นกกระจอกเขียวหยุดไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ “เหวินเซ่าเหิงคนนี้น่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แหละ รอเจ้าค่อยๆ ก้าวลึกเข้าสู่แดนใหญ่พันศึก ตลอดทางล้วนจะได้พบคนจากเผ่าจักรพรรดิอมตะมากมาย พวกร้ายกาจบางส่วน เมื่อเทียบกับเจ้ามีแต่จะเหนือกว่าไม่มีเป็นรอง”
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัดลง กล่าวว่า “เจ้าพูดแบบนี้ข้าชักอยากเจอซะแล้วสิ”
นกกระจอกเขียวอึ้งงัน
ขณะสนทนาหลินสวินทะยานผ่านฟ้าดินมาตลอด มารมายาวิญญาณโลหิตที่พบเจอระหว่างไปมาลึกลับ ลอบโจมตีบ่อยครั้ง ทำให้เขาหงุดหงิดรำคาญใจ
สุดท้ายจึงบดขยี้ตรงๆ ไปตลอดทาง
น่าเสียดาย ตลอดทางนี้กลับไม่มีมารมายาระดับจอมราชันสักตน ทำเอาหลินสวินจนคำพูดไปพักหนึ่ง
สัตว์ร้ายเหล่านี้ล้วนถูกล่าสังหารหมดแล้วหรือ
ทันใดนั้นไกลออกไปมีเสียงแหวกอากาศระลอกหนึ่งดังขึ้น เงาร่างระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งปรากฏดุจลมพายุม้วนตลบฟ้าดิน อานุภาพพลุ่งพล่าน
เมื่อเห็นหลินสวินเดินทางเพียงลำพัง ระดับจักรพรรดิเหล่านี้ล้วนอึ้งไป นัยตาหดรัดลงอย่างไม่เป็นที่สังเกต
หลินสวินก็หยุดเท้าเช่นกัน นัยน์ตาดำกระจ่างลุ่มลึก
บรรยากาศกดดันบีบรัด
แต่สุดท้ายชายชุดทองที่เป็นผู้นำคนนั้นโบกมือส่งๆ แล้วพาคนทั้งขบวนพุ่งทะยานออกไปไกลๆ
‘เจ้าพวกนี้ฉลาดทีเดียว’
ในใจหลินสวินอดผิดหวังอยู่บ้างไม่ได้ หากบังเอิญพบเผชิญเคราะห์ อย่างน้อยยังพอปล้นโจรได้บ้าง ไม่แน่อาจรวบรวมมุกบริสุทธิ์ได้มากพอ
แต่สถานการณ์เช่นนี้ดันไม่เกิดขึ้น!
กลุ่มของชายชุดทองจากไปได้ไม่นาน หนึ่งในนั้นอดกล่าวขึ้นไม่ได้ “เจ้าคนก่อนหน้านั้นตัวคนเดียว ด้วยพลังของพวกเราก็สามารถกำราบเขาได้ ต่อให้ไม่ถึงขั้นฆ่าตาย แต่ก็ยังสามารถบีบให้เขายอมมอบมุกบริสุทธิ์มาให้แต่โดยดีได้”
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้รู้สึกไม่ยินยอม
“พวกที่กล้าเดินทางคนเดียวในสมรภูมิมายาโบราณมีหรือจะเป็นคนธรรมดา อย่างน้อยก็ต้องเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิ พวกกระดูกแข็งเช่นนี้กัดไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
ชายชุดทองกล่าวง่ายๆ
“แต่สหายยุทธ์ เจ้าก็เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิ รวมพวกเราอีกหลายคนเช่นนี้ หากลงมือพร้อมกันต้องกำชัยได้แน่”
