บทที่ 2173

เมื่อหลิวจฮุยและเฉินเสี่ยวเฟยได้ยินว่าเย่เฉินซอบสลักตัวอักษรไว้บนหน้าผากคนอื่น พวกเขาก็นึกถึงหลิวกว่างกับหลิวหมิงสองพ่อลูกที่
ไม่มีใครในเมืองจินหลิงที่ไมรู้จักพวกเขา!

พ่อลูกคู่นี้ เป็นที่รู้จักกันทั่ทั้งเมืองและแม้แต่คนทั้งประเทศ

ตอนแรกหลิวหมิงถูสลักคำว่ายาจกอยู่นหน้าผาก เพราะเนื่องจากเขาได้ไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตที่ลึกลับ

จากนั้นพ่อของหลิวหมิง ที่ชื่อหลิวกว่างต้องการล้างแค้นให้หลิวหมิง แต่เขาก็ได้ล่วงเกินคนใหญ่คนโตสึกลับคนนั้นอีกเช่นกัน ดังนั้นหนำา
ผากของเขาจึงถูกสลักอักษรสี่ตัวว่า พ่อของยาจก

นี่ยังไม่จบ

สิ่งที่ทำให้สองพอลูกโด่งดังไปทั่วประเทศจริง ๆ ก็คือการที่สองพอลูกพูดล้อเลียนเรื่องของตระกูลอู๋ในรายการเล่นตลก

คำพูดที่สองพอลูกพูดล้อเลียนในรายการเล่นตลก เป็นการล่วงเกินตระกูล และมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า ในความเป็นจริงพวกเขาไม่กล้า
ล่วงเกินตระกูลอู๋ เหตุผลที่พวกขาบันทึกการพูดคุยล้อเยนในรายการเล่นตลกนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาถูกบังคับ

ก่อนหน้านั้นทุกคนไม่รู้ว่า พวกเขาถูกคนใหญ่คนโตคนไหนข่มขู่ ถึงได้กลำพูดล้อเลียนล่วงเกินตระกูล ตอนนี้หลิวจงฮุยรู้แล้วว่า ที่แห้
คนที่หลิวกว่างกับหลิวหมิงสองพ่อลูกล่วงเกินนั้นคืออาจารย์เย่คนนี้

ตอนนี้ เกรงว่าซะตากรรมของตนเองจะเหมือนกับซะตากรรมของหลิวกว่างและหลิวหมิง

เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ หลิวจงฮุยรู้สึกเจ็บที่หน้าผากอย่างอธิบายไม่ถูก

ราวกับว่ามีใครบางคนใช้มีดสลั่กคำไว้บนหน้าผากของตนเอง

ในขณะที่เขาทำอะไรไม่ถูก เเเฉินที่อยู่ด้นข้างกล่าวกับหม่าจงเหลียงว่า “เรื่องสลักตัวกษรนั้นช่างเถอะ ความผิดของสองคนนี้ ไม่ใช่
การดูถูกคนอื่น แต่เป็นการกสั่นคนอาชีพเดียวกันและครอบครองตลาด บังคับให้คนดีเป็นโสเภ สำหรับคนเช่นนี้ต้องเปลี่ยนวิธีจัดการ”

หม่าจงเหลียงรีบถามด้วยนอบน้อมว่า “อาจารย์เย คุณต้องการจัดการสองคนนี้อย่างไร? ขอแค่คุณพูดออกมา ผมจะจัดการให้ดีที่สุด!”
เย่เฉินพยักหน้าและถามเขาว่า “คุณมีไนท์คลับ KTV หรือไม่?”

หม่าจงเหลียงกล่าวออกมาโดยไม่ลังเลว่า “อาจารย์เย่ พวกเราก็อาศัยไนคลั่บ KTV ในการทำมาหากิน! และท่านหงห้าเป็นคนมอบหมาย
ให้ผมดูแลอยู่ 6 แห่ง!”

เย่เฉินกล่าวว่า “เอาล่ะ ให้ฉินเสี่ยวเฟยไปป็นสาวนั่งรั้งไนล้บ เธอซอบบังคับผู้หญิงไปเป็นสาวนั่งตริ้งตอนกลางคืนไม่ใช่หรือ? เมื่อ
สักครู่ก็จะบังคับน้องสาวผมไปเป็นสาวนั่งดริ้งด้วย ดังนั้นให้ตัวเธอไปลองบ้าง เงินที่เธอหามาได้นั้นไม่ต้องให้เธอสักหยวน เมื่อไหร่ที่เก็บออมจน
ครบห้าล้าน แล้วค่อยปล่อยให้เธอเป็นอิสระ!”

เมื่อเฉินเสี่ยวเฟยได้ยินประโยคนี้ เธอตกใจจนทรุดตัวลงทันที เธอคุกเข่าลงบนพื้น ร้องไห้และกล่าวว่า “คุณเย่ ขอได้โปรดเห็นแก่ความ
เลอะเลือนชั่วครู่ของฉัน ได้โปรดยกโทษให้ฉันครั้งนี้ด้วยเถอะ……การเป็นสาวนั่งดริ้งที่ไนตัคลับ KTV สามารถหาเงินได้ไม่เกินสามสี่ร้อยหยวน
ต่อวันเท่านั้น เงินห้าล้านหยวน….จะต้องทำงานหาเงินนานแค่ไหนถึงจะครบ….

เย่เฉินกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ทำไม? เมื่อถึงคิวตนเองคุณก็รู้สึกทรมาน แล้วตอนที่คุณบังคับให้คนอื่นไปเป็นสาวนั่งตรั่ง ทำไมคุณถึงไม่
คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างล่ะ? ผมจะทำให้คุณรู้ว่า อะไรที่เรียกว่า สิ่งที่ตนเองไม่อยากทำ ก็อย่ายัดเยียดให้กับผู้อื่นต้องไปทำ!”

เฉินเสี่ยวเฟยร้องให้คร่ำครวญละกล่าวว่า “คุณเ.ย่…..เมื่อก่อนฉันเคยทำผิดมากมาย แต่…… แต่ฉันยังมีความยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง ถ้ากล่าว
ตามหลักแล้ว ฉันคนเดียวหลอกเงินคนอื่นมาได้ไม่กี่แสนหยวน แล้วทำไมคุณถึงให้ฉันชดใช้เงินตั้งห้าล้านหยวน…..”

เย่เฉินกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ถ้าคุณคิดว่าห้าล้านมันมากเกินไป งั้นผมก็สามารถปรับเป็นสิบล้านได้ ถ้าคุณยังคิดว่าสิบล้านมากเกินไป
อีก ผมก็สามารถปรับเป็น ยี่สิบล้าน”

เมื่อเฉินเสี่ยวเฟยได้ยินประโยคนี้ เธอรู้สึกว่าชีวิตฟังทลายลงแล้ว….

เธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในใจ “เย่เฉินคนนี้ ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ!”