บทที่ 2109

เมื่อเห็นเซียวฉางควนและหม่าหลั่นก็จะทะเลาะกันขึ้นมา เซียวชูหร้นก็รีบออกมาไกล่เกลี่ยว่า: “โธ่เอ๊ยพ่อค่ะแม่ค่ะ พวกคุณอย่าพูดจากัน
ก็ทะเลาะกันได้มั้ย? เย่เฉินเพิ่งจะกลับมา ยิ่งไปกว่านั้นรั่งหลินก็อยู่ด้วย อย่าให้คนอื่นเขาดูเรื่องตลก….

เซียวฉางควนมองไปที่หม่าหลัน และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เห็นแก่หน้าของลูกสาว ฉันก็จะไม่ถือสาคุณ!”

หม่าหลั่นพูดด้วยความไม่พอใจว่า: “ดูคำพูดนั้นของแก ก็เหมือนกับว่าฉันอยากจะถือสาแก”

จากนั้น หม่าหลันเชิดหน้าไปข้างหนึ่ง ไม่มองเซียวฉางควนอีก

ในเวลานี้ ต่งรั่งหลินพูดกับเซียวชูหรั่นด้วยความกระอักกระอ่วนว่า: “ใช่แล้วชูหรัน เดือนหน้ากู้ชิวอี่มาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองจินหลิง ถึง
เวลานั้นพวกเราไปดูด้วยกันมั้ย?”

เซียวชูหรั่นรีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เย่เฉินบอกจะไปกับฉัน เขารู้จักกับกู้ชิวอี่ บอกว่าสามารถซื้อตั๋วสำหรับแถวหน้าได้”

ต่งรั่งหลินแกล้งทำเป็นตกใจมองไปทางเย่เฉิน และถามว่า: “เย่เฉิน คุณรู้จักกับกู้ชิวอี๋ด้วยงั้นเหรอ?!”

เมื่อเย่เฉินเห็นท่าทีของต่งรั่งหลิน อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย

ครั้งก่อนไปที่เย่นจิง ตอนที่กู้ชิวอี๋ลากตัวเองไปสเกตน้ำแข็งที่ทะเลสาบโห้วไห่ ก็บังเอิญเจอต่งรั่งหลินอยู่ที่ทะเลสาบโห้วไห่
เธอรู้ว่าตัวเองรู้จักกับกู้ชิว ทำไมตอนนี้ได้ยินเซียวชูหนบอกว่าตัวเองรู้จักกับกู้ชิว กลับยังแกล้งทำท่าทางตกใจมาก?
ในเวลานี้ต่งรั่งหลินก็กะพริบตาใส่เย่เฉิน เย่เฉินก็เข้าใจในทันที

ดูเหมือนว่า ต่งรั่งหลินก็คำนึงถึงตัวเอง ไม่อย่างนั้นเกิดพูดเรื่องที่ตัวเองไปเล่นสเกตน้ำแข็งกับกู้ชิวอี่ เซียวชูหรันก็ต้องเข้าใจผิดอย่าง
แน่นอน

ดังนั้น เขาก็เป็นไปตามคำพูดของต่งรั่งหลิน และพยักหน้าพูดว่า: “คุณกู้เป็นหนึ่งในลูกค้าของผม เมื่อก่อนผมช่วยเธอดูฮวงจุ้ยมาก่อน”
ต่งรั่งหลินอ้าปากพูดว่า: “พระเจ้า ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?! งั้นคุณคงจะสนิทกับคุณกู้มากแน่ๆ ช่วยหาตั๋วแถวหน้าให้ฉันด้วยได้หรือเปล่า?
ถึงเวลานั้นฉันจะจ่ายเงินให้คุณสองเท่า!”

จากนั้น ต่งรั่งหลินกลัวเย่เฉินไม่ตกลง พนมมือทั้งสองและพูดอ้อนวอนว่า: “เข่เฉิน ฉันก็เหมือนกันกับชูหรัน ชื่นชอบกู้ชิวอี๋มานานมากแล้ว
อยากจะนั่งแถวหน้าดูคอนเสิร์ตของเธอเป็นพิเศษ….

