บทที่ 2087
เดิมที่ ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่องคนพ่อลูก ก็ตกใจจนอกจะแกแล้ว เมื่อได้ยินว่าเย่เฉินจะเชิญคุณท่านซ่งมา ทั้งสองก็เหมือนราวกับ
ถูกฟ้าผ่า ทั้งร่างกายก็สั่นเทาอย่างรุนแรงขึ้นมา
ในเวลานี้ในส่วนลึกหัวใจของสองคนพ่อลูกก็มีความนัยที่ซ่อนอยู่คือ: “คุณท่านกลายป็นโรคอัลไซมอร์แล้วไม่ใช่เหรอ? ขนาดอุจจาระ
ปัสสาวะเขาก็ควบคุมไม่อยู่ เย่เฉินจะพาเขามาในเวลานี้ทำไม?”
ในใจของซ่งเทียนหมิงกระตุกที่นึ่ง และแอบคิดในใจอย่างสิ้นหวัง: “หรือว่า…หรือว่า…หรือว่าไอ้แก่หายดีเหมือนเดิมแล้วเหรอ?! นี่…นี่ก็
จบเห่แล้วไม่ใช่เหรอ?!”
กำลังคิดอยู่ ลุงวีฟอบ้านของตระกูลซ่ง ก็มากับคุณท่านซ่ง ก้าวเดินเข้ามาแล้ว
คุณท่านซ่งในเวลานี้ ร่างกายแข็งแรงสีหน้าเยือกเย็น มีท่าทางเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่ไหนกัน?
ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่ก็หวาดกลัวจนตื่นตระหนกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่เข้าใจ คุณท่านซ่งที่เช่าวันนี้ยังอยู่ในโรง
พยาบาลฉี่ราดกางเกงต่อหน้าพวกเขาสองคน ทำไมตอนนี้ถึงได้หายดีเหมือนเดิม?!
ทันทีที่คุณท่านซ่งเข้ามาในห้องแถลงข่าว ก็ใช้แววตที่ดุเดือดรุนแรงจับจ้องไปที่ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่ฟอลูกคู่นี้ แล้วตวาดอย่าง
โกรธจัดว่า: “ไอ้สารเลว! พวกแกสองคิตว่าตัวเองสามารถปิดท้องฟ้ด้วยฝ่ามือเดียวแล้วงั้นเหรอ?! ไม่เพียงแต่กล้ฆาตกรรมหวั่นถึงเท่านั้นยิ่งไป
กว่านั้นยังกล้าวางยาฉันด้วย พวกแกยังมีความเป็นคนอยู่บ้างหรือเปล่า?!”
ซ่งเทียนหมิงกลัวจนวิญญาณไม่อยู่กับร่าง คุกเข่าคลานเข้าไปถึงตรงหน้าคุณานช่ง และร้องให้พูดว่า: “ฟอ…ผมผิดไปแล้วฟอ…ผม
สมควรตายผมหลงงมงาย ผมรู้ว่าผิดไปแล้วจริงๆ! ขอร้องพ่อยกโทษให้ผมสักครั้งเถอะครับ!”
คุณท่านซ่งตวาดด้วยความโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้: “ยกโทษให้แกงั้นเหรอ? ตอนนี้แกยังมีหน้ามาให้ฉันยกโทษให้แกงั้นเหรอ?! แกรู้
มั้ยว่า สิ่งที่แกทำผิด อยู่ในบัญญัติครอบครัวที่บรรพบุรุษของตระกูลซ่งกำหนดไว้ คือโทษตาย!”
ซ่งเทียนหมิงร้องให้พูดว่า: “พ่อ ผมทำผิดอย่างร้ายแรงจริงๆ แต่ผมก็ถูกบีบคั้นจนไม่มีทางเลือกแล้ว!”
“แกพูดจาเหลวไหล!”
คุณซ่งตะคอกด้วยความโกรธ ยกมือขึ้นตบหน้าซ่งเทียนหมิงหนึ่งฉาด!
ซ่งเทียนหมิงกุมหน้าไว้ และร้องให้พูดว่า: “พ่อ! พ่อคิดดู ผมเป็นลูกชายคนโตของพ่อ! ลูกชายคนโตนะ! ตามกฎของบรรพบุรุษของเรา
ตั้งแต่สมัยโบราณ ก็ควรที่จะเป็นลูกชายคนโตสืบทอดตำแหน่ง แต่ทำไมพ่อไม่ให้ผมเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง? ทำไมถึงให้ยัยเด็กซ่งหวั่น
งมาเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง? ถ้าพอให้ผมเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง ผมจะทำผิดร้ายแรงขนาดนี้ได้ยังไง?”
