ในสายตาของนายท่านใหญ่ซูเฉิงเฟิง เกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลซู ตัวเองจะทำให้ขายหน้าอย่างไรก็ได้ แต่คนอื่นๆจะทำไม่ได้เด็ดขาด!
เขาเป็นคนตัดสินใจที่จะหักหลังซูรั่วหลี ถึงแม้สุดท้ายจะบังคับให้ซูโสว่เต้าแบกรับความผิด แต่ที่ตระกูลซูต้องขายขี้หน้าก็เป็นเพราะเขา แต่ไม่เพียงที่เขาไม่ทบทวนความผิดพลาดใดๆทั้งสิ้นของตัวเอง กลับกันยังยอมให้ราชสำนักจุดไฟ แต่จะไม่ยอมให้ราษฎจุดไฟโดยเด็ดขาด
ถึงตู้ไห่ชิงจะยังไม่ได้หย่าขาดกับซูโสว่เต้า แต่ชีวิตคู่ของเธอกับซูโสว่เต้า เป็นเพราะซูโสว่เต้านอกใจก่อน อย่าว่าแต่เธอที่แค่อยากจะซื้อบ้านเก่าที่เย่ฉางอิงเคยพักอาศัย ถึงเธอจะนอกใจซูโสว่เต้าเหมือนกัน คนตระกูลซูก็ไม่มีสิทธิ์กล่าวโทษ
แต่ทว่า ในสายตาของนายท่านใหญ่ซู กลับไม่ได้คิดอย่างนั้น
เขาคิดว่า ถึงแม่ลูกชายของตัวเองจะนอกใจก่อน แต่ในฐานะที่ตู้ไห่ชิงเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลซู หล่อนจะทำเรื่องที่ทำให้ขายหน้าไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้ ตู้ไห่ชิงวิ่งแจ้นไปรำลึกความหลังเย่ฉางอิง กระทั่งยังจะประมูลบ้านเก่าของเย่ฉางอิง ในความคิดของซูเฉิงเฟิง นี่เป็นการตบหน้าของคนตระกูลซู!
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องทำให้เธอทิ้งความคิดนี้ให้ได้!
ตอนนี้ซูโสว่เต้าหมดหนทางเช่นกัน
เขาเข้าใจตู้ไห่ชิงดี รู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางเกลี้ยกล่อมให้เธอหันหลังได้ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของคุณท่าน ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ตกลงอย่างทำอะไรไม่ได้ แล้วเอ่ยปากพูดว่า“พ่อครับ ผมจะโทรหาตู่ไห่ชิง เพื่อเกลี้ยกล่อมความคิดนี้……”
พูดจบ ซูโสว่เต้าจึงพูดเสริมไปอีกหนึ่งประโยคว่า“ถ้าเธอไม่ฟังผม งั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้”
ซูเฉิงเฟิงตำหนิก็ไว้ไปว่า“ตอนที่แกโทรศัพท์หาหล่อนแกต้องพูดกับเธอให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่ความคิดของแก แต่ยังต้องเอาความคิดของฉันบอกไปด้วย ถ้าเธอไม่เห็นสามีอย่างแกอยู่ในสายตา อย่างน้อยก็ให้ไว้หน้าพ่อตาอย่างฉันด้วย!”
ซูโสว่เต้าจึงทำได้เพียงแค่ตอบตกลง แล้วพูดว่า“ผมรู้แล้วครับพ่อ ผมจะบอกเธอครับ”
ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างเย็นชา“จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย!”
พูดจบ ก็รีบวางสายทันที
ซูโสว่เต้าที่ได้ยินเสียงเร่งรีบของปลายสาย เขาจึงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
เขาเงียบไปประมาณห้านาที แล้วจึงปลดล็อกโทรศัพท์มือถือ แล้วทำการกดโทรหาตู้ไห่ชิงซึ่งอยู่ไกลในเมืองจินหลิง
ตู้ไห่ชิงที่เห็นซูโสว่เต้าโทรศัพท์มา ถึงแม้จะไม่อยากรับสาย แต่ยังคงกดรับสาย แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“มีอะไรไหม?”
