ถําพี่น้องของเขาแบ่งสมบัติกันในสัดส่วนที่เาๆกัน เขาก็สมควรได้รับสมบัติจากตระกูล
เย่25%ด้วยเหมือนกัน

อีกอย่างตอนนั้น คุณพ่อก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตระกูลเย่มีอย่างทุกวันนี้ได้เพียงลำพัง ดังนั้นสมบัติของตระกูลเย่ พ่อของเขา
สมควรที่จะได้รับมากกว่าสัดส่วนที่กล่าวมาด้วยซ้ำ

สมบัติทุกอย่างของตระกูลเยบวกเพิ่มไปอีกล้านล้าน ตี้เหากรุ๊ปบวกเพิ่มไปอีกหมื่นล้าน บางที5%ของทั้งตระกูลเย่ก็ยังไม่พอด้วยซ้ำ
ส่วนที่เหลือ ยังต้องให้คนตระกูลเย่เอาไปครบทุกคนอีก

ไม่ใช่ว่าเย่เฉินโลภมากหรอกนะ แต่เย่เฉินแค่ไม่อยากให้สิ่งที่ควรเป็นของพ่อเขา ต้องตกไปอยู่ในมือของผู้หญิงปากร้ายอย่างเย่ฉาง
หมิ่น

นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือแก้แค้นให้พอแม่

เรื่องของพ่อแม่ ตระกูลเย่ต้องรับผิดชอบ

แต่ว่า ตอนนั้นคนของตระกูลซูแสดงจุดยืนโดยการก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ขึ้นมาเพื่อต่อต้านคุณพ่อ สิ่งเหล่านี้คือความจริงที่ทุก
คนในเย่นจิงทราบกันอย่างทั่วถึง

ดังนั้นในมุมมองของเย่เฉิน ตระกูลคู่แค้นอันดับหนึ่งของตัวเอง ก็คือตระกูลซู

จะไม่กล่าวถึงเรื่องอื่น เอาแค่เรื่องที่ตระกูลซูก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ขึ้นมา ในสายตาของเย่เฉินก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภัยแล้ว
ดังนั้นเขาต้องให้ตระกูลชุชดใช้อย่างสาสม

เดิมที่เขาว่าจะรวบรวมทักษะความสามารถให้มากกว่านี้ แล้วค่อยไปคิดบัญชีกับตระกูลซูและตระกูลเย่

แต่ว่าตอนนี้ ตระกูลเยกับตระกูลซูต่างก็เป็นฝ่ายเสนอหน้าเข้ามาในชีวิตของเขาก่น สิ่งนี้จึงทำให้เขาตระหนักได้ว่า ตอนนี้เขาควรจะ
เตรียมตัวเป็นฝ่ายออกไปเผชิญหน้ากับสองตระกูลก่อนเสียแล้ว

ตอนนี้ซูรั่หลีอยู่ในกำมือของเขาพอดี ที่โชคดีก็คือเธอมีผลต่อความเป็นความตายของตระกูลซุ ดั่งนั้นผู้หญิงคนนี้จึงอาจจะมีประโยชน์
กับเขาพอสมควร อถึงตอนนั้น อาจจะกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการแก้แค้นตระกูลซูก็ได้

ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆก็มีเสียงฝืเท้าดั่งมาจากข้างหลั่ง

เย่เฉินหันกลับไปมอง ก็พบว่าซ่งหวั่นถิงในเสื้อขนเป็ดหนาๆ กำลังเดินเข้ามาหา

เมื่อเห็นว่าเย่เฉินหันมามอง ซ่งหวั่นถิงก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “อาจารย์เย่ทำไมตื่นเช้าจังล่ะคะ?

เย่เฉินพูดยิ้มๆว่า “มันชินน่ะ หลายปีมานี้ไม่ค่อยนอนตื่นสายเท่าไหร่”

พูดจบ ก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “เธอล่ะ? สองวันมานี้ผ่านอะไรมาก็เยอะ เธอควรพักผ่อนให้เพียงพอนะ ขึ้นมาบนนี้ทำไมเช้าขนาดนี้?”