คุณท่านซ่งโกรธเป็นอย่างมาก ยกมือตบซ่งเยนหมิงอีกครั้ง: “แกอ้สารเลว! จนถึงตอนนี้ยังจะหาข้อแก้ตัวต่างๆนานามาให้หลุดพัน ครั้ง
นี้หากไม่ใช่อาจารย์ใจดีช่วยเหลือและคอยอยู่เบื้องหลังคิดอุบายวางแผ่นการ หวั่นถึงก็ถูกพวกแกสองพ่อลูกฆ่าตายไปตั้งนานแล้ว! ฉันก็ถูก
พวกแกวางยาพิษกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปแล้วด้วย! แกคิดว่าเรื่องนี้ แกจะรอดได้งั้นเหรอ?”
ซ่งหรงวี่เพื่อปกป้องตัวเอง ร้องไห้พูดกับคุณานซ่งว่า: “คุณชุ ผมเชื่อฟังคำสั่งการของพ่อ เขาเป็นคนจัดการให้ผมทำแบบนี้ทุกอย่าง
ขอร้องคุณปู่เห็นแก่ที่ผมเป็นหลานชายคนโตของคุณปู่ โปรดยกโทษให้ผมด้วย…”.
คุณท่านซ่งชี้ไปที่ซ่งหรงรี่ และพูดอย่างโกรธเคือง: “หน้าด้านไร้ยางอายไร้ความรับผิดชอบตกอยู่ในสภาพที่ลำบากทรยศพ่อเพื่อความ
อยู่รอด! ทำไมตระกูลซ่งของฉันถึงได้มีหมาหัวเน่าแบบแกด้วย!”
จากนั้น เขามองสองคนพ่อลูก และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “พวกแกสองคนเป็นหมาหัวเน่าของตระกูลซ่ง ทำผิดร้ายแรงขนาดนี้ ต้อง
จัดการตามกฎของครอบครัว! ใครขอร้องก็ไม่มีประโยชน์!”
หลั่งจากนั้น เขามองไปทางลุงวีที่อยู่ข้างกาย และอ้าปากถามว่า: “เหล่าวี่ นายอยู่ในตระกูลซ่งมาหลายปีแล้ว นายบอกมา ตามกฎ
ครอบครัวของตระกูลซ่ง ควรจะจัดการสองคนนี้ยังไง?!”
ลุงวีพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: “ตามบรรหัดที่หนึ่งของกฎครอบครัวของตระกูลซ่ง ผู้ที่ญาติพี่น้องฆ่าก้นเอง ฆ่า! ผู้ห่วางแผนฆ่าบิดา ฆ่า!”
ซ่งหรงวี่หวาดกลั่วจนแทบจะเป็นลมไป และร้องให้พูดว่า: “คุณปู่! ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองตัวยกฎหมาย ไม่ใช่สั่งคมในยุคศักดินาของ
ปีนั้นแล้ว! ปูไม่มีสิทธิ์ฆ่าพวกเรา! ถ้าปู่ฆ่าพวกเราแล้ว ตั๋วปู่เองก็จะถูกยิงตาย!”
ซ่งเทียนหมิงก็พูดด้วยความสะอิกสะอื้นว่า: “พ่อ หากพ่อไม่อยากยกโทษให้พวกเรา งั้นก็ส่งพวกเราไปที่ฝ่ายตุลาการเถอะ! ให้ฝ่าย
ตุลาการพิจารณาตัดสินคดีอย่างเป็นกลาง ไม่ว่าพวกเขาจะต้ดสินจำคุกกี่ปี พวกเราก็ยอมรับไว้…”
ในใจของซ่งเทียนหมิงรู้ดีว่า อาชญากรรมที่ตัวเองและลูกได้ก่อไว้ ต่อให้ถูกดำเนินคดี ก็ไม่มีทางถึงขั้นต้องโทษประหารชีวิต
เขาแอบคิดในใจว่า: “ท้ายที่สุดแล้ว ฉันและลูกชายไม่ได้ลงมือฆ่าคนด้วยตัวเอง ฆาตกรที่แท้จริง คือนักฆ่าหลายคนที่ซาซิโมโตะ ซินคิจิ
จ้างมาจากในประเทศญี่ปุ่น”