ซูโสว่เต้าชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ไห่ชิง พ่อพึ่งโทรศัพท์มาหาผม เรื่องที่คุณไปเมืองจินหลิง เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไร”
ตู้ไห่ชิงถามกลับไปว่า“ฉันมาที่เมืองจิงหลิง ทำไมเขาถึงไม่พอใจ?”
ซูโสว่เต้าระงับความโกรธแล้วพูดอย่างเย็นชาไปว่า“ทั้งๆที่คุณรู้อยู่แล้วแต่ยังตั้งใจถาม?คุณรู้ไหมว่าทั่วทั้งเย่นจิงรู้เรื่องที่คุณไปเมืองจินหลิง?พวกเขารู้ว่าแกไปรำลึกความหลังกับเย่ฉางอิง แถมยังรู้ว่าคุณจะไปซื้อบ้านเก่าที่เย่ฉางอิงเคยอยู่!”
ตู้ไห่ชิงพูดอย่างเรียบเฉย“ฉันจะไปไหนมันเป็นอิสระของฉัน ฉันจะซื้ออะไรมันก็เป็นอิสระของฉัน ในใจของฉันจะถวิลหารำลึกถึงใคร มันก็เป็นอิสระของฉัน อย่าว่าแต่ทั่วทั้งเย่นจิงรู้เลย ถึงทั่วทั้งหัวเซี่ยจะรู้แล้วยังไงล่ะ?ฉันไม่ได้ทำอะไรที่ละอายแก่ใจ”
“คุณ……”ซูโสว่เต้าถามกลับด้วยความโกรธ“หรือคุณไม่ลองคิดถึงคุณพ่อ?ในตอนที่คนอื่น พูดถึงลูกสะใภ้ของเขารำลึกถึงผู้ชายอีกคน เขาจะรู้สึกยังไง?”
ตู้ไห่ชิงถามกลับอย่างไม่แข็งแกร่งและไม่ถ่อมตัว“ซูโสว่เต้า แล้วคุณไม่คิดถึงพ่อของฉันดูหรอ?ตอนที่คนอื่น พูดถึงลูกเขยของเขา ไปมีลูกนอกสมรสอายุ20กว่ากับคนอื่น เขาจะรู้สึกยังไง?”
ซูโสว่เต้าถึงกับชะงักจนพูดอะไรไม่ออก
เขารู้ดี คำถามนี้ ตัวเองไม่สามารถเอาชนะตู้ไห่ชิงได้ เพราะการกระทำของตนเอง มันผิดกว่าตู้ไห่ชิงร้อยเท่า พันเท่า กระทั่งถึงหนึ่งหมื่นเท่า!
ดังนั้น เขาจึงเงียบไปนาน แล้วถอนหายใจพลางพูดขึ้นมาว่า“นี่!ไห่ชิง เรื่องนี้ตอนแรกผมไม่อยากโทรหาคุณหรอกนะ ประเด็นคือเพราะพ่อโกรธมาก เขาโทรมาหาผม บอกให้ผมเกลี้ยกล่อมให้คุณยอมแพ้ซะ ที่จะไปร่วมประมูลที่สำนักอัยการในวันจันทร์หน้า ผมรู้จักคนอย่างพ่อผมดี เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ผมว่าคุณอย่าไปร่วมงานดีกว่านะ”
เมื่อตู้ไห่ชิงฟังจบ เธอก็พูดอย่างจริงจังไปว่า“ซูโสว่เต้า คุณได้โปรดเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราที่ผ่านมา มอบอำนาจให้ทนายของคุณแล้วหย่ากับฉันเถอะ หลังจากหย่าขาดไปแล้ว ตระกูลซูของพวกคุณก็ไม่ต้องสนใจเรื่องที่ฉันทำอีก ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลซูของพวกคุณ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างมุ่งมั่นเด็ดขาด“เรื่องหย่าตอนนี้ผมยังไม่ตกลง รอผมกลับไปค่อยว่ากัน”
ตู้ไห่ชิงพูดอย่างเรียบเฉยไปว่า“อืม……ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นคุณอย่าโทรหาฉันอีกเลย เมื่อไรที่คุณยอมหย่า ก็ติดต่อทนายของฉันนะ”
เมื่อพูดเรื่องพวกนี้จบ ตู้ไห่ชิงก็วางสายทันที