หวังไห่ซินรอรถของเฉินจื๋อข่ายอย่างกระวนกระวาย แม้ว่าเฉินจื๋อข่ายจะทำความเร็วแล้ว แต่กระนั้นก็ยังไม่ทันการกับสภาพการณ์คับขัน และเรื่องสำคัญในขณะนี้
ดังนั้นเขาจึงรีบเอ่ยพูดอย่างลนลานว่า “ผู้จัดการเฉิน ขอบคุณพระเจ้าในที่สุดคุณก็มาสักที คุณสะดวกขับเข้าไปไหม? ถ้าสะดวก ก็รบกวนขับรถเข้าไปในหอเพชรนิลจินดา ถ้าไม่สะดวก ก็เอารถมาให้ผม ผมจะขับเข้าไปเอง”
เฉินจื๋อข่ายหันไปมองเย่เฉิน “คุณเย่ คิดว่ายังไงครับ?”
เย่เฉินเองก็อยากเข้าไปดูสถานการณ์ จึงพูดขึ้นมาว่า “ขับเข้าไป”
เฉินจื๋อข่ายหันมาพูดกับหวังไห่ซินว่า “เหล่าหวัง เดี๋ยวฉันขับเข้าไปเอง”
“ครับ!” หวังไห่ซินพยักหน้า พร้อมกับรีบเอ่ยถามว่า “ผู้จัดการเฉิน รถของคุณน้ำมันเต็มถังไหมครับ? หลิวจ้านบอกว่าน้ำมันต้องเต็มถัง ถ้าไม่เต็ม ผมจะได้ให้คนไปเอาน้ำมันคันอื่นมาเฉลี่ยเติมให้”
เฉินจื๋อข่ายมองหน้าปัดน้ำมัน จากนั้นก็พูดว่า “เติมมาเต็มอยู่นะ”
“งั้นก็ดีเลย!” หวังไห่ซินถอนหายใจออกมา รีบพูดว่า “คุณขับเข้าไปตรงทางเข้าหอเพชรนิลจินดาได้เลย แต่ว่าห้ามเข้าไปใกล้เด็ดขาด พอไปถึงหลังจากจอดรถ ให้ทิ้งกุญแจไว้แล้วรีบออกมาเลยนะครับ แบบนี้ถึงจะปลอดภัย”
“ได้” เฉินจื๋อข่ายพยักหน้า
ในตอนนี้เองหวังไห่ซินก็รีบให้คนเอาที่กั้นทางออก เพื่อให้รถโรลด์รอยซ์ของเฉินจื๋อข่ายผ่านเข้าไป
หลังจากที่รถของเฉินจื๋อข่ายขับเข้ามาในหอเพชรนิลจินดา เขาก็จอดรถให้ห่างจากประตูทางออกประมาณห้าถึงหกเมตร
จากนั้น เฉินจื๋อข่ายก็พูดกับเย่เฉินว่า “คุณชาย เราลงรถกันเถอะครับ!”
“อืม” เย่เฉินเอ่ยพูด “แต่เดี๋ยวนายลองไปคุยกับเหล่าหวังดูหน่อยนะ ว่าเราสามารถอยู่ที่นี่เพื่อรอดูความคืบหน้าของสถานการณ์ได้หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าพอลงจากรถแล้วก็ไล่เราออกไปจากวงล้อมนะ”
เฉินจื๋อข่ายรีบพูดขึ้นมาว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมจะคุยกับเขาเอง!”
เย่เฉินพยักหน้า “อืม ลงรถเถอะ!”
จากนั้น ทั้งสองคนก็เปิดประตูลงจากรถ
ในตอนนี้เอง หลิวจ้านที่อยู่ข้างในเมื่อเห็นรถโรลด์รอยซ์ขับเข้ามา ก็รีบพุ่งมาที่ประตูทางออก มือหนึ่งถือปืน อีกมือถือระเบิดเอาไว้ เขาตะโกนเสียงดังว่า “เปิดประตูรถออกให้หมด!เปิดกระโปรงท้ายรถให้ฉันดูด้วยว่าซ่อนอะไรเอาไว้ไหม!”
เฉินจื๋อข่ายเปิดประตูรถทุกบาน เพื่อให้หลิวจ้านเห็นข้างในรถ จากนั้นก็ตะโกนตอบกลับไปว่า “ในรถมีแค่พวกฉันสองคน ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เห็นหรือยัง?”
หลิวจ้านตะโกนต่อว่า “กระโปรงท้ายรถล่ะ? เปิดกระโปรงท้ายรถด้วย!”
เฉินจื๋อข่ายรีบตอบตกลง “ได้ ฉันจะเปิดเดี๋ยวนี้”
พูดจบ ก็เตรียมเปิดกระโปรงท้ายรถ
เฉินจื๋อข่ายมีรถโรลด์รอยซ์อยู่หลายคัน ถึงจะเป็นรถสำรองของตระกูลเย่ แต่สิทธิ์การใช้ก็อยู่ในมือเขา
รถที่เขาขับมาวันนี้ เป็นรถที่เขาเอาไว้ใช้รับส่งเย่เฉิน และทุกครั้งที่ใช้รถคันนี้เขาก็จะเป็นคนขับเอง นอกเหนือจากเขามีแค่เย่เฉินคนเดียวเท่านั้นที่ขับรถคันนี้ได้ ดังนั้นในกระโปรงหลังรถจึงไม่มีสิ่งของส่วนตัวของใคร
เมื่อเปิดออก ก็พบว่าข้างในนั้นว่างเปล่าไร้สิ่งของ
หลิวจ้านเองก็เห็นมันอย่างชัดเจน ถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ มองประเมินเย่เฉินกับเฉินจื๋อข่าย จากนั้นเอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “ห้ามดับเครื่อง ทิ้งกุญแจเอาไว้ แล้วพวกแกก็ไปซะ!”