“ตามความเห็นข้า ไม่สู้ไปลองหยั่งเชิงดูก่อน หากมรรควิถีคนผู้นี้น่าสะพรึงจริง อย่างมากพวกเราแค่รีบเผ่นหนีก็ได้”
คนมากมายเอ่ยปากตามๆ กัน
ชายชุดทองหยุดเท้า เริ่มไขว้เขวอยู่บ้างเช่นกัน
เพราะมุกบริสุทธิ์หายากแสนเข็ญจริงๆ ในสมรภูมิมายาโบราณคนไม่รู้เท่าไหร่กำลังเคลื่อนไหว แค่คิดก็รู้ว่าหากต้องการรวบรวมมุกบริสุทธิ์ในจำนวนมากพอนั้นยากเย็นเพียงใด
“เอาเถิด เช่นนั้นก็ลองไปหยั่งเชิงเขาดูสักรอบ เห็นท่าไม่ดีค่อยถอยร่นทันทีก็ได้”
ชายชุดทองกัดฟันตัดสินใจ
ทุกคนคึกคักขึ้นมาทันที
จากนั้นล้วนติดตามชายชุดทองย้อนกลับไป ไล่ตามหลินสวิน
หลินสวินยังไม่ได้ไปไกลนัก เมื่อสัมผัสได้ว่าพวกชายชุดทองย้อนกลับมาอีกครั้งก็อึ้งไปก่อน จากนั้นความผิดหวังในใจพลันจางหายเป็นปลิดทิ้ง รู้สึกสุขใจยิ่งนัก
เห็นได้ชัดว่าเจ้าพวกนี้… ก็ตัดใจไม่ลงเหมือนกัน!
เช่นนี้ก็ดี!
เขาหมุนตัวทันใด กวาดสายตามองพวกชายชุดทองแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าอยากได้มุกบริสุทธิ์หรือ”
พวกชายชุดทองผงะไป สีหน้าแปลกประหลาด เจ้าหมอนี่หัวไวจริงเชียว
“ไม่ทราบสหายยุทธ์สละให้ได้หรือไม่” ชายชุดทองเอ่ยปาก
คนอื่นๆ ล้วนสายตาเย็นเยียบ มองหลินสวินเป็นเหยื่อ ไม่ปิดบังสีหน้าหิวกระหายนั่นแต่อย่างใด
หลินสวินยิ้มทันใด “พอดีเลย ข้าเองก็อยากได้มุกบริสุทธิ์เหมือนกัน เห็นพวกเจ้าเคลื่อนไหวพร้อมกันหลายคนเช่นนี้ น่าจะรวบรวมมุกบริสุทธิ์ได้ไม่น้อยแล้วกระมัง”
นี่มันสถานการณ์อะไร
คนพวกนั้นล้วนมึนงงอยู่บ้าง เจ้าหมอนี่คงไม่คิดจะ… ปล้นพวกเขาด้วยตัวคนเดียวกระมัง
ชายชุดทองเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี กระแอมแห้งๆ คราหนึ่ง กล่าวว่า “สหายยุทธ์ ไม่สู้พวกเราแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันสักครา หากใครแพ้ก็มอบมุกบริสุทธิ์ในตัวออกมาเป็นอย่างไร”
หลินสวินตอบรับทันควันโดยไม่หยุดคิด “ได้!”
เมื่อเห็นว่าเขาอยู่ภายใต้สภาพถูกล้อมแล้วยังสงบนิ่งมั่นใจเช่นนี้ ถึงขั้นออกอาการคันไม้คันมืออยากกระโจนใส่ ในใจชายชุดทองยิ่งรู้สึกแปร่งๆ มากกว่าเดิม
และก็เป็นตอนนี้เอง…
จู่ๆ เสียงแหวกอากาศระลอกหนึ่งก็ดังลอยมาแต่ไกล
ก็เห็นคนเคลื่อนไหวเข้ามาอีกกลุ่ม ความเร็วเหลือเชื่อ ผู้นำสวมเกราะดำ สะพายทวนศึกสีดำ ไอหมอกดำคลุ้งทั่วร่าง เป็นยอดจักรพรรดิเสวียนซิง!
นางนำพาระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งเข้ามา ทำให้พวกชายชุดทองล้วนหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ เผยแววระวังตัวตามๆ กัน
สิ่งที่ทำให้หลินสวินและชายชุดทองคิดไม่ถึงคือ ทันทีที่มาถึงยอดจักรพรรดิเสวียนซิงก็โบกมือหยกคราหนึ่ง ออกคำสั่งทันที
“ฆ่าคนพวกนี้ซะ แย่งมุกบริสุทธิ์ในตัวพวกเขามา จำไว้ ห้ามทำร้ายหลิงเสวียนจื่อ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพวกเดียวกับพวกเรา”
คำพูดเด็ดขาด ทรงพลังก้องกังวาน ไอสังหารคลุ้งสี่ทิศ
ตูม!
ขณะพูดยอดจักรพรรดิเสวียนซิงก็ออกโจมตีแล้ว ทวนศึกสีดำแหวกอากาศ ดุดันดุจสายฟ้า สังหารดุจสายลม
มุมปากหลินสวินกระตุกเบาๆ พวกเดียวกัน?
นี่เห็นชัดว่าตั้งใจจะแย่ง ‘เหยื่อ’ ของตนไป!
“ที่แท้พวกเขาก็เป็นพวกพ้องกัน ไป!”
ไกลออกไปชายชุดทองหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ตะโกนเสียงดังคราหนึ่งแล้วพาคนทั้งกลุ่มหมุนตัวเตรียมหนี
พวกยอดจักรพรรดิเสวียนซิงไล่ตามไปอย่างไม่ลังเล
ไกลๆ ยังมีเสียงยอดจักรพรรดิเสวียนซิงดังลอยมา “หลิงเสวียนจื่อ เจ้าจงจำไว้ ครั้งนี้เจ้าติดหนี้บุญคุณข้าเสวียนซิง!”
หลินสวินสีหน้าดำทะมึนเล็กน้อย ข้าให้เจ้าสอดมือมาช่วยหรือ แย่งเหยื่อของข้าไปแล้วยังให้ข้าติดหนี้บุญคุณเจ้าอีก ผู้หญิงคนนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
หลินสวินคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตามไป ช่วยไม่ได้ ต่อให้ไล่ตามไปอีกก็คงไม่อาจตักตวงสิ่งใด
หลินสวินส่ายหน้าน้อยๆ แล้วมุ่งหน้าต่อ
ระหว่างทางนกกระจอกเขียวอดกล่าวชี้แนะไม่ได้ “ทุกหนึ่งเดือนจะมีผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิชุดหนึ่งเข้าแดนใหญ่พันศึก ทุกชุดล้วนต้องเข้าสู่สมรภูมิมายาโบราณ ต่อให้มารมายาระดับจอมราชันจำนวนมากมายแค่ไหน ก็ไม่เคยพอต่อการล่า”
“นี่ก็หมายความว่าหากต้องการรวบรวมมุกบริสุทธิ์สิบเม็ดในเวลาอันสั้น มีแต่ต้องไปต่อสู้และแย่งมา”
จุดนี้หลินสวินกระจ่างนานแล้ว กล่าวว่า “อุปนิสัยและความแน่วแน่ของจิตมรรคแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างน้อยภายใต้สถานการณ์ไร้แค้นไร้พยาบาท ข้าย่อมไม่ทำเรื่องปล้นชิงผู้อื่นเช่นนั้น”
นกกระจอกเขียวมองหลินสวินอย่างค่อนข้างเหนือคาด กล่าวว่า “เจ้าไม่เหมือนเหล่ามกุฎมหาจักรพรรดิที่ข้าเคยพบเจอมาเลย”
ขอเพียงเป็นผู้ที่ครอบครองพลังสูงสุด เพื่อบรรลุเป้าหมาย จะมีสักกี่คนที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ได้
อันที่จริงยิ่งพลังปราณสูง พฤติกรรมยิ่งวางอำนาจไม่กลัวใคร คุ้มดีคุ้มร้าย น้อยนักที่จะทำอย่างหลินสวิน
ไม่กี่ชั่วยามต่อมา เสียงต่อสู้ดุเดือดระลอกหนึ่งดังลอยมาแต่ไกล
