เมื่อหลิวจ้านบอกว่าให้เฉินเจ๋อข่ายกับเย่เฉินออกไป ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวก็คือ “ไม่รู้ไงว่าคุณชายของเขาเป็นใคร คิดว่าจะยอมไปง่ายๆเหรอ?”
“อีกอย่าง ไม่รู้ว่าคุณชายจะลงมือกับหลิวจ้านหรือเปล่า? ระดับความเก่งกาจของคุณชาย เพียงแค่เสกยันต์ฟ้าร้อง รับรองได้เลยว่าหลิวจ้านได้กลายเป็นผุยผงไม่เหลือซากแน่!”
“หรือต่อให้คุณชายไม่ยอมลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ แต่จากพลังวิเศษที่คุณชายมี ก็สามารถจัดการหลิวจ้านคนนี้ได้อย่างง่ายดายไม่ใช่เหรอ?”
ดังนั้น เขาจึงรีบหันไปหาเย่เฉิน เพื่อดูว่าเย่เฉินจะตัดสินใจยังไง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ เย่เฉินกวักมือเรียกเขา พร้อมกับเอ่ยพูดว่า “เรารีบไปกันเถอะ”
พูดจบ เย่เฉินก็หันหลังเดินออกไปก่อน
เฉินจื๋อข่ายชะงักนิ่ง จากนั้นถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วเดินตามไป
เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากลานกว้างของหอเพชรนิลจินดา หัวหน้าทีมหวังไห่ซินก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยพูดขอบคุณว่า “ไอหยาผู้จัดการเฉิน เรื่องวันนี้ขอบคุณคุณมากจริงๆ! ว่าแต่จะให้ผมเตรียมคนไปส่งคุณกับคุณผู้ชายท่านนี้ไหม?”
เฉินจื๋อข่ายโบกมือ เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “เหล่าหวัง พวกฉันขออยู่ดูเหตุการณ์ที่นี่ได้ไหม?”
“ดูเหตุการณ์?” หวังไห่ซินเอ่ยพูดอย่างสองจิตสองใจว่า “ผู้จัดการเฉิน สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายมากนะ! คุณเองก็รู้ ไอ้หลิวจ้านอะไรนั่น มีวัตถุระเบิดอยู่กับตัว! ถ้าเกิดเขากดระเบิดให้ตายกันไปทั้งสองข้าง ทุกคนก็จะโดนหางเลขไปด้วย….”
เฉินจื๋อข่ายโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันว่าหลิวจ้านก็คงยังอยากมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงทุนเสียแรงมากมายเพื่อให้ได้รถโรลด์รอยซ์มาหรอก ในเมื่อเขาอยากมีชีวิต ก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะทำอย่างนั้นหรอก”
หวังไห่ซินคิดอยู่สักพัก ก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ก็ได้ครับ ผู้จัดการเฉิน งั้นรบกวนคุณทั้งสองคนไปหลบด้านหลัง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะได้รับมือได้ทัน”
“ได้!” เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ยพูดขึ้นมา “ขอบคุณนะเหล่าหวัง ไม่ต้องห่วง พวกฉันจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้นายทั้งนั้น!”
หวังไห่ซินเอ่ยว่า “โอเคครับ ผู้จัดการเฉินต้องระวังตัวให้มากๆนะครับ เดี๋ยวผมจะไปประชุมกับหัวหน้า เพื่อหาทางรับมือ!”
จากนั้นหวังไห่ซินถึงได้หันหลังเดินออกไป
เขาเดินออกไปได้ไม่ทันไร เฉินจื๋อข่ายก็เอ่ยถามเย่เฉินที่อยู่ข้างๆเสียงเบาว่า “คุณชาย ว่าแต่คุณอยากอยู่ดูเหตุการณ์ไปทำไมเหรอ?”
เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย พูดขึ้นมาว่า “ฉันอยากดูว่าตกลงแล้วเป้าหมายของหลิวจ้านคือใครกันแน่”
“แล้วยังไงต่อครับ?” เฉินจื๋อข่ายถามต่อ “ถ้ารู้แล้วว่าเป้าหมายของเขาคือใคร แล้วต่อไปคุณชายคิดจะทำอะไรครับ?”
เย่เฉินส่ายหัว “ตอนนี้ฉันไม่รู้ รอดูสถานการณ์ไปก่อนค่อยว่ากัน”
…
ขณะเดียวกัน
ภายในหอเพชรนิลจินดา
หลิวจ้านมองเวลา และคิดว่าได้เวลาสมควรดำเนินแผนขั้นถัดไปแล้ว ดังนั้นจึงล้วงโทรศัพท์ออกมา เพื่อส่งข้อความ เนื้อหาของข้อความเรียบง่ายเป็นอย่างมาก มีแค่สองคำคือคำว่า “ลาก่อน”
อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยข้อความเรียบง่ายสั้นๆว่า “ไปดีมาดี”
นี่คือการยืนยันจากคุณท่านใหญ่ซู และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตกลงกับหลิวจ้านเรียบร้อย
เมื่อใดที่อีกฝ่ายตอบกลับมาว่าไปดีมาดี นั่นก็หมายความว่าพวกเขาเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว หลิวจ้านสามารถออกเดินทางได้