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ต่งรั่งหลินก็ถอนหายใจ และพูดว่า: “แต่บัตรคอนเสิร์ตแถวหน้าของเธอซื้อได้ยากมากจริงๆ ตราบใดที่เธอเปิดคอนเสิร์ต
ทายาทเศรษฐีจากทั่วประเทศจะรุมเหมือนแมลงวัน ที่นั่งดีๆทั้งหมดก็จะถูกแย่งหมดเกลี้ยงในชั่พริบตา ฉันแย่งมาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นก็
ทำได้เพียงขอร้องให้คุณช่วยเหลือแล้ว…”

เมื่อเย่เฉินฟังถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวอย่างฉับพลัน

เมื่อเร็วๆตัวเองก็รับปากกู้ชิวอี๋ จะไปดูคอนเสิร์ตของเธออย่างแน่นอน ต่อจากนั้นก็รับปากเซียวชูหร้นกรรยา จะต้องพาเธอไปดูคอนเสิร์ต
ของกู้ชิวอี๋อย่างแน่นอน

เซียวชูหร้นเป็นกรรยาของตัวเอง กู้ชิวอี๋ก็เป็นคู่หมั้นที่มีการหมั้นหมายกับตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พาภรรยาไปดูคอนเสิร์ตของคู่หมั้น เดิมที่ก็
ทำให้ตัวเองหนักใจมากอยู่แล้ว คาดไม่ถึงว่าในเวลานี้ต่งรั่งหลินก็ยังมาเพิ่มความยุ่งยากให้อีก!

เรื่องที่ต่งรั่งหลินชอบเย่เฉิน ตัวของเย่เฉินเองก็รู้มานานแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็รู้ว่า อุปนิสัยของต่งรั่งหลินก็ร้อนแรง กล้าหาญมาก ตอนนั้นที่แช่บ่อน้ำพุร้อนด้วยกันสามคนกับตัวเองและภรรยา เธอก็
กล้าฉวยโอกาสในขณะที่ภรรยาหลับมาสารภาพรักที่ข้างกายตัวเอง ถ้าคอนเสิร์ตของกู้ชิวเธอก็อยู่ด้วย นั่นก็ไม่รู้ว่าจะวุ่นวายมากแค่ไหน
จริงๆ…

ดังนั้น เย่เฉินพูดขอโทษเล็กน้อยว่า: “รั่งหลิน ขอโทษด้วยจริงๆ เรื่องนี้ผมคงจะช่วยเหลือคุณไม่ได้ เพราะว่าผมได้บอกกล่าวกับคุณกู้
แล้ว คุณกู้บอกว่าอย่างมากที่สุดก็ช่วยผมจัดการตั๋วได้แค่สองใบ”

“คุณก็รู้ว่า ความสัมพันธ์ของผมกับคุณกู้ ก็เป็นเพียงความส้มพันธ์ลูกค้าฝ่ายผู้จ้างกับฝ่ายรับจ้าง คนอื่นเขาสามารถจัดการตั๋วให้ผมได้
สองใบ ก็ใจกว้างมากแล้ว ผมก็เกรงใจที่จะไปเอ่ยปากขอเพิ่มเติมกับคนอื่นเขาอีก…

เมื่อต่งรั่งหลินได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก

เธอแอบคิดในใจว่า: “เดิมที่บัตรคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋ก็หาซื้อได้ยาก นั่งแถวหน้าก็ยากที่จะเปลี่ยนได้มาก”

“ตอนนั้นเย่เฉินบอกว่า เหตุผลที่เขารู้จักกับกู้ชิวอี๋ เป็นเพราะปีนั้นในบ้านของกู้ชิวอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง ได้จัดตั้งกลุ่มช่วย
เหลือการกุศลกับเขา….

“พูดตรงๆ ตอนที่เเฉินยังเป็นเด็กอาศัยความช่วยเหลือของตระกูลกู้มาทั้งหมด ตัวเองก็คงจะติดค้างหนี้บุญคุณตระกูลกู้มากมายแน่ๆ ถ้า
หากให้เขาช่วยตัวเองไปขอตั๋วกับกู้ชิวอี๋ งั้นก็ต้องทำให้เย่เฉินติดค้างหนี้บุญคุณมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ฉันไม่อยากให้เย่เฉินเพื่อช่วยขอตั๋วแต่
ถูกคนดูถูก!”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็รีบพูดว่า: “ไม่เป็นไรๆ งั้นฉันคิดหาทางเอง ถ้าไม่ได้ตั๋แถวหน้าสุด ถึงเวลานั้นฉันซื้อก่อนหน้าห้าแถวใบหนึ่ง ก็พึง
พอใจแล้ว”

เมื่อเย่เฉินได้ยินแบบนี้ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจเล็กน้อย

เขาคิดว่ ถ้าหากตัวเองม่สามารถหักห้มให้งรั่งหลินไปดูคอนเสิร์ตได้ ถ้าอย่างนั้นถึงเวลานั้นงรั่งหลินนั่งห่างไกลกับตัวเองและ
ภรรยาเล็กน้อย ก็เป็นเรื่องที่ดี

อย่างน้อย ถึงเวลานั้นความกดดั่นของตัวเองก็สามารถน้อยลง

เย่เฉินรู้ดีว่า ถ้าหากตัวเองไปขอตั๋สามใบกับกู้ชิว ถ้าอย่างนั้นเธอไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นจะให้สามที่นั่งติดกันอย่าง
แน่นอน