จิตรับรู้ของหลินสวินแผ่กว้าง และเห็นทันทีว่าห่างไปไกลมีระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมโจมตีชายชุดดำคนหนึ่งอยู่
ชายชุดดำบาดเจ็บสะสม เลือดไหลอาบทั้งตัว เจียนจะยืนหยัดไม่ไหว
กลับกันระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งที่ล้อมเขา กระบวนรบน่าตกใจเป็นที่สุด ผู้นำคือมกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีบรรพจารย์ขั้นเก้าสองคนคอยหนุน
“สหายยุทธ์ช่วยข้าด้วย! ข้ายินดีมอบมุกบริสุทธิ์ในตัวให้เป็นสินน้ำใจ!” ทันใดนั้นชายชุดดำคนนั้นก็เห็นหลินสวิน จึงส่งเสียงตะโกนอย่างร้อนใจออกมา
ขณะเดียวกันระดับจักรพรรดิกลุ่มนั้นก็สังเกตเห็นหลินสวินเช่นกัน เมื่อเห็นเขาตัวคนเดียวก็เผยสีหน้าไม่ใส่ใจออกมา
หลินสวินไหวหวั่นอยู่บ้างจริงๆ
เพียงแต่ยังไม่ทันรอให้เขาตอบสนอง เสียงตวาดลั่นเย็นชาสายหนึ่งก็ดังขึ้น “เจ้าหมอนี่ยืนหยัดไม่ไหวแล้ว พวกเจ้าไปฆ่าเจ้านั่นแล้วชิงมุกบริสุทธิ์ในตัวเขามา!”
ผู้พูดคือมกุฎมหาจักรพรรดิที่เป็นผู้นำ ตัวสูงใหญ่ ทั่วร่างอาบไล้ประกายเทพสีทอง ผมดำปลิวไสว เลือดเย็นอหังการ
“ขอรับ!”
ทันใดนั้นบรรพจารย์ขั้นเก้าสองคนและระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่มล้วนหมุนตัวมา สายตาจับจ้องบนตัวหลินสวิน สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยแววเย้ยหยันและนึกสนุก
สวบ!
เงาร่างพวกเขาพริบไหว พุ่งเข้าล้อมกรอบหลินสวิน
หลินสวินยอมรับว่าตนนั้นผ่านทางมา ไม่ได้มีแค้นพยาบาทใดๆ แต่เห็นได้ชัดยิ่งว่าถึงพูดสิ่งเหล่านี้ไปตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ เพื่อจะแย่งชิงมุกบริสุทธิ์ เห็นชัดว่าเจ้าพวกนี้ไม่คิดจะปล่อยเขาไป
“เห็นหรือยัง เรื่องที่เจ้าไม่ยินดีทำ คนอื่นกลับทำได้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย” นกกระจอกเขียวถอนใจเบาๆ
“เช่นนี้ไม่ใช่ยิ่งดีหรือ อย่างน้อยตอนที่ข้าฆ่าพวกเขาก็ไม่ต้องเกรงใจสักนิด”
หลินสวินยิ้ม
ตูม!
เขาไม่พูดพล่าม การต่อสู้ปะทุขึ้นตรงๆ บรรพจารย์ขั้นเก้าสองคนพุ่งเข้าใส่ก่อนใคร เรียกสมบัติสำแดงวิชามรรค วิธีการโจมตีเด็ดขาดว่องไว
ในเมื่อหลินสวินบอกว่าไม่เกรงใจ ก็ย่อมไม่มีการเกรงใจจริงๆ
ก็เห็น…
เงาร่างของเขาพริบไหว กายมรรคทั้งห้าพุ่งทะยานออกมา เคลื่อนไหวพร้อมกับร่างต้นของหลินสวิน กระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโจมตีใส่บรรพจารย์ขั้นเก้าคนหนึ่งในนั้น
ตูม!
ฟ้าดินพลิกคว่ำ ห้วงอากาศปั่นป่วน
ชั่วพริบตาก็เห็นบรรพจารย์ขั้นเก้าคนที่ถูกหลินสวินเพ่งเล็ง ยังไม่ทันต้านทานก็ถูกร่างต้นของหลินสวินซัดสมบัติกระเด็น ทลายแนวป้องกัน กายมรรคทั้งห้าอาศัยจังหวะพุ่งเข้าใส่ ซัดกระหน่ำรุนแรง สังหารบรรพจารย์ขั้นเก้าคนนี้ตายคาที่ เลือดเนื้อและพลังจิตล้วนแตกระเบิด เถ้าธุลีปลิวลอย
ดุดันยิ่งยวด!
