การคาดเดาของซูจือหยาต่อซูจือเฟยแม่นยำมาก

หลังจากที่ซูจือเฟยกลับถึงห้องสิ่งแรกที่เขาทำ ก็คือการรีบรายงานเรื่องที่คุยกับเธอทั้งหมด ให้กับซูเฉิงเฟิงทั้งหมด

ในตอนที่ซูเฉิงเฟิงได้ยินสิ่งที่ซูจือเฟยพูด ซูจือหยูตัดสินใจจะให้ตนรับการลงโทษทางกฎหมาย ในการแถลงข่าวในคืนนี้ เขาถึงกับร้อนใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าเขามีวิธีหลีกเลี่ยงบทลงโทษจากกฎหมาย แต่สิ่งที่เขาเป็นกังวลก็คือ ถูกเธอทำแบบนี้ มันทำให้เขาไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีก

เพราะ ขอแค่ตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย คนทั่วทั้งประเทศก็ไม่มีวันลืมเรื่องนี้ไปง่ายๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ขอแค่ตนยังปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชน พวกเขาก็จะคิดว่าตนน่าจะเป็นนักโทษที่ต้องติดคุก

เมื่อเป็นแบบนี้ ไม่ว่าตนเดินไปที่แห่งหนไหน ก็จะถูกคนรังเกียจสมเพชเวทนา

ในเรื่องของชื่อเสียง ตนจะไม่มีทางพลิกตัวกลับมาได้อีก

ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าควรจะหยุดยั้งซูจือหยูไม่ให้แถลงข่าวประณามตนอยู่นั้น ซูจือเฟยก็พูดข่าวที่ทำให้เขาถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก

ซูจือเฟยกล่าวว่า“ผมไปสืบจากปากของจือหยูแล้วครับ ดูท่า เธออาจจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้น ผมคิดว่า ยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้นน่าจะรู้ว่าจือหยูมาที่จินหลิง ดังนั้นเลยรีบตามมาด้วย นี่จึงอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงสามารถช่วยจือหยูกับแม่ของผม ได้ในทันทีที่เกิดเรื่องขึ้น!”

เมื่อซูเฉิงเฟิงฟังจบ เหงื่อบนฝ่ามือของเขาก็ผุดขึ้นมาในทันที

เขาพบว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินไปในทิศทางที่แย่ลง

สิ่งที่กลัวก็คือการที่ซูจือหยูกับตู้ไห่ชิงยังมีชีวิตอยู่อีก ผลสรุปสุดท้ายทั้งสองคนกลับมาอย่างปลอดภัย

สิ่งที่กลัวก็คือซูจือหยูที่ถูกชาวจีนในญี่ปุ่นผู้เป็นยอดฝีมือช่วยชีวิต ผลสุดท้ายก็คือเขาจริงๆ

สิ่งที่กลัวก็คือเบื้องหลังของซูจือหยูมีคนคอยหนุนหลัง สุดท้ายคิดไม่ถึงว่า ทั้งสองคนเหมือนจะยังมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว

สถานการณ์ในตอนนี้ วิธีแก้ปัญหาที่ซูเฉิงเฟิงสามารถคิดได้ก็คือ การรีบเสริมสัมพันธ์กับซูจือหยูให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว

ถ้าสามารถซ่อมแซมความสัมพันธ์กับซูจือหยูได้ ก็จะสามารถยับยั้งอารมณ์และการกระทำของซูจือหยูได้ ไม่เพียงแต่จบเรื่องแถลงข่าว ยังทำให้ภัยคุกคามของยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นลดลงได้อีกด้วย

ถ้าเป็นแบบนั้น ตนก็จะสามารถเป็นผู้กระทำได้

ไม่แน่อาจจะทำให้ซูจือหยูระวังหน่อยลง ดังนั้นผ่านการสอบถามรายละเอียดข้อมูลจากยอดฝีมือผู้นั้น ถึงเวลานั้นค่อยหาวิธีจัดการยอดฝีมือคนนั้นทิ้งซะ แล้วค่อยหาโอกาสส่งซูจือหยูไปกักบริเวณที่ต่างประเทศ ภัยคุกคามทุกอย่างก็จะหายไป

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูเฉิงเฟิงจึงตัดสินใจ แล้วพูดกับซูจือเฟยว่า“ฉันจะรีบโทรหาจือหยูว่า ดูว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมเธอได้ไหม”

ซูจือเฟยรีบพูดว่า“คุณปู่ครับ จะโทรหาจือหยูในเวลานี้ งั้นเธอก็รู้น่ะสิครับว่าผมแอบมารายงานกับคุณปู่?”

ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างใจเย็นว่า“จากความฉลาดของจือหยู ถึงฉันไม่โทรหาเธอ จู่ๆแกก็กลับไปถามเธอเรื่องพวกนี้ เธอน่าจะเดาได้แล้วล่ะ”

พูดจบ ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ พูดต่อว่า“ไม่แน่ที่จือหยูบอกกับผมเรื่องพวกนี้ อาจจะอยากอาศัยปากของคุณปู่พูดผ่านผมก็ได้ หลังจากนั้นค่อยพูดเงื่อนไขกับผม”

ซูเฉิงเฟิงเข้าใจในหลานสาวคนนี้ดี

ซูจือหยูเป็นคนที่ฉลาดกว่าคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก หลานชายและหลานสาวคนอื่นของตนไม่สามารถเทียบได้ คาดว่าเธออาจจะไม่มีทางถูกซูจือเฟยจูงจมูกเดิน

เมื่อซูจือเฟยได้ยินคำพูดของคุณปู่ เขารู้สึกแก้มร้อนผ่าวโดยมีโทรศัพท์กั้นไว้

ซูจือเฟยรู้ดี น้องสาวฉลาดกว่าตัวเองจริงๆ แต่คำพูดของคุณท่าน มันทำลายศักดิ์ศรีของเขา