“แย่แล้ว!”
บรรพจารย์ขั้นเก้าอีกคนหน้าเปลี่ยนสี วิญญาณแทบหลุดลอย ตระหนักได้ว่าครั้งนี้พบเข้ากับของแข็งที่น่าสะพรึงสุดขีดคนหนึ่งเข้าให้แล้ว
แต่หลินสวินไม่ให้โอกาสเขาหลบหนีสักนิด ร่างต้นรวมกับกายมรรคทั้งห้า อานุภาพดุจเหล่าเทพออกรบ บดขยี้ครั่นครืน อานุภาพระดับนั้นประหนึ่งอาละวาดไร้ศัตรู หมายกวาดล้างโลกมนุษย์!
ปึง!
เวลาเพียงชั่วดีดนิ้ว บรรพจารย์ขั้นเก้าคนที่สองก็ถูกซัดระเบิด ตายในสภาพเดียวกับบรรพจารย์ขั้นเก้าคนแรก
ล้วนถูกหลินสวินและร่างแยกของเขาใช้พลังประหนึ่งบดขยี้เข้าสังหารในช่วงที่ยังไม่ทันสู้สุดกำลังทั้งสิ้น
หลังจัดการเจ้าเฒ่าที่รับมือยากสองคนนี้แล้ว หลินสวินปล่อยให้กายมรรคทั้งห้าจัดการระดับจักรพรรดิที่ตกใจหนีเตลิดไปแต่แรกพวกนั้น ส่วนร่างต้นของเขาพุ่งไปหาชายสูงใหญ่ที่อยู่ไกลๆ
และเวลานี้ชายสูงใหญ่ก็ถูกทำให้ตกใจเช่นกัน สมองมึนตื้อ ล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
นี่มันอะไรกัน!?
เขาฝึกปราณจนบัดนี้ ยังไม่เคยเห็นมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นหกคนไหนแกร่งกร้าวเช่นนี้มาก่อน ไม่กี่อึดใจสั้นๆ ก็กำจัดบรรพจารย์ขั้นเก้าสองคนได้!
นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม
เมื่อเห็นร่างต้นของหลินสวินปรี่เข้ามา ชายสูงใหญ่ไม่อาจขบคิดแต่อย่างใด แสงสีทองบนตัวแผ่พุ่งโหมคลั่ง ชั่วขณะนั้นก็เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศหนีห่างออกไป
แสงกะพริบไหวไม่กี่คราก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความเร็วในการหลบหนีระดับนั้นทำเอาหลินสวินยังอดอึ้งไปไม่ได้
จากนั้นเขาส่ายหน้าน้อยๆ ทอดสายตามองชายชุดดำที่บาดเจ็บสะบักสะบอมคนนั้น กล่าวว่า “ได้เวลาทำตามสัญญาของเจ้าแล้ว”
ชายชุดดำสีหน้าซีดเผือด หอบหายใจกล่าว “สหายยุทธ์ ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ทำเพื่อช่วยข้า แต่ทำเพื่อรักษาตน สัญญานี่ย่อมเป็นโมฆะ”
หลินสวินเลิกคิ้ว นัยน์ตาดำลึกล้ำ “เจ้าไม่กลัวข้าจะฆ่าเจ้าชิงสมบัติรึ”
ชายชุดดำแข็งทื่อไปทั้งตัว ฝืนยิ้มกล่าว “ข้าเห็นว่าสหายยุทธ์กระทำการตรงไปตรง คงไม่มีทางทำเรื่องต่ำช้าเช่นนั้น… กระมัง”
หลินสวินยิ้ม คำตอบของเขาเรียบง่ายยิ่ง
ฝ่ามือหนึ่งสะบัดออกไป
…………………….